- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 November 2017 16:49
- Hits: 1312
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย ค่อย ๆ แกว่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1704.51 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายหนักจากหุ้นขนาดใหญ่-กลาง นำโดย PTT, PTTGC, MINT, CPALL, TOA, KBANK, SSP, CPN, TOP กดดัชนีไหลลงและแกว่งตัวส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1688.77 จุด ลดลง 14.26 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 15.74 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1689.28 จุด ลดลง 13.75 จุด (-0.81%) มูลค่าการซื้อขาย 57,092 ล้านบาท
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย ค่อย ๆ แกว่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1704.51 จุด เพิ่มขึ้น 1.48 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายหนักจากหุ้นขนาดใหญ่-กลาง นำโดย PTT, PTTGC, MINT, CPALL, TOA, KBANK, SSP, CPN, TOP กดดัชนีไหลลงและแกว่งตัวส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1688.77 จุด ลดลง 14.26 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 15.74 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1689.28 จุด ลดลง 13.75 จุด (-0.81%) มูลค่าการซื้อขาย 57,092 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีทิศทางปรับฐาน โดยสามารถขึ้นทำ High 1721 จุดในวันแรกของสัปดาห์ ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลุด 1700 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา มี Low 1688 จุด และทำปิดใกล้จุดต่ำสุดของวันที่ 1689 จุด จากภาพของดัชนีที่หลุด 1700 จุด และหลุดกรอบการแกว่งตัวในรูปของสามเหลี่ยม ทำให้ดัชนีมีโอกาสลงมาทดสอบ Low เดิมที่ 1673 จุด แต่อย่างไรก็ตามระยะสั้นมีโอกาสดีดกลับจาก Oversold และเข้าใกล้แนวรับสำคัญ โดยมีแนวรับ 1679-1684 จุด แนวต้าน 1694-1699 จุด
แกว่งตัวผันผวน - มีโอกาสลงมา Low เดิม (1673) แต่มีโอกาสดีดกลับระหว่างทาง
Support 1670 // 1664 จุด Resistance 1700 // 1728 จุด
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีทิศทางปรับฐาน โดยสามารถขึ้นทำ High 1721 จุดในวันแรกของสัปดาห์ ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลุด 1700 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา มี Low 1688 จุด และทำปิดใกล้จุดต่ำสุดของวันที่ 1689 จุด จากภาพของดัชนีที่หลุด 1700 จุด และหลุดกรอบการแกว่งตัวในรูปของสามเหลี่ยม ทำให้ดัชนีมีโอกาสลงมาทดสอบ Low เดิมที่ 1673 จุด แต่อย่างไรก็ตามระยะสั้นมีโอกาสดีดกลับจาก Oversold และเข้าใกล้แนวรับสำคัญ โดยมีแนวรับ 1679-1684 จุด แนวต้าน 1694-1699 จุด
แกว่งตัวผันผวน - มีโอกาสลงมา Low เดิม (1673) แต่มีโอกาสดีดกลับระหว่างทาง
Support 1670 // 1664 จุด Resistance 1700 // 1728 จุด
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
" แรงขายยังหนาแน่น จับตานโยบายภาษีสหรัฐฯ "
ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ : คาดดัชนีฯ ผันผวนสูง กรอบการเคลื่อนไหว 1673 -1720 จุด นักลงทุนต่างประทศ ยังมีแนวโน้มชะลอการลงทุนหรือขายหุ้นหลังกฎหมายภาษีของสหรัฐฯยังไม่คืบหน้า และแรงขายทำกำไรหลังบริษัทต่างๆมีการส่งงบการเงินมีเข้ามาในตลาดมากขึ้น ราคาหุ้นส่วนใหญ่ของตลาดปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีการชิงขายทำกำไรกัน การพักฐานของตลาด ยังดำเนินต่อจนถึงสัปดาห์นี้
กลยุทธ์การลงทุน : ด้วยราคาหุ้นที่ขึ้นมามาก และขาดปัจจัยหนุนต่อไม่ว่าจะเป็นของตัวหุ้นหรือตลาดเอง ทำให้มีแรงขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เราเห็นการสลับเข้าซื้อหุ้นที่มีปัจจัยหรือข่าวบวกสนับสนุนด้วยเช่นกัน ...... กลยุทธ์การลงทุน ในภาวะแบบนี้ คือ ลดการถือหุ้นที่ขึ้นมามากหรือเป็นหุ้นที่ถูกขายมากกว่าซื้อ หรือหุ้นที่รายงานกำไรและออกมาไม่ดีหรือต่ำกว่าคาด รอจังหวะซื้อเมื่อการปรับฐานจบหรือเลือกลงทุนแบบ selective
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ : BEM*, BDMS, CCET*, BTSGIF*, ASAP
หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค : TNR, TNP, CHG
