- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 November 2017 17:13
- Hits: 1302
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily 03-11-17
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดทรงตัวเท่ากับวันก่อนหน้า แกว่งตัวสลับขึ้นลงยืนบวกและลบ มีจุดสูงสุดของวันที่ 1716.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด ก่อนที่จะเลือกทิ้งตัวลงแรงแกว่งตัวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทิ้งหนักอีกรอบท้ายตลาด ลงมาจุดต่ำสุดของวันที่ 1701.93 จุด ลดลง 12.62 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 14.29 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ ADVANC, PTT, SCC, DTAC, TRUE, SSP, BCP ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1701.93 จุด ลดลง 12.62 จุด (-0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 62,986 ล้านบาท
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดทรงตัวเท่ากับวันก่อนหน้า แกว่งตัวสลับขึ้นลงยืนบวกและลบ มีจุดสูงสุดของวันที่ 1716.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด ก่อนที่จะเลือกทิ้งตัวลงแรงแกว่งตัวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทิ้งหนักอีกรอบท้ายตลาด ลงมาจุดต่ำสุดของวันที่ 1701.93 จุด ลดลง 12.62 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 14.29 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ ADVANC, PTT, SCC, DTAC, TRUE, SSP, BCP ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1701.93 จุด ลดลง 12.62 จุด (-0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 62,986 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้มีทิศทางปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ในลักษณะทำ High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า และกราฟแท่งเทียนที่อยู่ในเชิงลบ พร้อมกับทำปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1701 จุด จากภาพดังกล่าวเป็นการยืนยันของการปรับฐานแต่จะลงไปถึงระดับใดที่จะดีดกลับอีกครั้งคงต้องสิ่งที่ต้องติดตามกันในอนาคต แต่ให้นัยสำคัญที่ Low เดิม (1673) ว่าจะลงไปถึงมั้ยหรือจะรับอยู่เปล่า แต่อย่างไรก็ตามมีสลับการดีดกลับระหว่างทางได้ เนื่องจากภาพรายชม. เริ่มเข้าสู่ภาวะ Oversold และเข้าใกล้แนวรับที่คาดหวังการดีดกลับ แนวรับ 1690-1695 // 1687 จุด แนวต้าน 1707-1711 // 1718 จุด
แกว่งตัวผันผวน - มีแนวโน้มปรับฐาน อาจมีการดีดกลับได้ระหว่างทาง
Support 1690 // 1670 จุด Resistance 1728 // 1735 จุด
ดัชนีวานนี้มีทิศทางปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ในลักษณะทำ High-Low ต่ำกว่าวันก่อนหน้า และกราฟแท่งเทียนที่อยู่ในเชิงลบ พร้อมกับทำปิดที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1701 จุด จากภาพดังกล่าวเป็นการยืนยันของการปรับฐานแต่จะลงไปถึงระดับใดที่จะดีดกลับอีกครั้งคงต้องสิ่งที่ต้องติดตามกันในอนาคต แต่ให้นัยสำคัญที่ Low เดิม (1673) ว่าจะลงไปถึงมั้ยหรือจะรับอยู่เปล่า แต่อย่างไรก็ตามมีสลับการดีดกลับระหว่างทางได้ เนื่องจากภาพรายชม. เริ่มเข้าสู่ภาวะ Oversold และเข้าใกล้แนวรับที่คาดหวังการดีดกลับ แนวรับ 1690-1695 // 1687 จุด แนวต้าน 1707-1711 // 1718 จุด
แกว่งตัวผันผวน - มีแนวโน้มปรับฐาน อาจมีการดีดกลับได้ระหว่างทาง
Support 1690 // 1670 จุด Resistance 1728 // 1735 จุด
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
"ฝรั่งยังลังเล ของไทยรอดูมาตรการช้อปช่วยชาติ "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดตลาดผันผวน แม้ชื่อประธาน Fed จะหนุนตลาดหุ้น ........ การเสนอชื่อขายเพาเวล ขึ้นเป็นประธาน Fed คนใหม่ เป็นบวกต่อตลาดเพราะนโยบายการเงินคาดจะยังเอื้อต่อการลงทุน (ดอลล่าร์-ดอกเบี้ย ยังต่ำ) แต่ตลาดกำลังพิจารณาแผนลดภาษีของสหรัฐฯ ที่มีการเผยรายชื่อในคืนที่ผ่านมา (ไม่ต่างจากที่เผยมาก่อนหน้านี้) ว่าจะเป็นบวกหรือลบมากกว่ากัน อีกทั้งคืนนี้ สหรัฐฯจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานด้วย ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกบางประเด็นที่นักลงทุนต้องรอดูผลที่จะออกมา การซื้อขายของตลาดหุ้น (เอเซียและไทย) จึงยังไม่กระเตื้องขึ้นได้มากนัก เพราะนักลงทุนต่างประเทศก็คงชะลอการลงทุนอยู่ต่อไป ..... ปัจจัยในประเทศ มาตรการช้อปช่วยชาติ กำลังถูกพิจารณา เราประเมินขนาดจะไม่ใหญ่กว่าเดิม แต่จะครอบคลุมการใช้จ่ายในหลายธุรกิจและกระจายไปในต่างจังหวัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นส่วนใหญ่ถูกเก็งกันมาก่อนหนี้น้แล้ว สำหรับการรายงานงบ 3Q ก็จะทยอยออกมามากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน : จากที่เราให้ความสนใจต่อประธาน Fed คนใหม่ที่มีผลต่อการ Fund Flow ในตลาดหุ้นไทย แม้ผลจะออกมาดี แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ตลาดกำลังรอคอย แนวโน้มตลาดช่วงสั้นๆจึงยังไม่ดีอย่างที่เคยคาด ... กลยุทธ์การลงทุน จึงยังเป็น selective buy เปลี่ยนตัวเล่นหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก เช่นกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมี....เรายังเน้นลงทุนหุ้นด้วยสองปัจจัยหลัก คือกลุ่มได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐฯ วันนี้ จับตาการประชุมเรื่องการลงทุน PPP ของภาครัฐฯ อาจส่งแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (STEC, UNIQ) และนิคมฯ (WHA,AMATA) และหุ้นมีปัจจัยเฉพาะตัว รวมทั้งหุ้นงบ 3Q ที่คาดว่าจะออกมาดี รวมไปถึงหุ้น PTTEP ที่กำไรปกติดีกว่าตลาดคาด โบรกเกอร์บางแห่งออกมามองในมุมบวกของหุ้นตัวนี้
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ AP, FN, M, MINT
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : MALEE, ORI, TPOLY
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
"ฝรั่งยังลังเล ของไทยรอดูมาตรการช้อปช่วยชาติ "
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดตลาดผันผวน แม้ชื่อประธาน Fed จะหนุนตลาดหุ้น ........ การเสนอชื่อขายเพาเวล ขึ้นเป็นประธาน Fed คนใหม่ เป็นบวกต่อตลาดเพราะนโยบายการเงินคาดจะยังเอื้อต่อการลงทุน (ดอลล่าร์-ดอกเบี้ย ยังต่ำ) แต่ตลาดกำลังพิจารณาแผนลดภาษีของสหรัฐฯ ที่มีการเผยรายชื่อในคืนที่ผ่านมา (ไม่ต่างจากที่เผยมาก่อนหน้านี้) ว่าจะเป็นบวกหรือลบมากกว่ากัน อีกทั้งคืนนี้ สหรัฐฯจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานด้วย ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกบางประเด็นที่นักลงทุนต้องรอดูผลที่จะออกมา การซื้อขายของตลาดหุ้น (เอเซียและไทย) จึงยังไม่กระเตื้องขึ้นได้มากนัก เพราะนักลงทุนต่างประเทศก็คงชะลอการลงทุนอยู่ต่อไป ..... ปัจจัยในประเทศ มาตรการช้อปช่วยชาติ กำลังถูกพิจารณา เราประเมินขนาดจะไม่ใหญ่กว่าเดิม แต่จะครอบคลุมการใช้จ่ายในหลายธุรกิจและกระจายไปในต่างจังหวัดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นส่วนใหญ่ถูกเก็งกันมาก่อนหนี้น้แล้ว สำหรับการรายงานงบ 3Q ก็จะทยอยออกมามากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน : จากที่เราให้ความสนใจต่อประธาน Fed คนใหม่ที่มีผลต่อการ Fund Flow ในตลาดหุ้นไทย แม้ผลจะออกมาดี แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ตลาดกำลังรอคอย แนวโน้มตลาดช่วงสั้นๆจึงยังไม่ดีอย่างที่เคยคาด ... กลยุทธ์การลงทุน จึงยังเป็น selective buy เปลี่ยนตัวเล่นหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก เช่นกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมี....เรายังเน้นลงทุนหุ้นด้วยสองปัจจัยหลัก คือกลุ่มได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐฯ วันนี้ จับตาการประชุมเรื่องการลงทุน PPP ของภาครัฐฯ อาจส่งแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (STEC, UNIQ) และนิคมฯ (WHA,AMATA) และหุ้นมีปัจจัยเฉพาะตัว รวมทั้งหุ้นงบ 3Q ที่คาดว่าจะออกมาดี รวมไปถึงหุ้น PTTEP ที่กำไรปกติดีกว่าตลาดคาด โบรกเกอร์บางแห่งออกมามองในมุมบวกของหุ้นตัวนี้
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ AP, FN, M, MINT
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : MALEE, ORI, TPOLY
