- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 November 2017 17:15
- Hits: 1030
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> ROBINS, SEAFCO, WHA
Stock S R Comment
ROBINS 72.50 74.50 อานิสงส์ช้อปช่วยชาติ
SEAFCO 9.30 9.60 ลุ้นงานภาครัฐหนุนกลุ่มรากฐานในปีหน้า
WHA 3.84 3.96 ระยะยาวอานิสงส์ EEC ทั้งขายพื้นที่ คลังสินค้า โลจิสติกส์ พลังงาน
MPC to maintain rate at 1.5%
MPC : คาดการณ์ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ต่อไป ซึ่งคงจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์อยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงถัดไปได้แก่การส่งผ่านราคาทางด้านอุปทาน หากราคาน้ำมันยังยืนอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจเป็น Upside risk ที่สำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงถัดไป จนส่งผลกระทบต่อแนวนโยบายการเงินได้
KCE : ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีสาเหตุหลักจาก Margin ที่ลดลงเนื่องจากราคาทองแดงอยู่ในระดับสูงรวมถึงเงินบาทที่แข็งค่า มองเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นทรงตัวในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าวเมื่อมาประกอบกับความเป็นไปได้ที่ KCE จะหลุดจากดัชนี SET50 ในรอบถัดไป อาจทำให้ราคาหุ้นยังไม่ขยับมากนักในระยะสั้น อย่างไรก็ดี หากราคามีการปรับตัวลงมาบริเวณกรอบ 95 บาทอีกครั้ง มองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเพิ่ม เนื่องจากประเมินราคาทองแดงในระยะกลาง-ยาวมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากการหมดประเด็นแรงเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้า บวกกับแนวโน้มการแข็งค่าของเงิน USD
ส่วนประเด็นที่หุ้น KCE จะหลุดจากดัชนี SET50 นั้น เราขอย้ำผลการศึกษาในช่วง 3 รอบการคำนวณหลังสุดอีกครั้ง ซึ่งพบว่าหุ้นที่ถูกตัดออกจากดัชนี มีการปรับตัว Underperform ตลาดเฉลี่ยเพียงแค่ 2% นับตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงวันมีผลบังคับใช้ ซึ่งไม่ได้เป็นระดับที่มีมีนัยสำคัญแต่อย่างใด แถมราคายังมีการปรับตัว Rebound ขึ้นได้ราว 3% ในช่วง 1 เดือนหลังจากนั้น ด้วยเหตุนี้ยังคงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ต่อไป
JMART : ประเมินผลประกอบการไตรมาส 3/60 ยังไม่โดดเด่น โดยคาดกำไรสุทธิเพียง 121 ล้านบาท จากยอดขายที่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีมือถือระดับ Flagship เปิดตัวค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ดี มองไตรมาส 4 จะมีปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ และมาตรการช้อปช่วยชาติที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ล่าสุดปรับราคาเป้าหมายของ JMART ขึ้นเป็น 19.40 บาท พื่อสะท้อนราคาเป้าหมายใหม่ของ JMT ประเมินราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนปัจจัยบวกไปบางส่วนจนไม่เหลือ Upside แล้ว จึงแนะนำ Switch การลงทุนไปยัง JMT ซึ่งยังมี Upside 14% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 39 บาท
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1650-1750 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Selective ต่อไป โดยในระยะสั้นประเมินกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าปลีก ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนระยะยาวได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
แนวรับ 1,705 แนวต้าน 1,725
Today Selection >> ROBINS, SEAFCO, WHA
Stock S R Comment
ROBINS 72.50 74.50 อานิสงส์ช้อปช่วยชาติ
SEAFCO 9.30 9.60 ลุ้นงานภาครัฐหนุนกลุ่มรากฐานในปีหน้า
WHA 3.84 3.96 ระยะยาวอานิสงส์ EEC ทั้งขายพื้นที่ คลังสินค้า โลจิสติกส์ พลังงาน
MPC to maintain rate at 1.5%
