- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 November 2017 16:53
- Hits: 475
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ค่อนข้างผันผวน โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวนำโดย AOT , TOP, ADVANC อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางโดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีกอย่าง BEAUTY (+13.9%) และ RSP ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,687.0 จุด (-2.2 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 5.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 1,695 ลบ. แต่กลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future เล็กน้อยที่ 219 สัญญา (18 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิตลาดหุ้นไทยสูงกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท)
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ค่อนข้างผันผวน โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวนำโดย AOT , TOP, ADVANC อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางโดยเฉพาะในกลุ่มค้าปลีกอย่าง BEAUTY (+13.9%) และ RSP ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,687.0 จุด (-2.2 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 5.7 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติยังคงขายหุ้นไทยต่อเนื่องที่ 1,695 ลบ. แต่กลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future เล็กน้อยที่ 219 สัญญา (18 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิตลาดหุ้นไทยสูงกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท)
Investment theme
หุ้นใหญ่พักฐาน หุ้นกลางเก็งกำไร: จากสถิติในอดีตที่ผ่านมา นอกเหนือจากพบว่า นักลงทุนต่างประเทศมักจะขายทำกำไรในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี (ขายสุทธิ 4/5 ปีที่ผ่านมา) โดยเฉลี่ยขายสุทธิประมาณ 32,000ล้านบาท และพบว่าวอลุ่มซื้อของนักลงทุนต่างประเทศจะค่อยๆลดลงเหลือประมาณ 25-27% จากปกติประมาณ 30% ซึ่งเรามองว่า Fund flow ในปีนี้ลักษณะจะคล้ายคลึงกับในอดีต ส่วนหนึ่งเกิดจากการขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการอ่อนค่าของเงินบาท และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่แคบลง ส่งผลให้เรามองว่าหุ้นขนาดใหญ่ SET50 บางตัวที่เก็งกำไรขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมจะเริ่มเข้าสู่ช่วงปรับฐาน เพื่อรอผลการรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ และการประชุมธนาคารกลางต่างๆของโลก เพื่อเป็นตัวกำหนดทิศทาง fund flow ในระยะถัดไป
Investment theme: เราแนะนำนักลงทุนทยอยขายทำกำไรหุ้นบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น, โรงไฟฟ้า ในขณะที่หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม ICT โดยเราคาด SET จะแกว่งตัวบริเวณ 1,680-1,720 จุด
หุ้นใหญ่พักฐาน หุ้นกลางเก็งกำไร: จากสถิติในอดีตที่ผ่านมา นอกเหนือจากพบว่า นักลงทุนต่างประเทศมักจะขายทำกำไรในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี (ขายสุทธิ 4/5 ปีที่ผ่านมา) โดยเฉลี่ยขายสุทธิประมาณ 32,000ล้านบาท และพบว่าวอลุ่มซื้อของนักลงทุนต่างประเทศจะค่อยๆลดลงเหลือประมาณ 25-27% จากปกติประมาณ 30% ซึ่งเรามองว่า Fund flow ในปีนี้ลักษณะจะคล้ายคลึงกับในอดีต ส่วนหนึ่งเกิดจากการขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการอ่อนค่าของเงินบาท และส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่แคบลง ส่งผลให้เรามองว่าหุ้นขนาดใหญ่ SET50 บางตัวที่เก็งกำไรขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมจะเริ่มเข้าสู่ช่วงปรับฐาน เพื่อรอผลการรายงานตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ และการประชุมธนาคารกลางต่างๆของโลก เพื่อเป็นตัวกำหนดทิศทาง fund flow ในระยะถัดไป
Investment theme: เราแนะนำนักลงทุนทยอยขายทำกำไรหุ้นบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่น, โรงไฟฟ้า ในขณะที่หลีกเลี่ยงการลงทุนกลุ่ม ICT โดยเราคาด SET จะแกว่งตัวบริเวณ 1,680-1,720 จุด
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา World bank คาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจที่ 3.5% เติบโตต่ำเมื่อเทียบกับประเทศใน Asean / India รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค.สูงกว่าคาดที่ 3.58%/
บทวิเคราะห์วันนี้ : PTT (เท่าคาด), CPALL (สูงกว่าคาด) , TOP BCP, TKN และ CPF (ต่ำกว่าคาด)
Stock pick : SPALI
SPALI : ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท /หุ้น