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (02 พ.ย.) ปิด 1,701.93 จุด ลดลง 12.62 จุด หรือ 0.74% มูลค่าการซื้อขาย 62,985.70 ล้านบาท ตลาดปรับตัวลงในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นโลก คาดนักลงทุนชะลอการลงทุนจับตารอผลการประกาศประธาน Fed คนใหม่ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงนำโดยกลุ่ม ICT มองเป็นการขายทำกำไรก่อน ADVANC ประกาศผลการดำเนินงานช่วง 3Q17
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,516.26 จุด เพิ่มขึ้น 81.25 จุด หรือ +0.35% ตลาดบวกจากข่าวประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ขึ้นเป็นประธาน Fed คนใหม่แทนนางเยลเลนที่จะครบวาระต้นปีหน้า รวมทั้งการเผยรายละเอียดของแผนปฎิรูปภาษี ที่จะมีการนำเสนอต่อสภาฯ โดยแผนนี้ คาดจะทำให้สหรัฐฯขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นถึง $1.49 ล้านล้านเหรียญ .... แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับตัวลดลง 0.5% ผลจากความกังวลเรื่องการแข็งค่าของเงินยูโร ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.25% เป็น 0.50%
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาการรายงานประธาน Fed คนใหม่คือ Powell การเสนอชื่อ นายเจอโรม พาวเวล เรามองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เนืองด้วย มีแนวคิดที่คล้ายกับนางเจเน็ต เยลเลน ฉนั้นนโยบายต่างๆจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก จะส่งผลให้ดอลล่าร์จะไม่แข็งค่าขึ้นเร็ว (เทียบกับผู้ที่มีแนวคิดตรงข้ามนางเยลเลน) ความเสี่ยงเรื่องนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นของตลาดเอเซียจะลดลง
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบปิดที่ 54.54 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงขึ้น 24 เซนต์ ตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล (คาด -1.8) บวกกับหลายประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ยังออกมาสนับสนุนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ซึ่งเป็นบวกโดยตรงต่อผู้ผลิตน้ำมัน (PTTEP) แต่อาจไม่ดีนักกับโรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมีขั้นต้น หาก demand ของสินค้าไม่ได้ปรับตัวขึ้นตาม
ปัจจัยในประเทศ: คาดวันนี้มีรายงานผลประกอบการ 3Q17 ของ INTUCH คาดการณ์หุ้นขนาดใหญ่ที่จะรายงานผลประกอบการช่วง 3Q17 มีเพียง INTUCH วานนี้ ADVANC ประกาศผลประกอบการออกมาที่ 7,496 ล้านบาท (+15% YoY, +4% QoQ) ปรับตัวสูงขึ้นตามคาด เป็นผลมาจากการคบคุมค่าใช้จ่ายและจำนวนลูกค้าระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ Bloomberg คาดการณ์ว่า INTUCH จะรายงานกำไรสุทธิช่วง 3Q17 ที่ 2,990 ล้านบาท (+12% YoY, +4% QoQ) และเช้านี้ ติดตาม การประชุมของรัฐบาลในเรื่องแผน PPP
ช้อปช่วยชาติ - "อภิศักดิ์" ส่งซิกจีดีพีไตรมาสที่ 3 โต 4% หลังมาตรการกระตุ้นเริ่มออกฤทธิ์ สภาพัฒน์แถลงตัวเลขทางการ 20 พ.ย.นี้ พร้อมออกมาตรการช็อปช่วยชาติช่วงปลายปีนี้ หนุนการใช้จ่ายในประเทศต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้เศรษฐกิจไทยโต 3.8-3.9%
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (02 พ.ย.) ปิด 1,701.93 จุด ลดลง 12.62 จุด หรือ 0.74% มูลค่าการซื้อขาย 62,985.70 ล้านบาท ตลาดปรับตัวลงในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นโลก คาดนักลงทุนชะลอการลงทุนจับตารอผลการประกาศประธาน Fed คนใหม่ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงนำโดยกลุ่ม ICT มองเป็นการขายทำกำไรก่อน ADVANC ประกาศผลการดำเนินงานช่วง 3Q17
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,516.26 จุด เพิ่มขึ้น 81.25 จุด หรือ +0.35% ตลาดบวกจากข่าวประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ขึ้นเป็นประธาน Fed คนใหม่แทนนางเยลเลนที่จะครบวาระต้นปีหน้า รวมทั้งการเผยรายละเอียดของแผนปฎิรูปภาษี ที่จะมีการนำเสนอต่อสภาฯ โดยแผนนี้ คาดจะทำให้สหรัฐฯขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นถึง $1.49 ล้านล้านเหรียญ .... แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับตัวลดลง 0.5% ผลจากความกังวลเรื่องการแข็งค่าของเงินยูโร ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.25% เป็น 0.50%
