- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 November 2017 16:58
- Hits: 1003
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เกิด Technical rebound ใน PTTGC และ SCB จากประเด็นความคืบหน้าในกรณี PACE ขายโครงการให้ SIRI และเพิ่มทุน เปิดโอกาสการชำระหนี้ได้บางส่วน ในขณะที่ CPN, BCPG เดินหน้าทำ All time high อย่างไรก็ตามมีแรงขายในกลุ่ม ICT (ADVANC, DTAC และ TRUE) ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,714.6 จุด (+1.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 5.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติซื้อหุ้นไทยที่ 546 ลบ.แต่ยังคง Short สุทธิ SET50 Index Future สูงกว่า 6,120 สัญญา
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย เกิด Technical rebound ใน PTTGC และ SCB จากประเด็นความคืบหน้าในกรณี PACE ขายโครงการให้ SIRI และเพิ่มทุน เปิดโอกาสการชำระหนี้ได้บางส่วน ในขณะที่ CPN, BCPG เดินหน้าทำ All time high อย่างไรก็ตามมีแรงขายในกลุ่ม ICT (ADVANC, DTAC และ TRUE) ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,714.6 จุด (+1.9 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 5.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติซื้อหุ้นไทยที่ 546 ลบ.แต่ยังคง Short สุทธิ SET50 Index Future สูงกว่า 6,120 สัญญา
Investment theme
SET แกว่งตัวรอ Flow : เรามองว่าในช่วงที่เหลือของปี SET จะแกว่งตัวบริเวณ 1,680-1,720 โดยเรามองว่า ณ.ระดับดัชนี 1,700 จุด ตลาดได้รับปัจจัยบวกไปแล้วส่วนหนึ่ง อีกทั้งใน 14 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบันได้ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไปแล้วกว่า 8.5 พันล้านบาท ส่งผลให้เรามองว่าจะมีเม็ดเงิน LTF เข้ามาดันตลาดในช่วงที่เหลือของปีอีกไม่มาก ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังมีทิศทางขายทำกำไรในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง และสำหรับการลงทุนรายกลุ่ม เรายังมีมุมมองเชิงบวกในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นำโดยกลุ่มน้ำมันต้นน้ำ (PTTEP) และกลุ่ม Freight forwarder (WICE) , กลุ่มอสังหา (LPN) และกลุ่ม Out of home media (VGI,MACO) ในขณะที่เราแนะนำ ให้ทยอยขายทำกำไร กลุ่มโรงกลั่น, กลุ่มพลังงานทดแทน และโรงไฟฟ้า
Investment theme: เราแนะนำนักลงทุนชะลอแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 เพราะเรามองว่าหุ้นหลายกลุ่ม ณ.ปัจจุบันสะท้อนไปไม่มากก็น้อยแล้ว โดยเฉพาะ TKN, CBG และกลุ่มค้าปลีก หลัง Momentum เชิงบวกเริ่มเสีย
SET แกว่งตัวรอ Flow : เรามองว่าในช่วงที่เหลือของปี SET จะแกว่งตัวบริเวณ 1,680-1,720 โดยเรามองว่า ณ.ระดับดัชนี 1,700 จุด ตลาดได้รับปัจจัยบวกไปแล้วส่วนหนึ่ง อีกทั้งใน 14 วันทำการที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบันได้ซื้อสุทธิตลาดหุ้นไปแล้วกว่า 8.5 พันล้านบาท ส่งผลให้เรามองว่าจะมีเม็ดเงิน LTF เข้ามาดันตลาดในช่วงที่เหลือของปีอีกไม่มาก ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังมีทิศทางขายทำกำไรในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง และสำหรับการลงทุนรายกลุ่ม เรายังมีมุมมองเชิงบวกในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นำโดยกลุ่มน้ำมันต้นน้ำ (PTTEP) และกลุ่ม Freight forwarder (WICE) , กลุ่มอสังหา (LPN) และกลุ่ม Out of home media (VGI,MACO) ในขณะที่เราแนะนำ ให้ทยอยขายทำกำไร กลุ่มโรงกลั่น, กลุ่มพลังงานทดแทน และโรงไฟฟ้า
Investment theme: เราแนะนำนักลงทุนชะลอแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3 เพราะเรามองว่าหุ้นหลายกลุ่ม ณ.ปัจจุบันสะท้อนไปไม่มากก็น้อยแล้ว โดยเฉพาะ TKN, CBG และกลุ่มค้าปลีก หลัง Momentum เชิงบวกเริ่มเสีย
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา จีนรายงานตัวเลขส่งออกต่ำกว่าคาดที่ 6.9% ในขณะที่รายงานตัวเลขนำเข้า สูงกว่าคาดที่ 17.2% ส่งผลให้เดือนตุลาคมเกินดุลการค้าต่ำกว่าคาดที่ 3.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ / สหรัฐรายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น 2.23 ล้านบาร์เรล /กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.50%
ADB เข้าซื้อขายในตลาดวันนี้
บทวิเคราะห์วันนี้ KCE, PTTGC, SIRI, TPIPP, TRC
Stock pick : SF
SF: Upgrade ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท /หุ้น
บริษัทฯ รายงานกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 135ล้านบาท (+32%QoQ,+31%YoY) จากการปรับขึ้นค่าเช่าและการจัดกิจกรรมการตลาด และหากรวมกับกำไรพิเศษอย่างปรับมูลค่ายุติธรรมอสังหาเพื่อการลงทุน และค่าชดเชย EGAT จะส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 3 สูงถึง 324 ล้านบาท (+28%QoQ,+34%YoY)
ในขณะที่เราคาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4 จะเติบโต QoQ จาก seasonal และการเพิ่มพื้นที่เช่าของ Mega bangna อีก 10,000 ตร.ม. รวมเป็น 150,000 ตร.ม. อีกทั้งคาดได้ประโยชน์จากโครงการ Shop ช่วยชาติที่จะเริ่มในช่วง 11 พ.ย.- 3 ธ.ค. นี้ โดยราคาหุ้นปัจจุบัน Laggard PLAT และ CPN เฉลี่ยอยู่สูงกว่า 20% พร้อมปันผล 3%
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (LPN, PTTEP, CK) / ขายทำกำไร QH คาดผลประกอบการจากการดำเนินงานไตรมาส 3 อ่อนตัว / ทยอยขายทำกำไร M / ชะลอการลงทุน KCE / LPN งบประกาศวันนี้แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว (เป็นจังหวะการสะสม)
เมื่อคืนที่ผ่านมา จีนรายงานตัวเลขส่งออกต่ำกว่าคาดที่ 6.9% ในขณะที่รายงานตัวเลขนำเข้า สูงกว่าคาดที่ 17.2% ส่งผลให้เดือนตุลาคมเกินดุลการค้าต่ำกว่าคาดที่ 3.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ / สหรัฐรายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น 2.23 ล้านบาร์เรล /กนง.คงดอกเบี้ยที่ 1.50%
ADB เข้าซื้อขายในตลาดวันนี้
บทวิเคราะห์วันนี้ KCE, PTTGC, SIRI, TPIPP, TRC
Stock pick : SF
SF: Upgrade ราคาเป้าหมาย 8.70 บาท /หุ้น
