- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 August 2014 17:05
- Hits: 1859
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET เริ่มมีสัญญาณ “พักฐาน” ย่อยเกิดขึ้น: แรงขายทำกำไรหลัง SET ปรับสูงขึ้นก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ SET ปรับลดลง 0.19% ปิดตลาดที่ 1,560.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 142 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น ต้องระวังการ “พักฐาน” ย่อยหลังปรับสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเราประเมินแนวรับจำกัดที่ 1,540-1,550 จุด เท่านั้น ขณะที่คงเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,580-1,600 จุด ต่อไป ด้วยปัจจัยบวกจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตั้งแต่ 3Q14 และคาดหวังการยกเลิกกฎอัยการศึก หลังมีการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ สำหรับตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนนี้ +0.17% จากตัวเลยความเชื่อมั่น ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ออกมาดี
“ซื้อ” CPALL: เราแนะนำ “ซื้อ” CPALL โดยราคาหุ้นตอบรับผลการดำเนินงาน 2Q14 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดไปแล้ว และคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวใน 3Q14 จากกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัว, ต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงจากการออกหุ้นกู้ และการขยายสาขา ด้วยเป้าหมายพื้นฐานที่ 65.0 บาท และระยะสั้นที่ 48.25 บาท...สำหรับกลุ่ม Domestic Plays ยังแนะนำ “ซื้อ” KBANK KTB STEC CK SPALI QH LPN LH MAJOR รวมถึง AOT CENTEL
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BGH, BTS, CPALL, CK, EA, GFPT, SAMART, SPALI, และ STEC เป็นหุ้นใน Tactical Portfolio
“ซื้อ” AOT…การย่อยตัวของราคาหุ้นเป็นจังหวะซื้อ: “ซื้อ” AOT ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 240-244 บาท และระยะสัปดาห์ที่ 260-280 บาท ใกล้เคียงกับเป้าหมายพื้นฐานที่ 260 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) คาดตัวเลขผู้โดยสารกลับมาเป็น “บวก” อีกครั้งในเดือน ส.ค. และคาดว่าจะเร่งตัวมากขึ้นในช่วง ต.ค.-ธ.ค.ที่เป็นช่วง Peak Season 2) คาด คสช.มีโอกาสยกเลิกกฎอัยการศึก หลังมีการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจท่องเที่ยว 3) สนามบินดอนเมือง Terminal 2 จะเปิดใช้บริการตั้งแต่ ต.ค.นี้ รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านคน/ปี จากเดิม 18.0 ล้านคน/ปี และเป็นการเพิ่มพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็น Fixed Income ให้กับ AOT ด้วย และ 4) ล่าสุดการปรับลดงบประมาณลงทุนขยายสนามบินสุวรรณภูมิลงเหลือ 2.4 หมื่นล้านบาทจากเดิมที่ 6.25 หมื่นล้านบาท เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 65 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันที่ 45 ล้านคน/ปี (แผนเดิมเพิ่มผู้โดยสารได้เป็น 60 ล้านคน/ปี เท่านั้น) เป็น Upside Risk โดยตรงต่อเป้าหมายพื้นฐานที่ 260 บาท อีก 20 บาท/หุ้น
Technical
SET ทะลุยอด 1550 จุด แนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง: จังหวะปิดลดลงเป็นสัญญาณลบเล็กน้อยแต่คาดว่าอ่อนตัวไม่รุนแรง การปรับตัวลงมาทดสอบยอดเดิม 1548-1550 จุด เป็นจังหวะซื้อ สำหรับวันนี้ดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1557-1565 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ: MALEE เกิดสัญญาณซื้อราคาฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน 37.50 บาท คาดว่าจะทดสอบแนวต้านถัดไป 41.00 บาท ผ่านได้ซื้อเพิ่มมีเป้าหมายที่ระดับ 43.00 และ 45.00 บาทตามลำดับ NUSA ระยะยาวฟื้นตัวขึ้นด้วยรูปแบบ Double Bottom มีเป้าหมายมุ่งไปสู่ 1.25-1.30 บาท ระยะสั้นแนวโน้มขึ้นทำยอดสูงสุดใหม่เป็นจังหวะซื้อตาม คาดว่าจะผ่าน 1.10 บาท มีเป้าหมายถัดไปที่ 1.20 บาท เป็นจุดขายทำกำไร IVL เป้าหมายหลักขึ้นไปสู่ 32-33 บาท ขณะที่แนวโน้มย่อยทำรูปแบบ Double Bottom ผ่านยอดเดิม 27.50 บาท เป็นจังหวะซื้อระยะสั้นเป้าหมาย 29.50 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,050 จุด และถัดไปที่ 1,058-1,060 จุด ขณะที่เลื่อน Trailing Stop ขึ้นมาที่
1,038 จุด
Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,250 บาท หรือถัดไปที่ 18,600 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 19,650 บาท สำหรับนักลงทุนที่ไม่มีสถานะแนะนำ “เปิด” สถานะ Short สัญญา GFV14 ในจังหวะ Rebound ที่บริเวณ 19,650 บาท
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 3280-3330 บาท สำหรับสัญญา BRU14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ล่าสุดแม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดี แต่ราคาน้ำมันดิบ Brent ยังปรับลดลงต่อเนื่อง US$0.15/bbl
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล