- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 November 2017 16:58
- Hits: 1077
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1715 แนวรับ 1700
SET Index: 1708.02 ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคในระยะสั้นหลังจากปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วันที่ 1710 จุดลงไป แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1700 จุด และมีแนวต้านที่ 1710 จุด ในขณะที่โครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1680 จุด
แนวต้าน : 1710 และ 1712
แนวรับ : 1705 และ 1700
AOT = 57.00/58.50, ADVANC = 181/183, PTTGC = 80.00/81.00, SCB = 149/150, PTT = 414/420
Harn Engineering Solutions (HARN TB; THB 3.52) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.76 และ 3.82 / แนวต้านสำคัญ 3.96
แนวรับ : 3.52 และ 3.48
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบเพื่อสร้างฐาน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ HARN โดยมีแนวรับที่ 3.52 และ 3.48 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.76 และ 3.82 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.40 ลงไป Sources : Aspen
Khon Kaen Sugar Industry (KSL TB; THB 4.54) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.68 และ 4.76 / แนวต้านสำคัญ 4.90
แนวรับ : 4.54 และ 4.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือจุดต่ำสุดเดิม ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ KSL โดยมีแนวรับที่ 4.54 และ 4.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.68 และ 4.76 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.42 ลงไป
SET Index: แนวต้าน 1715 แนวรับ 1700
SET Index: 1708.02 ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคในระยะสั้นหลังจากปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วันที่ 1710 จุดลงไป แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1700 จุด และมีแนวต้านที่ 1710 จุด ในขณะที่โครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1680 จุด
แนวต้าน : 1710 และ 1712
แนวรับ : 1705 และ 1700
AOT = 57.00/58.50, ADVANC = 181/183, PTTGC = 80.00/81.00, SCB = 149/150, PTT = 414/420
Harn Engineering Solutions (HARN TB; THB 3.52) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.76 และ 3.82 / แนวต้านสำคัญ 3.96
แนวรับ : 3.52 และ 3.48
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบเพื่อสร้างฐาน ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ HARN โดยมีแนวรับที่ 3.52 และ 3.48 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.76 และ 3.82 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.40 ลงไป Sources : Aspen
Khon Kaen Sugar Industry (KSL TB; THB 4.54) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.68 และ 4.76 / แนวต้านสำคัญ 4.90
แนวรับ : 4.54 และ 4.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือจุดต่ำสุดเดิม ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ KSL โดยมีแนวรับที่ 4.54 และ 4.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.68 และ 4.76 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.42 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
Selective Buy หุ้นที่งบออกมาดี
ตลาดเมื่อวานนี้ปรับขึ้นเล็กน้อย 1.90 จุดหรือ +0.11% ปิดที่ 1,714.65 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 59,447 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 546 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิไป 258 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกองทุนในประเทศกลับมาขายสุทธิ772 ล้านบาท จึงกดดันภาพตลาดให้บวกขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยการซื้อขายส่วนใหญ่ยังเป็นการเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัวเป็นหลัก ซึ่งเราคาดว่าตลาดจะยังคงเล่นในลักษณะนี้ต่อไปอีกสักระยะจนกว่าจะเห็นผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมากันหมดภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวานนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามตลาดคาด โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้เดิม ตามแรงส่งจากภาคต่างประเทศ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศขยายตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีทิศทางปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่ประเมินไว้ ขณะที่ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้านเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีความเสี่ยงในบางจุดที่อาจะสะสมความเปราะบางในระบบการเงินในระยะต่อไป
โดยกนง. คาดว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยต่ำ สภาพคล่องในระบบสูง เอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทยอยปรับขึ้นและคาดว่ากลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ ในช่วงกลางปี 2561 ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะผลจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับขึ้น ก็จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน จากผลการประชุมที่ออกมาตามที่ตลาดคาดไว้ก็ทำให้เราเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรกับตลาดหุ้นในระยะสั้นแต่น่าจะเป็นบวกในระยะยาวเนื่องจากการที่อัตราดอกเบี้ยยังยืนต่ำยาวนานก็จะเป็นบวกกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (ต้นทุนการเงินต่ำ) และการจัดสรรสินทรัพย์ (asset allocation) ที่เราเชื่อว่านักลงทุนจะจัดสรรเงินลงทุนมาลงในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและตราสารหนี้ที่ต่ำมาก
เมื่อวานนี้มีบริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาดีประกอบด้วย PTTGC BCH MONO SF TVO TFG SGP ซึ่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา ในขณะที่บริษัทที่ประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดประกอบด้วย ICHI AMA TPIPP ซึ่งคาดว่าจะถูกแรงขายออกมาในวันนี้ วันนี้คาดว่าจะมีงบบริษัท BEM GFPT LPN IVL MC MALEE MTLS AAV จะประกาศผลการดำเนินงานออกมา และวันที่ 10 พ.ย. คาดว่าจะมีบริษัท AP QH ERW MAKRO ROBINS MINT CENTEL AMATAV MAJOR STEC SVI TICON WHA WORK SAPPE ประกาศงบออกมา โดยเราให้ IVL, MALEE, AP, ROBINS, MINT และ MAJOR เป็น top pick ของเรา ส่วน Opportunity day สัปดาห์นี้ในวันที่ 10 พ.ย. มีIVL COM7 SELIC MONO และสัปดาห์หน้าวันที่ 13 พ.ย. มี AGE MALEE SPCG MOONG FSMART วันที่ 14 พ.ย. มี ECL MTLS THCOM INTUCH WHAUP NVD TKN
สำหรับการประกาศหุ้นเข้า/ออก จากการคำนวณ SET50 ในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 ที่ตลาดจะมีการประกาศในกลางเดือนหน้า เราคาดว่า CENTEL SAWAD และ TPIPP จะถูกนำเข้าไปในการคำนวณ SET50 ในขณะที่ KCE PSH และ TPIPL จะเป็นหุ้นที่ถูกถอดออก ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามีโอกาสที่จะปรับตัวดีกว่าตลาด (outperform) ในระยะสั้นได้ ส่วนหุ้นที่ถูกถอดออกก็จะปรับตัวแย่กว่าตลาด(underperform) ได้ เราเลือก CENTEL และ TPIPP เป็น top pick ในการเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 โดยราคาเป้าหมาย 52 บาทและ 9.00 บาทตามลำดับ
นอกจากนั้นในสัปดาห์หน้าจะมีการประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review ในวันที่ 13 พ.ย. (แต่เราจะทราบผลในเช้าวันที่ 14 พ.ย.) และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ โดยตลาดคาดว่า SAWAD จะเป็นหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี MSCI ในรอบนี้และ BEC จะเป็นบริษัทที่ถูกถอดออกส่วนวันที่ 15 พ.ย. ก็จะมีการประกาศดัชนี FTSE Rebalancing ซึ่งเราจะต้องติดตามว่าทั้ง 2 ดัชนีจะมีการปรับเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างไรบ้าง หากมีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเราคาดว่าตลาดจะปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 1730 จุดได้ แต่หากถูกปรับลดน้ำหนักเรายังเชื่อว่าแรงซื้อของกองทุน (LTF, RMF) น่าจะพยุงให้ตลาดไม่หลุดลงไปต่ำกว่า 1700 จุดได้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ให้เลือกซื้อ 1) หุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดี (รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานออกมาดี) และคาดว่าตลาดจะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายต่อไป โดยหุ้นดังกล่าวประกอบด้วย PTTGC IRPC IVL PTTEP DTAC SF MINTMONO TISCO 2) หุ้นที่จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาชะลอตัวลงแต่กำไรจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าที่ราคาหุ้นถูกกดดันมาก่อนหน้านี้อย่าง LPN PLANB MALEE TASCO TPIPP วันนี้คาดตลาดจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1720 จุด แนะนำ ซื้อ PTTGC MONO PLANB SF เราให้แนวรับที่ 1710-1705 จุด และแนวต้านที่ 1720-1723 จุด