บริษัทฯ รายงานกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 135ล้านบาท (+32%QoQ,+31%YoY) จากการปรับขึ้นค่าเช่าและการจัดกิจกรรมการตลาด และหากรวมกับกำไรพิเศษอย่างปรับมูลค่ายุติธรรมอสังหาเพื่อการลงทุน และค่าชดเชย EGAT จะส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 3 สูงถึง 324 ล้านบาท (+28%QoQ,+34%YoY)
ในขณะที่เราคาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4 จะเติบโต QoQ จาก seasonal และการเพิ่มพื้นที่เช่าของ Mega bangna อีก 10,000 ตร.ม. รวมเป็น 150,000 ตร.ม. อีกทั้งคาดได้ประโยชน์จากโครงการ Shop ช่วยชาติที่จะเริ่มในช่วง 11 พ.ย.- 3 ธ.ค. นี้ โดยราคาหุ้นปัจจุบัน Laggard PLAT และ CPN เฉลี่ยอยู่สูงกว่า 20% พร้อมปันผล 3%
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (LPN, PTTEP, CK) / ขายทำกำไร QH คาดผลประกอบการจากการดำเนินงานไตรมาส 3 อ่อนตัว / ทยอยขายทำกำไร M / ชะลอการลงทุน KCE / LPN งบประกาศวันนี้แนะนำซื้อเมื่ออ่อนตัว (เป็นจังหวะการสะสม)
Technical View
แกว่งตัวออกข้างรอการเลือกทาง : ดัชนีแกว่งตัวออกข้างในกรอบแคบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แม้ระยะกลางดัชนีฟอร์มตัวแบบ Ascending Triangle และรอการ Break Out แนวต้านที่ 1730 แต่ขณะนี้กราฟ 120 นาที Slow Stochastic ติดแนวต้านเขต Overbought ทำให้คาดว่า ในระยะสั้นดัชนีจะแกว่งออกข้างในกรอบ 1705-1730 ก่อนที่จะ Break Out แนวต้าน 1730 ในลำดับต่อไป กลยุทธ์การลงุทุน (1) มีหุ้น: หาก Rebound อาจทยอยขายทำกำไรที่แนวต้าน 1720 และ 1730 (2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1705-1730 โดยต้องกำหนดจุด Cut Loss ให้ชัดเจน
แนวรับ : 1705, 1700 แนวต้าน : 1720, 1730
แกว่งตัวออกข้างรอการเลือกทาง : ดัชนีแกว่งตัวออกข้างในกรอบแคบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แม้ระยะกลางดัชนีฟอร์มตัวแบบ Ascending Triangle และรอการ Break Out แนวต้านที่ 1730 แต่ขณะนี้กราฟ 120 นาที Slow Stochastic ติดแนวต้านเขต Overbought ทำให้คาดว่า ในระยะสั้นดัชนีจะแกว่งออกข้างในกรอบ 1705-1730 ก่อนที่จะ Break Out แนวต้าน 1730 ในลำดับต่อไป กลยุทธ์การลงุทุน (1) มีหุ้น: หาก Rebound อาจทยอยขายทำกำไรที่แนวต้าน 1720 และ 1730 (2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1705-1730 โดยต้องกำหนดจุด Cut Loss ให้ชัดเจน
แนวรับ : 1705, 1700 แนวต้าน : 1720, 1730
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : Trump เดินทางเยือนเอเชีย (ญี่ปุ่น-จีน-เกาหลีใต้-เวียดนาม-ฟิลิปปินส์) / การประชุม Asean 13-14 พ.ย. / จีนรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้า เช้านี้
ปัจจัยในประเทศ : จับตาการปรับครม.
ปัจจัยต่างประเทศ : Trump เดินทางเยือนเอเชีย (ญี่ปุ่น-จีน-เกาหลีใต้-เวียดนาม-ฟิลิปปินส์) / การประชุม Asean 13-14 พ.ย. / จีนรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้า เช้านี้
ปัจจัยในประเทศ : จับตาการปรับครม.
หุ้นเทคนิค:
PTTGC (B 79.00-79.50, Tp 81.50//83.00, Cut 78.00)
CPN (B 82.00, Tp 85.00, Cut 81.00)
PTTGC (B 79.00-79.50, Tp 81.50//83.00, Cut 78.00)
CPN (B 82.00, Tp 85.00, Cut 81.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO2162