MPC : คาดการณ์ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ต่อไป ซึ่งคงจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์อยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงถัดไปได้แก่การส่งผ่านราคาทางด้านอุปทาน หากราคาน้ำมันยังยืนอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจเป็น Upside risk ที่สำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อในช่วงถัดไป จนส่งผลกระทบต่อแนวนโยบายการเงินได้
KCE : ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีสาเหตุหลักจาก Margin ที่ลดลงเนื่องจากราคาทองแดงอยู่ในระดับสูงรวมถึงเงินบาทที่แข็งค่า มองเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นทรงตัวในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าวเมื่อมาประกอบกับความเป็นไปได้ที่ KCE จะหลุดจากดัชนี SET50 ในรอบถัดไป อาจทำให้ราคาหุ้นยังไม่ขยับมากนักในระยะสั้น อย่างไรก็ดี หากราคามีการปรับตัวลงมาบริเวณกรอบ 95 บาทอีกครั้ง มองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเพิ่ม เนื่องจากประเมินราคาทองแดงในระยะกลาง-ยาวมีแนวโน้มปรับตัวลดลง จากการหมดประเด็นแรงเก็งกำไรในตลาดล่วงหน้า บวกกับแนวโน้มการแข็งค่าของเงิน USD
ส่วนประเด็นที่หุ้น KCE จะหลุดจากดัชนี SET50 นั้น เราขอย้ำผลการศึกษาในช่วง 3 รอบการคำนวณหลังสุดอีกครั้ง ซึ่งพบว่าหุ้นที่ถูกตัดออกจากดัชนี มีการปรับตัว Underperform ตลาดเฉลี่ยเพียงแค่ 2% นับตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงวันมีผลบังคับใช้ ซึ่งไม่ได้เป็นระดับที่มีมีนัยสำคัญแต่อย่างใด แถมราคายังมีการปรับตัว Rebound ขึ้นได้ราว 3% ในช่วง 1 เดือนหลังจากนั้น ด้วยเหตุนี้ยังคงแนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" ต่อไป
JMART : ประเมินผลประกอบการไตรมาส 3/60 ยังไม่โดดเด่น โดยคาดกำไรสุทธิเพียง 121 ล้านบาท จากยอดขายที่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีมือถือระดับ Flagship เปิดตัวค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ดี มองไตรมาส 4 จะมีปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ และมาตรการช้อปช่วยชาติที่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ล่าสุดปรับราคาเป้าหมายของ JMART ขึ้นเป็น 19.40 บาท พื่อสะท้อนราคาเป้าหมายใหม่ของ JMT ประเมินราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนปัจจัยบวกไปบางส่วนจนไม่เหลือ Upside แล้ว จึงแนะนำ Switch การลงทุนไปยัง JMT ซึ่งยังมี Upside 14% จากราคาเป้าหมายของเราที่ 39 บาท
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1650-1750 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Selective ต่อไป โดยในระยะสั้นประเมินกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าปลีก ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนระยะยาวได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
แนวรับ 1,705 แนวต้าน 1,725
บทวิเคราะห์วันนี้ :
TU (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 24 บาท) ธุรกิจทูน่ากดดันกำไร รอการฟื้นตัวในปี 61
Today's Event :
CRYSTAL XD 0.193 บาท
DIF XD 0.242 บาท
POPF XD 0.2414 บาท
PPF XD 0.1809 บาท
SIRIP XD 0.145 บาท
SPALI-W4 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (429mn sh 1:1 @ Bt. 4.00)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
TU (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 24 บาท) ธุรกิจทูน่ากดดันกำไร รอการฟื้นตัวในปี 61
Today's Event :
CRYSTAL XD 0.193 บาท
DIF XD 0.242 บาท
POPF XD 0.2414 บาท
PPF XD 0.1809 บาท
SIRIP XD 0.145 บาท
SPALI-W4 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (429mn sh 1:1 @ Bt. 4.00)
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO2110