ตลาดเมื่อวานนี้ปรับขึ้นเล็กน้อย 1.90 จุดหรือ +0.11% ปิดที่ 1,714.65 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 59,447 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 546 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิไป 258 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกองทุนในประเทศกลับมาขายสุทธิ772 ล้านบาท จึงกดดันภาพตลาดให้บวกขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยการซื้อขายส่วนใหญ่ยังเป็นการเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัวเป็นหลัก ซึ่งเราคาดว่าตลาดจะยังคงเล่นในลักษณะนี้ต่อไปอีกสักระยะจนกว่าจะเห็นผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมากันหมดภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวานนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามตลาดคาด โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้เดิม ตามแรงส่งจากภาคต่างประเทศ ขณะที่อุปสงค์ในประเทศขยายตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีทิศทางปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามที่ประเมินไว้ ขณะที่ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้านเสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีความเสี่ยงในบางจุดที่อาจะสะสมความเปราะบางในระบบการเงินในระยะต่อไป
โดยกนง. คาดว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยต่ำ สภาพคล่องในระบบสูง เอื้อให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทยอยปรับขึ้นและคาดว่ากลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ ในช่วงกลางปี 2561 ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะผลจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับขึ้น ก็จะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกัน จากผลการประชุมที่ออกมาตามที่ตลาดคาดไว้ก็ทำให้เราเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรกับตลาดหุ้นในระยะสั้นแต่น่าจะเป็นบวกในระยะยาวเนื่องจากการที่อัตราดอกเบี้ยยังยืนต่ำยาวนานก็จะเป็นบวกกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (ต้นทุนการเงินต่ำ) และการจัดสรรสินทรัพย์ (asset allocation) ที่เราเชื่อว่านักลงทุนจะจัดสรรเงินลงทุนมาลงในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและตราสารหนี้ที่ต่ำมาก
เมื่อวานนี้มีบริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาดีประกอบด้วย PTTGC BCH MONO SF TVO TFG SGP ซึ่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา ในขณะที่บริษัทที่ประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดประกอบด้วย ICHI AMA TPIPP ซึ่งคาดว่าจะถูกแรงขายออกมาในวันนี้ วันนี้คาดว่าจะมีงบบริษัท BEM GFPT LPN IVL MC MALEE MTLS AAV จะประกาศผลการดำเนินงานออกมา และวันที่ 10 พ.ย. คาดว่าจะมีบริษัท AP QH ERW MAKRO ROBINS MINT CENTEL AMATAV MAJOR STEC SVI TICON WHA WORK SAPPE ประกาศงบออกมา โดยเราให้ IVL, MALEE, AP, ROBINS, MINT และ MAJOR เป็น top pick ของเรา ส่วน Opportunity day สัปดาห์นี้ในวันที่ 10 พ.ย. มีIVL COM7 SELIC MONO และสัปดาห์หน้าวันที่ 13 พ.ย. มี AGE MALEE SPCG MOONG FSMART วันที่ 14 พ.ย. มี ECL MTLS THCOM INTUCH WHAUP NVD TKN
สำหรับการประกาศหุ้นเข้า/ออก จากการคำนวณ SET50 ในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 ที่ตลาดจะมีการประกาศในกลางเดือนหน้า เราคาดว่า CENTEL SAWAD และ TPIPP จะถูกนำเข้าไปในการคำนวณ SET50 ในขณะที่ KCE PSH และ TPIPL จะเป็นหุ้นที่ถูกถอดออก ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามีโอกาสที่จะปรับตัวดีกว่าตลาด (outperform) ในระยะสั้นได้ ส่วนหุ้นที่ถูกถอดออกก็จะปรับตัวแย่กว่าตลาด(underperform) ได้ เราเลือก CENTEL และ TPIPP เป็น top pick ในการเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 โดยราคาเป้าหมาย 52 บาทและ 9.00 บาทตามลำดับ
นอกจากนั้นในสัปดาห์หน้าจะมีการประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review ในวันที่ 13 พ.ย. (แต่เราจะทราบผลในเช้าวันที่ 14 พ.ย.) และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ โดยตลาดคาดว่า SAWAD จะเป็นหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี MSCI ในรอบนี้และ BEC จะเป็นบริษัทที่ถูกถอดออกส่วนวันที่ 15 พ.ย. ก็จะมีการประกาศดัชนี FTSE Rebalancing ซึ่งเราจะต้องติดตามว่าทั้ง 2 ดัชนีจะมีการปรับเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างไรบ้าง หากมีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเราคาดว่าตลาดจะปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 1730 จุดได้ แต่หากถูกปรับลดน้ำหนักเรายังเชื่อว่าแรงซื้อของกองทุน (LTF, RMF) น่าจะพยุงให้ตลาดไม่หลุดลงไปต่ำกว่า 1700 จุดได้