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ภาพตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา
SET Index สัปดาห์ก่อนปิดที่ระดับ 1,689.28 จุด ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน 12.19 จุด หรือ -0.72% ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน จากแรงเทขายของต่างชาติ มองเป็นเพราะ valuation ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่สูง อีกทั้งยังมีการ sell on fact หุ้นบางตัวหลังการประกาศผลการดำเนินงาน 3Q17
SET Index สัปดาห์ก่อนปิดที่ระดับ 1,689.28 จุด ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน 12.19 จุด หรือ -0.72% ปรับตัวลงจากสัปดาห์ก่อน จากแรงเทขายของต่างชาติ มองเป็นเพราะ valuation ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับที่สูง อีกทั้งยังมีการ sell on fact หุ้นบางตัวหลังการประกาศผลการดำเนินงาน 3Q17
ปัจจัยที่ควรติดตาม
ปัจจัยต่างประเทศ / ราคาน้ำมันดิบ
มาตรการปฏิรูปภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯ - มาตรการภาษีของทรัมป์อาจจะมีความล่าช้าขึ้นกว่าเดิม หลังมีรายงานว่าสมาชิกวุฒิสมาชิกพรรครีพับริกันจะมีการชะลอการบังคับใช้กฏหมายออกไป 1 ปี เพื่อลดภาระการขาดดุลการคลัง เรามองว่าผลการอนุมัติการบังคับใช้กฏหมายนี้จะรู้ผลในช่วงก่อนวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงก่อนการเข้าสู่วันหยุดยาว โดยมองว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนไปจนถึงช่วงเวลาดังกล่าว
ราคาน้ำมันดิบ - เรามองว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสที่จะเข้าใกล้ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากนโยบายที่แนวโน้มที่จะพยุงราคาน้ำมันดิบ ซึ่งมูลค่าส่งออกน้ำมันของซาอุดิอาระเบียคิดเป็นกว่า 5% ของมูลค่าน้ำมันทั่วโลก และผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ กลับมามีความร่วมมือกันมากขึ้นที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ปัจจัยต่างประเทศ / ราคาน้ำมันดิบ
มาตรการปฏิรูปภาษีนิติบุคคลของสหรัฐฯ - มาตรการภาษีของทรัมป์อาจจะมีความล่าช้าขึ้นกว่าเดิม หลังมีรายงานว่าสมาชิกวุฒิสมาชิกพรรครีพับริกันจะมีการชะลอการบังคับใช้กฏหมายออกไป 1 ปี เพื่อลดภาระการขาดดุลการคลัง เรามองว่าผลการอนุมัติการบังคับใช้กฏหมายนี้จะรู้ผลในช่วงก่อนวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงก่อนการเข้าสู่วันหยุดยาว โดยมองว่าตลาดหุ้นจะมีความผันผวนไปจนถึงช่วงเวลาดังกล่าว
ราคาน้ำมันดิบ - เรามองว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสที่จะเข้าใกล้ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ โดยมีปัจจัยหนุนจากนโยบายที่แนวโน้มที่จะพยุงราคาน้ำมันดิบ ซึ่งมูลค่าส่งออกน้ำมันของซาอุดิอาระเบียคิดเป็นกว่า 5% ของมูลค่าน้ำมันทั่วโลก และผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ กลับมามีความร่วมมือกันมากขึ้นที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ปัจจัยในประเทศ
เงินบาททรงตัวในระดับต่ำ - ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 33 บาท/ดอลลาร์ แม้เรายังคงมุมมองว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าในระยะยาว แต่ภาพระยะสั้น ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าจากประเด็นเรื่องนโยบายปฎิรูปภาษีของทรัมป์อยู่ เป็นลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน - เริ่มเห็นความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานเข้ามา ในช่วงที่ผ่านมามีการพูดถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่ารวม 7.45 แสนล้านบาท จึงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จะเข้า ครม. ในช่วงสัปดาห์หน้า
สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q17 -สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบสำหรับช่วง 3Q17 ทาง KTBST ประเมินกำไรไตรมาสนี้ไว้ที่ 2.2 แสนลบ. +16% YoY และ -4% QoQ
Stock Picks of The Week
BEM :
ราคาปิด 8.00 บาท ราคาเหมาะสม 8.81 บาท
เรามองว่า BEM มีความน่าสนใจจากผลประกอบการที่ออกมาดี ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 940 ล้านบาท (+16% YoY, +30% QoQ) จากการเติบโตของทั้งธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้าจากการเปิดจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ BEM ยังมีส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมของ CKP และ TTW ถึง 140 ล้านบาท
Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 3,218 ล้านบาท (+24% YoY) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 3,716 ล้านบาท (+15% YoY) นอกจากนี้ BEM ยังได้ผลบวกจากการเตรียมขึ้นค่าทางด่วนอีก 5-10 บาท และรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเริ่มสร้างในปีหน้า เรามองว่า BEM จะมีโอกาสรับงานเดินรถจากโครงการดังกล่าว
ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 8.81 บาท
BDMS :
ราคาปิด 21.00 บาท ราคาเหมาะสม 22.50 บาท
BDMS ประกาศกำไรสุทธิสำหรับช่วง 3Q17 ที่ระดับ 2,417 ล้านบาท (+8% YoY, +61% QoQ) และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ราว 2,200 ล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในระดับสูงจากเริ่มมีไข้หวัดใหญ่ระบาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน
KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 10,076 ล้านบาท (+20% YoY) และปี 2018 ที่ 8,360 ล้านบาท (-17% YoY) ลดลงในปี 2018 เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษจากการขายหน่วยลงทุน โดยคาดว่าผู้ป่วยจากตะวันออกกลางจะเข้ามาใช่บริการกับ BDMS มากขึ้นตั้งแต่ช่วง 4Q17 เป็นต้นไป
ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 22.50 บาท
เงินบาททรงตัวในระดับต่ำ - ค่าเงินบาททรงตัวอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 33 บาท/ดอลลาร์ แม้เรายังคงมุมมองว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าในระยะยาว แต่ภาพระยะสั้น ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าจากประเด็นเรื่องนโยบายปฎิรูปภาษีของทรัมป์อยู่ เป็นลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน - เริ่มเห็นความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานเข้ามา ในช่วงที่ผ่านมามีการพูดถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่ารวม 7.45 แสนล้านบาท จึงมองว่ามีความเป็นไปได้ที่โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จะเข้า ครม. ในช่วงสัปดาห์หน้า
สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบ 3Q17 -สัปดาห์นี้จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการประกาศงบสำหรับช่วง 3Q17 ทาง KTBST ประเมินกำไรไตรมาสนี้ไว้ที่ 2.2 แสนลบ. +16% YoY และ -4% QoQ
Stock Picks of The Week
BEM :
ราคาปิด 8.00 บาท ราคาเหมาะสม 8.81 บาท
เรามองว่า BEM มีความน่าสนใจจากผลประกอบการที่ออกมาดี ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 940 ล้านบาท (+16% YoY, +30% QoQ) จากการเติบโตของทั้งธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้าจากการเปิดจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ BEM ยังมีส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมของ CKP และ TTW ถึง 140 ล้านบาท
Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 3,218 ล้านบาท (+24% YoY) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 3,716 ล้านบาท (+15% YoY) นอกจากนี้ BEM ยังได้ผลบวกจากการเตรียมขึ้นค่าทางด่วนอีก 5-10 บาท และรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเริ่มสร้างในปีหน้า เรามองว่า BEM จะมีโอกาสรับงานเดินรถจากโครงการดังกล่าว
ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 8.81 บาท
BDMS :
ราคาปิด 21.00 บาท ราคาเหมาะสม 22.50 บาท
BDMS ประกาศกำไรสุทธิสำหรับช่วง 3Q17 ที่ระดับ 2,417 ล้านบาท (+8% YoY, +61% QoQ) และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ราว 2,200 ล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในระดับสูงจากเริ่มมีไข้หวัดใหญ่ระบาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน
KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 10,076 ล้านบาท (+20% YoY) และปี 2018 ที่ 8,360 ล้านบาท (-17% YoY) ลดลงในปี 2018 เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษจากการขายหน่วยลงทุน โดยคาดว่าผู้ป่วยจากตะวันออกกลางจะเข้ามาใช่บริการกับ BDMS มากขึ้นตั้งแต่ช่วง 4Q17 เป็นต้นไป
ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 22.50 บาท
Weekly Portfolio 13-17 November 2017
หุ้น เหตุผล
BEM*(ราคาปิด 8.00) เรามองว่า BEM มีความน่าสนใจจากผลประกอบการที่ออกมาดี ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 940 ล้านบาท (+16% YoY, +30% QoQ) จากการเติบโตของทั้งธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้าจากการเปิดจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ BEM ยังมีส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมของ CKP และ TTW ถึง 140 ล้านบาท …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 3,218 ล้านบาท (+24% YoY) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 3,716 ล้านบาท (+15% YoY) นอกจากนี้ BEM ยังได้ผลบวกจากการเตรียมขึ้นค่าทางด่วนอีก 5-10 บาท และรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเริ่มสร้างในปีหน้า เรามองว่า BEM จะมีโอกาสรับงานเดินรถจากโครงการดังกล่าว …. (ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 8.81 บาท)
BDMS(ราคาปิด 21.00) BDMS ประกาศกำไรสุทธิสำหรับช่วง 3Q17 ที่ระดับ 2,417 ล้านบาท (+8% YoY, +61% QoQ) และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ราว 2,200 ล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในระดับสูงจากเริ่มมีไข้หวัดใหญ่ระบาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 10,076 ล้านบาท (+20% YoY) และปี 2018 ที่ 8,360 ล้านบาท (-17% YoY) ลดลงในปี 2018 เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษจากการขายหน่วยลงทุน โดยคาดว่าผู้ป่วยจากตะวันออกกลางจะเข้ามาใช่บริการกับ BDMS มากขึ้นตั้งแต่ช่วง 4Q17 เป็นต้นไป …. (ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 22.50 บาท)
CCET*(ราคาปิด 3.44) CCET มีความน่าสนใจจากปัจจัยบวกหลังจากที่ CCET ประกาศยอดขายประจำเดือน ต.ค. 2017 ออกมาในระดับสูงที่ 9.82 พันล้าน +8.8% YoY, +6.4% MoM เติบโตครั้งแรกในรอบหลายเดือน นอกจากนี้ราคา semi-conductor ของโลกยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอีกด้วย .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 เติบโต 45% YoY ที่ 1,691 ล้านบาท และคาดเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 16% YoY ที่ 1,968 ล้านบาท .... (ราคาที่เหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 4.90 บาท)
BTSGIF*(ราคาปิด 12.00) เราเริ่มให้ความสนใจกับหุ้นที่มีปันผลสูงและความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเรามองว่าในช่วงสัปดาห์นี้กระแสเงินจะยังคงไหลออกจากประเทศ.... ผลสำรวจ Bloomberg ประเมินเงินปันผลปีนี้ว้ที่ 0.80 บาท/หุ้น (จ่ายไปแล้ว 0.4 บาท/หุ้น) คิดเป็น yield ประมาณ 6.6% .... BTSGIF ยังได้ประเด็นบวกจากการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 5% …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 4,547 ล้านบาท (-6% YoY) และ ปี 2018 ที่ 4,991 ล้านบาท (+10% YoY) โดย IRR อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงที่ประมาณ 6-7% …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 11.70 บาท)
ASAP(ราคาปิด 8.50) คาด ASAP จะประกาศงบ 3Q17 ในวันอังคารนี้ คาดว่าผลการดำเนินงาน 3Q17 ออกมาดี คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ยังคงขยายตัวต่อเนื่องตามยอดซื้อรถยนต์ให้เช่าที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไตรมาส ละ 800 - 1,000 คัน .... กำไรสุทธิ ปี 2017 เราคาดไว้ที่ 122 ล้านบาท (+74.4%YoY) และปี 2018 ที่ 187 ล้านบาท (+53.3%YoY) มาจาก คาดจำนวนรถให้เช่า อยู่ที่ 9.7 พันคัน +29% YoY ราคารถยนต์มือสองสูงขึ้น เพิ่มกำไรจากการขายรถ (ปี 2017 เพิ่มจาก 8.0% เป็น 8.5%) แผนงานขายรถยนต์มือสอง ทางออนไลน์ และลงทุนระบบ CarPro System เพื่อบริหารจัดการการจองรถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น … (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 9.00 บาท)
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