ราคาปรับตัวลง -7.6% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ในระดับน่าสนใจทยอยสะสมอีกครั้ง ภายหลังมีแรงเก็งกำไรจากประเด็น Warrant ไปบางส่วน ในขณะที่ในเชิงพื้นฐาน เราคาดกำไรไตรมาส 3 จะเติบโตเด่น +99%YoY, +27%QoQ ที่ 1,691 ล้านบาท สนับสนุนจากทั้งการขายคอนโดย่านประชาชื่น และจากการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์
ในขณะที่คาดทิศทางกำไรไตรมาส 4 จะเติบโตต่อเนื่อง และจะเด่นจากการบันทึกรายได้ของโครงการแนวราบ ที่มีอัตรากำไรสูงกว่า 40% ส่งผลให้เราคงประมานการกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 5,702 ล้านบาท (+16%YoY) มี Secured revenue แล้ว 91%
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (BDMS, WICE, SPALI) / ปรับลดคำแนะนำ SPA จากซื้อเป็นถือ / ขายทำกำไร TOP , TKN
เมื่อคืนที่ผ่านมา World bank คาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจที่ 3.5% เติบโตต่ำเมื่อเทียบกับประเทศใน Asean / India รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค.สูงกว่าคาดที่ 3.58%/
บทวิเคราะห์วันนี้ : PTT (เท่าคาด), CPALL (สูงกว่าคาด) , TOP BCP, TKN และ CPF (ต่ำกว่าคาด)
Stock pick : SPALI
SPALI : ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท /หุ้น
ราคาปรับตัวลง -7.6% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ในระดับน่าสนใจทยอยสะสมอีกครั้ง ภายหลังมีแรงเก็งกำไรจากประเด็น Warrant ไปบางส่วน ในขณะที่ในเชิงพื้นฐาน เราคาดกำไรไตรมาส 3 จะเติบโตเด่น +99%YoY, +27%QoQ ที่ 1,691 ล้านบาท สนับสนุนจากทั้งการขายคอนโดย่านประชาชื่น และจากการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์
ในขณะที่คาดทิศทางกำไรไตรมาส 4 จะเติบโตต่อเนื่อง และจะเด่นจากการบันทึกรายได้ของโครงการแนวราบ ที่มีอัตรากำไรสูงกว่า 40% ส่งผลให้เราคงประมานการกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 5,702 ล้านบาท (+16%YoY) มี Secured revenue แล้ว 91%
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (BDMS, WICE, SPALI) / ปรับลดคำแนะนำ SPA จากซื้อเป็นถือ / ขายทำกำไร TOP , TKN
Technical View
ยืนเหนือ 1685 สำเร็จ ลุ้นฟื้นต่อ : ดัชนี SET ยังสามารถปิดยืนเหนือระดับ 1685 จุดได้สำเร็จ บวกกับ Slow Stochastic เริ่มมีการปรับตัวขึ้น (%K ตัดเส้น %D) เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบวก ทำให้วันนี้ในระยะสั้น ราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมา โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1700 จุด แต่หากดัชนีหลุด 1685 จุดจะลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1675 จุดและมีโอกาสฟอร์มตัวเป็น Double Top กลยุทธ์การลงุทุน (1) มีหุ้น: ยืนเหนือ 1685 จุดได้ ถือรอลุ้น 1700 แต่หากหลุด 1675 จุดแนะนำลดพอร์ต (2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1675
แนวรับ : 1685, 1675 แนวต้าน : 1695, 1700
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : การประชุม Asean 13-14 พ.ย. / 14 พ.ย. อังกฤษรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. , ยุโรปรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 และ ญี่ปุ่นรายงานตัวเลข GDP / สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ วันที่ 15 พ.ย.
ปัจจัยในประเทศ : จับตาการปรับครม. / Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้
ยืนเหนือ 1685 สำเร็จ ลุ้นฟื้นต่อ : ดัชนี SET ยังสามารถปิดยืนเหนือระดับ 1685 จุดได้สำเร็จ บวกกับ Slow Stochastic เริ่มมีการปรับตัวขึ้น (%K ตัดเส้น %D) เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบวก ทำให้วันนี้ในระยะสั้น ราคามีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมา โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1700 จุด แต่หากดัชนีหลุด 1685 จุดจะลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1675 จุดและมีโอกาสฟอร์มตัวเป็น Double Top กลยุทธ์การลงุทุน (1) มีหุ้น: ยืนเหนือ 1685 จุดได้ ถือรอลุ้น 1700 แต่หากหลุด 1675 จุดแนะนำลดพอร์ต (2) ไม่มีหุ้น: รอดูแนวโน้มที่แนวรับ 1675
แนวรับ : 1685, 1675 แนวต้าน : 1695, 1700
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : การประชุม Asean 13-14 พ.ย. / 14 พ.ย. อังกฤษรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. , ยุโรปรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 และ ญี่ปุ่นรายงานตัวเลข GDP / สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ วันที่ 15 พ.ย.
ปัจจัยในประเทศ : จับตาการปรับครม. / Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้
หุ้นเทคนิค:
BDMS (B 21.10, Tp 21.90//22.40, Cut 20.90)
SCB (B 147.00, Tp 155.50, Cut 145.50)
BDMS (B 21.10, Tp 21.90//22.40, Cut 20.90)
SCB (B 147.00, Tp 155.50, Cut 145.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO2327