- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 November 2017 16:55
- Hits: 1151
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 13-11-17
Market Summary 13-11-17
Close 1,687.05 Volume Bt52585M
Change -2.23 P/E 18.09
%Change -0.13% P/BV
2mmmmmm.03
Change -2.23 P/E 18.09
%Change -0.13% P/BV
2mmmmmm.03
หุ้นแนะนำพิเศษ
SCB (ราคาปิด 150.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg consensus เฉลี่ย 162.54)
มีประเด็นบวกจาก MCSI Thailand ได้เพิ่มสัดส่วนในการคำนวณจาก 6.81% เป็น 7.11%
9M60 มีกำไรสุทธิ 33,953 ลบ.ลดลง 2.7%YoY จากการตั้งสำรองพิเศษเพิ่มเติมใน 3Q60 สินเชื่อ เติบโต 2.8%YTD Bloomberg คาดกำไรปี 60 ราว 4.67 หมื่นลบ. ลดลง 2%
ความเห็น ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของ SCB ยังดีจากการเป็นแบงก์ใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และข่าวการปรับโครงสร้างของลูกหนี้รายใหญ่ทำให้ความกังวลต่อการเป็น NPL ผ่อนคลายลงและส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้น แนะนำ ซื้อ
SCB (ราคาปิด 150.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg consensus เฉลี่ย 162.54)
มีประเด็นบวกจาก MCSI Thailand ได้เพิ่มสัดส่วนในการคำนวณจาก 6.81% เป็น 7.11%
9M60 มีกำไรสุทธิ 33,953 ลบ.ลดลง 2.7%YoY จากการตั้งสำรองพิเศษเพิ่มเติมใน 3Q60 สินเชื่อ เติบโต 2.8%YTD Bloomberg คาดกำไรปี 60 ราว 4.67 หมื่นลบ. ลดลง 2%
ความเห็น ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของ SCB ยังดีจากการเป็นแบงก์ใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และข่าวการปรับโครงสร้างของลูกหนี้รายใหญ่ทำให้ความกังวลต่อการเป็น NPL ผ่อนคลายลงและส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้น แนะนำ ซื้อ
Market View : เลือกเล่นรายตัว
Technical insight : IFS MACO
หุ้นแนะนำพิเศษ : SCB
Technical insight : IFS MACO
หุ้นแนะนำพิเศษ : SCB
หุ้นมีข่าว : PLAT BCP PTT
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน แกว่งตัวแดนลบจากกลุ่ม ENERG หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง กอปรกับแรงขายหุ้นรายตัวที่มีการรายงานผลกำไรงวด 3Q60 ไปแล้ว ส่วน Fund Flow ยังเป็นขายสุทธิวันที่ 4 โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,687.05 จุด (-2.23 จุด) Volume 5.26 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -1,695.18 ลบ. TFEX Net +219 สัญญา ตราสารหนี้ +3,340
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
+น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลงในเดือนต.ค. สอดคล้องกับ UAE ที่คาดว่าโอเปก,ประเทศนอกโอเปกจะบรรลุข้อตกลงขยายเวลาลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.
-แบงก์ชาติจีนเผยยอดปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนพุ่งแตะ 6.63 แสนล้านหยวนในเดือนต.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.81 แสนล้านหยวน
+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติขายติดต่อกันเป็นวันที่ 4 รวม 6.1 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 33.05 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว 1.06 แสนสัญญา)
**จับตาความคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังมีข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
**14 พ.ย. จับตาการประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก
** MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้น SCB PTTGC โดยปรับ BEC ออก
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น แม้จะมีความกังวลเรื่องความล่าช้าในการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ โดยมีปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนทีออกมาแผ่วลงและ fund flow ต่างชาติผันผวน คาดวันนี้ SET จะเคลื่อนไหวที่ 1,680-1,696 จุด
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน แกว่งตัวแดนลบจากกลุ่ม ENERG หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง กอปรกับแรงขายหุ้นรายตัวที่มีการรายงานผลกำไรงวด 3Q60 ไปแล้ว ส่วน Fund Flow ยังเป็นขายสุทธิวันที่ 4 โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,687.05 จุด (-2.23 จุด) Volume 5.26 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -1,695.18 ลบ. TFEX Net +219 สัญญา ตราสารหนี้ +3,340
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการปฏิรูปภาษีของสหรัฐ
+น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลงในเดือนต.ค. สอดคล้องกับ UAE ที่คาดว่าโอเปก,ประเทศนอกโอเปกจะบรรลุข้อตกลงขยายเวลาลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.
-แบงก์ชาติจีนเผยยอดปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนพุ่งแตะ 6.63 แสนล้านหยวนในเดือนต.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.81 แสนล้านหยวน
+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติขายติดต่อกันเป็นวันที่ 4 รวม 6.1 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 33.05 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว 1.06 แสนสัญญา)
**จับตาความคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังมีข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
**14 พ.ย. จับตาการประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก
** MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้น SCB PTTGC โดยปรับ BEC ออก
ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศและราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น แม้จะมีความกังวลเรื่องความล่าช้าในการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ โดยมีปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนทีออกมาแผ่วลงและ fund flow ต่างชาติผันผวน คาดวันนี้ SET จะเคลื่อนไหวที่ 1,680-1,696 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนักหุ้น SCB PTTGC
- MSCI Global Small Cap เพิ่มหุ้น BEC GGC ORI VNT WHAUP
- MSCI Global Small Cap ลดหุ้น AIRA GPSC NYT SCN STPI THRE
- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TPCH TWPC MAJOR
- ประเด็นบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า กกพ.คาดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะ 78 MWในสัปดาห์หน้า เปิดรับซื้อ VSPP Semi-firm 269 MW ต้นปี 61
- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และการร่วมทุน PPP
- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/2560 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ ASIMAR SPALI
- MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนักหุ้น SCB PTTGC
- MSCI Global Small Cap เพิ่มหุ้น BEC GGC ORI VNT WHAUP
- MSCI Global Small Cap ลดหุ้น AIRA GPSC NYT SCN STPI THRE
- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TPCH TWPC MAJOR
- ประเด็นบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า กกพ.คาดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะ 78 MWในสัปดาห์หน้า เปิดรับซื้อ VSPP Semi-firm 269 MW ต้นปี 61
- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และการร่วมทุน PPP
- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/2560 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ ASIMAR SPALI
หุ้นมีข่าว
Analyst Meeting : PLAT (ราคาปิด 8.85 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 8.33 บาท)
3Q60 มีกำไร 198 ลบ. +11%yoy +7%qoq 9M60 มีกำไร 569 ลบ. +8.8%yoy net margin ทรงตัว yoy ในระดับสูงที่ระดับ 38% ขณะที่รายได้รวม(ค่าเช่า+ธุรกิจโรงแรม+อาหารและเครื่องดืม) เท่ากับ 569 ลบ. +8.8% สำหรับ 4Q60 มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นทำให้ OR ของตลาดนีออนปรับดีขึ้นจาก 57% ใน 3Q60 ที่เป็นโลว์ซีซั่น ต้น Q4 ปรับดีขึ้นเป็น 93% และรายได้ค่าเช่าปรับดีขึ้นจากการปรับปรุงพื้นที่ ภาพรวมทั้งปี 60 น่าจะเป็นไปตามแผนและมีโอกาสที่กำไรจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปี 61 รายได้มีแนวโน้มเติบโต 5-6% จากปี 60 แต่คาดว่าจะมีคชจ.เพิ่มขึ้น 15-20% จากคชจ.ก่อนการดำเนินงานเปิดศูนย์การค้า “The Market” เพื่อเตรียมเปิดบริการในปี 62