Analyst
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]
หุ้น เหตุผล
BEM*(ราคาปิด 8.00) เรามองว่า BEM มีความน่าสนใจจากผลประกอบการที่ออกมาดี ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 940 ล้านบาท (+16% YoY, +30% QoQ) จากการเติบโตของทั้งธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้าจากการเปิดจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ BEM ยังมีส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมของ CKP และ TTW ถึง 140 ล้านบาท …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 3,218 ล้านบาท (+24% YoY) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 3,716 ล้านบาท (+15% YoY) นอกจากนี้ BEM ยังได้ผลบวกจากการเตรียมขึ้นค่าทางด่วนอีก 5-10 บาท และรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเริ่มสร้างในปีหน้า เรามองว่า BEM จะมีโอกาสรับงานเดินรถจากโครงการดังกล่าว …. (ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 8.81 บาท)
BDMS(ราคาปิด 21.00) BDMS ประกาศกำไรสุทธิสำหรับช่วง 3Q17 ที่ระดับ 2,417 ล้านบาท (+8% YoY, +61% QoQ) และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ราว 2,200 ล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ในระดับสูงจากเริ่มมีไข้หวัดใหญ่ระบาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายน .... KTBST คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 10,076 ล้านบาท (+20% YoY) และปี 2018 ที่ 8,360 ล้านบาท (-17% YoY) ลดลงในปี 2018 เนื่องจากไม่มีรายการพิเศษจากการขายหน่วยลงทุน โดยคาดว่าผู้ป่วยจากตะวันออกกลางจะเข้ามาใช่บริการกับ BDMS มากขึ้นตั้งแต่ช่วง 4Q17 เป็นต้นไป …. (ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 22.50 บาท)
CCET*(ราคาปิด 3.44) CCET มีความน่าสนใจจากปัจจัยบวกหลังจากที่ CCET ประกาศยอดขายประจำเดือน ต.ค. 2017 ออกมาในระดับสูงที่ 9.82 พันล้าน +8.8% YoY, +6.4% MoM เติบโตครั้งแรกในรอบหลายเดือน นอกจากนี้ราคา semi-conductor ของโลกยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอีกด้วย .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 เติบโต 45% YoY ที่ 1,691 ล้านบาท และคาดเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 16% YoY ที่ 1,968 ล้านบาท .... (ราคาที่เหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 4.90 บาท)
BTSGIF*(ราคาปิด 12.00) เราเริ่มให้ความสนใจกับหุ้นที่มีปันผลสูงและความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเรามองว่าในช่วงสัปดาห์นี้กระแสเงินจะยังคงไหลออกจากประเทศ.... ผลสำรวจ Bloomberg ประเมินเงินปันผลปีนี้ว้ที่ 0.80 บาท/หุ้น (จ่ายไปแล้ว 0.4 บาท/หุ้น) คิดเป็น yield ประมาณ 6.6% .... BTSGIF ยังได้ประเด็นบวกจากการปรับเพิ่มอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 5% …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 4,547 ล้านบาท (-6% YoY) และ ปี 2018 ที่ 4,991 ล้านบาท (+10% YoY) โดย IRR อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงที่ประมาณ 6-7% …. (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 11.70 บาท)
ASAP(ราคาปิด 8.50) คาด ASAP จะประกาศงบ 3Q17 ในวันอังคารนี้ คาดว่าผลการดำเนินงาน 3Q17 ออกมาดี คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ยังคงขยายตัวต่อเนื่องตามยอดซื้อรถยนต์ให้เช่าที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไตรมาส ละ 800 - 1,000 คัน .... กำไรสุทธิ ปี 2017 เราคาดไว้ที่ 122 ล้านบาท (+74.4%YoY) และปี 2018 ที่ 187 ล้านบาท (+53.3%YoY) มาจาก คาดจำนวนรถให้เช่า อยู่ที่ 9.7 พันคัน +29% YoY ราคารถยนต์มือสองสูงขึ้น เพิ่มกำไรจากการขายรถ (ปี 2017 เพิ่มจาก 8.0% เป็น 8.5%) แผนงานขายรถยนต์มือสอง ทางออนไลน์ และลงทุนระบบ CarPro System เพื่อบริหารจัดการการจองรถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น … (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 9.00 บาท)
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
Analyst
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]
OO2284