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ให้เลือกซื้อ 1) หุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดี (รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานออกมาดี) และคาดว่าตลาดจะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายต่อไป โดยหุ้นดังกล่าวประกอบด้วย PTTGC IRPC IVL PTTEP DTAC SF MINTMONO TISCO 2) หุ้นที่จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาชะลอตัวลงแต่กำไรจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าที่ราคาหุ้นถูกกดดันมาก่อนหน้านี้อย่าง LPN PLANB MALEE TASCO TPIPP วันนี้คาดตลาดจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1720 จุด แนะนำ ซื้อ PTTGC MONO PLANB SF เราให้แนวรับที่ 1710-1705 จุด และแนวต้านที่ 1720-1723 จุด
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,708.02 จุด ลดลง 6.63 จุด (-0.39%) มูลค่าการซื้อขาย27,600.29 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงขายในกลุ่มสื่อสาร และพลังงานติดตามผลประกอบการ Q3/60 ที่ทยอยประกาศออกมา
IVL รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 3,516 ล้านบาท (+10% YoY, +20% QoQ)หรือ EPS 0.64 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 19% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 52.82 บาท (Buy/Hold/Sell : 16/1/1)
LPN รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 203 ล้านบาท (-35% YoY, -19% QoQ)หรือ EPS 0.14 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 25% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 11.88 บาท (Buy/Hold/Sell : 9/5/12)
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,708.02 จุด ลดลง 6.63 จุด (-0.39%) มูลค่าการซื้อขาย27,600.29 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงขายในกลุ่มสื่อสาร และพลังงานติดตามผลประกอบการ Q3/60 ที่ทยอยประกาศออกมา
IVL รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 3,516 ล้านบาท (+10% YoY, +20% QoQ)หรือ EPS 0.64 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 19% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 52.82 บาท (Buy/Hold/Sell : 16/1/1)
LPN รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 203 ล้านบาท (-35% YoY, -19% QoQ)หรือ EPS 0.14 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 25% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 11.88 บาท (Buy/Hold/Sell : 9/5/12)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งลง ภาพระยะสั้นตลาดดูอ่อนแอลง โดยขาดทั้งเม็ดเงินใหม่ๆและปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น เรายังคงมองหลักๆที่จะหนุนตลาดได้คือราคาน้ำมัน หากยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ก็จะช่วยหนุน SET Index ให้ดีดตัวขึ้นต่อได้ และยังคงมีลุ้นกลับไปที่ระดับ 1730 จุด แต่หากไม่เป็นไปในทิศทางดังกล่าว ตลาดอาจจะแกว่งแคบๆหรือสลับกลับไปเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาด ในระยะสั้น หาก SET ต่ำกว่า 1710 จุด มีโอกาสทรุดตัวลงไปทดสอบแนวรับ 1700จุดอีกครั้ง เรามองแนวต้านสำคัญที่ 1720 จุด แนะนำ PTTGC TPIPP INTUCH
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งลง ภาพระยะสั้นตลาดดูอ่อนแอลง โดยขาดทั้งเม็ดเงินใหม่ๆและปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น เรายังคงมองหลักๆที่จะหนุนตลาดได้คือราคาน้ำมัน หากยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ก็จะช่วยหนุน SET Index ให้ดีดตัวขึ้นต่อได้ และยังคงมีลุ้นกลับไปที่ระดับ 1730 จุด แต่หากไม่เป็นไปในทิศทางดังกล่าว ตลาดอาจจะแกว่งแคบๆหรือสลับกลับไปเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาด ในระยะสั้น หาก SET ต่ำกว่า 1710 จุด มีโอกาสทรุดตัวลงไปทดสอบแนวรับ 1700จุดอีกครั้ง เรามองแนวต้านสำคัญที่ 1720 จุด แนะนำ PTTGC TPIPP INTUCH
Technical Pick (PM) ...
Harn Engineering Solutions (HARN TB; THB 3.52) – ซื้อ
Khon Kaen Sugar Industry (KSL TB; THB 4.54) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : AMANAH*, ECL*, RPC* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Harn Engineering Solutions (HARN TB; THB 3.52) – ซื้อ
Khon Kaen Sugar Industry (KSL TB; THB 4.54) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : AMANAH*, ECL*, RPC* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts : Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO2166