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อรายได้และกำไรที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ราคาปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 26% จาก 2 เดือนก่อนหน้า PER 33 เท่าสูงกว่ากลุ่มที่ระดับ 19 เท่า แนะนำ “ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว”
PTT รายงานกำไร 3Q60 ที่ 2.23 หมื่นล้านบาท -29%QoQ และ -17%YoY จากค่าใช้จ่ายด้อยค่าของ PTTEP และการหยุดซ่อมบำรุงของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตามกลุ่มโรงกลั่นผลประกอบการปรับตัวขึ้นตามค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นและผลบวกจากกำไรสต๊อกน้ำมันดิบ
BCP รายงานกำไร 3Q60 ที่ 1.3 พันล้านบาท +33%QoQ และ +12%YoY โดยผลประกอบการโรงกลั่นปรับตัวขึ้นตามค่าการกลั่นและกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ ขณะที่ผลประกอบการธุรกิจสถานีจำหน่ายน้ำมันปรับตัวลงตามค่าการตลาดและอยู่ในฤดูฝนทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันลดลง ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าผลประกอบการปรับตัวขึ้นจากการรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าใต้ภิภพที่อินโดนีเซีย
HARN (ราคาปิด 3.54 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4.20 บาท) โชว์งบ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 965 ล้านบาท ส่วนกำไรโต 3 เท่าแตะที่ 91 ล้านบาท ฟากผู้บริหารการันตีรายได้มาตามนัด 1.32 พันล้านบาท ลุ้นวิ่งทะลุเป้า ส่วนปี 61 คาดผลงานติดเครื่องวิ่งต่อ (ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
ความเห็น เมื่อเปรียบเทียบ Dilution Effect กว่า 40% จากการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ HARN (จาก 350 ล้านหุ้น เป็น 584.5 ล้านหุ้น) เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนสำหรับการควบรวม CM ปัจจุบันผลประกอบการงวด 9M60 ภายหลังการควบรวมคิดเป็น EPS กว่า 0.16 บาทต่อหุ้น ได้ก้าวข้าม EPS ของปี 59 อิงจำนวนหุ้นก่อนการควบรวมที่ 0.12 บาทต่อหุ้นไปแล้ว สะท้อนการเพิ่มไลน์สินค้า / สินค้าดังกล่าวมีอัตรากำไรสูงกว่าสินค้าเดิม / และประโยชน์จาก Economies of scale ในด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพสูง ประสบความสำเร็จอย่างมาก และแม้ช่วงเวลาแห่ง Inorganic Growth จะผ่านพ้นไปแล้วในปี 60 ก้าวสู่การเติบโตในระบดับปกติปี 61 ที่ฝ่ายวิจัยคาดราว 10 - 11%YoY ตัว HARN ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ว่าตะเป็นความพยายามในการรุกตลาด CLMV ที่กำลังมีการเติบโตในด้านอุตสาหกรรม และแผนการก่อสร้างโกดังสินค้าทดแทนของเดิมที่มาจากการเช่า ด้วยสถานะการเงินดีเยี่ยมปราศจากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (D/E = 0.22 เท่า) จึงยืนยัน "ซื้อ" Upside 18.6% และ Div. Yield 5.1%
Analyst Meeting : PLAT (ราคาปิด 8.85 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 8.33 บาท)
3Q60 มีกำไร 198 ลบ. +11%yoy +7%qoq 9M60 มีกำไร 569 ลบ. +8.8%yoy net margin ทรงตัว yoy ในระดับสูงที่ระดับ 38% ขณะที่รายได้รวม(ค่าเช่า+ธุรกิจโรงแรม+อาหารและเครื่องดืม) เท่ากับ 569 ลบ. +8.8% สำหรับ 4Q60 มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นทำให้ OR ของตลาดนีออนปรับดีขึ้นจาก 57% ใน 3Q60 ที่เป็นโลว์ซีซั่น ต้น Q4 ปรับดีขึ้นเป็น 93% และรายได้ค่าเช่าปรับดีขึ้นจากการปรับปรุงพื้นที่ ภาพรวมทั้งปี 60 น่าจะเป็นไปตามแผนและมีโอกาสที่กำไรจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปี 61 รายได้มีแนวโน้มเติบโต 5-6% จากปี 60 แต่คาดว่าจะมีคชจ.เพิ่มขึ้น 15-20% จากคชจ.ก่อนการดำเนินงานเปิดศูนย์การค้า “The Market” เพื่อเตรียมเปิดบริการในปี 62
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อรายได้และกำไรที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ราคาปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 26% จาก 2 เดือนก่อนหน้า PER 33 เท่าสูงกว่ากลุ่มที่ระดับ 19 เท่า แนะนำ “ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว”
PTT รายงานกำไร 3Q60 ที่ 2.23 หมื่นล้านบาท -29%QoQ และ -17%YoY จากค่าใช้จ่ายด้อยค่าของ PTTEP และการหยุดซ่อมบำรุงของโรงแยกก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตามกลุ่มโรงกลั่นผลประกอบการปรับตัวขึ้นตามค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นและผลบวกจากกำไรสต๊อกน้ำมันดิบ
BCP รายงานกำไร 3Q60 ที่ 1.3 พันล้านบาท +33%QoQ และ +12%YoY โดยผลประกอบการโรงกลั่นปรับตัวขึ้นตามค่าการกลั่นและกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ ขณะที่ผลประกอบการธุรกิจสถานีจำหน่ายน้ำมันปรับตัวลงตามค่าการตลาดและอยู่ในฤดูฝนทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันลดลง ด้านธุรกิจโรงไฟฟ้าผลประกอบการปรับตัวขึ้นจากการรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าใต้ภิภพที่อินโดนีเซีย
HARN (ราคาปิด 3.54 บาท “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4.20 บาท) โชว์งบ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 965 ล้านบาท ส่วนกำไรโต 3 เท่าแตะที่ 91 ล้านบาท ฟากผู้บริหารการันตีรายได้มาตามนัด 1.32 พันล้านบาท ลุ้นวิ่งทะลุเป้า ส่วนปี 61 คาดผลงานติดเครื่องวิ่งต่อ (ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
ความเห็น เมื่อเปรียบเทียบ Dilution Effect กว่า 40% จากการเพิ่มทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ HARN (จาก 350 ล้านหุ้น เป็น 584.5 ล้านหุ้น) เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนสำหรับการควบรวม CM ปัจจุบันผลประกอบการงวด 9M60 ภายหลังการควบรวมคิดเป็น EPS กว่า 0.16 บาทต่อหุ้น ได้ก้าวข้าม EPS ของปี 59 อิงจำนวนหุ้นก่อนการควบรวมที่ 0.12 บาทต่อหุ้นไปแล้ว สะท้อนการเพิ่มไลน์สินค้า / สินค้าดังกล่าวมีอัตรากำไรสูงกว่าสินค้าเดิม / และประโยชน์จาก Economies of scale ในด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มีประสิทธิภาพสูง ประสบความสำเร็จอย่างมาก และแม้ช่วงเวลาแห่ง Inorganic Growth จะผ่านพ้นไปแล้วในปี 60 ก้าวสู่การเติบโตในระบดับปกติปี 61 ที่ฝ่ายวิจัยคาดราว 10 - 11%YoY ตัว HARN ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ว่าตะเป็นความพยายามในการรุกตลาด CLMV ที่กำลังมีการเติบโตในด้านอุตสาหกรรม และแผนการก่อสร้างโกดังสินค้าทดแทนของเดิมที่มาจากการเช่า ด้วยสถานะการเงินดีเยี่ยมปราศจากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (D/E = 0.22 เท่า) จึงยืนยัน "ซื้อ" Upside 18.6% และ Div. Yield 5.1%
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ชัยยศ จิวางกูร ext.5805 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ชัยยศ จิวางกูร ext.5805 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940
OO2338