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตาการรายงานประธาน Fed คนใหม่คือ Powell การเสนอชื่อ นายเจอโรม พาวเวล เรามองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เนืองด้วย มีแนวคิดที่คล้ายกับนางเจเน็ต เยลเลน ฉนั้นนโยบายต่างๆจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก จะส่งผลให้ดอลล่าร์จะไม่แข็งค่าขึ้นเร็ว (เทียบกับผู้ที่มีแนวคิดตรงข้ามนางเยลเลน) ความเสี่ยงเรื่องนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นของตลาดเอเซียจะลดลง
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบปิดที่ 54.54 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงขึ้น 24 เซนต์ ตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล (คาด -1.8) บวกกับหลายประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ยังออกมาสนับสนุนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ซึ่งเป็นบวกโดยตรงต่อผู้ผลิตน้ำมัน (PTTEP) แต่อาจไม่ดีนักกับโรงกลั่นน้ำมัน-ปิโตรเคมีขั้นต้น หาก demand ของสินค้าไม่ได้ปรับตัวขึ้นตาม
ปัจจัยในประเทศ: คาดวันนี้มีรายงานผลประกอบการ 3Q17 ของ INTUCH คาดการณ์หุ้นขนาดใหญ่ที่จะรายงานผลประกอบการช่วง 3Q17 มีเพียง INTUCH วานนี้ ADVANC ประกาศผลประกอบการออกมาที่ 7,496 ล้านบาท (+15% YoY, +4% QoQ) ปรับตัวสูงขึ้นตามคาด เป็นผลมาจากการคบคุมค่าใช้จ่ายและจำนวนลูกค้าระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ Bloomberg คาดการณ์ว่า INTUCH จะรายงานกำไรสุทธิช่วง 3Q17 ที่ 2,990 ล้านบาท (+12% YoY, +4% QoQ) และเช้านี้ ติดตาม การประชุมของรัฐบาลในเรื่องแผน PPP
ช้อปช่วยชาติ - "อภิศักดิ์" ส่งซิกจีดีพีไตรมาสที่ 3 โต 4% หลังมาตรการกระตุ้นเริ่มออกฤทธิ์ สภาพัฒน์แถลงตัวเลขทางการ 20 พ.ย.นี้ พร้อมออกมาตรการช็อปช่วยชาติช่วงปลายปีนี้ หนุนการใช้จ่ายในประเทศต่อเนื่อง มั่นใจปีนี้เศรษฐกิจไทยโต 3.8-3.9%
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
AP(ราคาปิด 9.20) เรามอง AP เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีผลประกอบการเติบโตดี และมีปันผลที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี .... ยอด presales ของ AP ช่วง 9M17 อยู่ที่ 28,295 ล้านบาท สูงกว่าเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 26,000 ล้านบาท ปัจจุบัน AP มี Backlog ที่ 13,400 ล้านบาท และคาดช่วงครึ่งปีหลังจะมีโครงการคอนโดเปิดใหม่อีก 1 โครงการมูลค่า 9,000 ล้านบาท .... Bloomberg คาดผลประกอบการปี 2017 ที่ 3,056 ล้านบาท (+10% YoY) และคาดจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 3,481 ล้านบาท (+14% YoY) .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 9.26 บาท)
FN*(ราคาปิด 6.00) เรามองผลการดำเนินงานช่วง 3Q17 จะปรับตัวลงจากปัจจัยฤดูกาล เช่น ฝนตกหนัก, ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เรามองว่าบริษัทจะสามารถเติบโตได้ดีตั้งแต่ช่วง 4Q17 เป็นต้นไป .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปีนี้จะอ่อนตัวลงที่ -17% YoY ที่ 122 ล้านบาท แต่จะสามารถเติบโตได้ดีในปี 2018 ที่ +35% YoY ที่ 165 ล้านบาท .... นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเตรียมจะขายสินค้าในรูปแบบร้านค้าออนไลน์ โดยบริษัทจะเร่งพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท (House Brand) ให้มีชื่อเสียงมากขึ้น ซึ่งบริษัทเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้เติบโต นอกเหนือจากรายได้ที่มาจากการขยายสาขา ….. (ราคาที่เหมาะสมโดย Bloomberg 4.90 บาท)
หุ้น เหตุผล
AP(ราคาปิด 9.20) เรามอง AP เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีผลประกอบการเติบโตดี และมีปันผลที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี .... ยอด presales ของ AP ช่วง 9M17 อยู่ที่ 28,295 ล้านบาท สูงกว่าเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 26,000 ล้านบาท ปัจจุบัน AP มี Backlog ที่ 13,400 ล้านบาท และคาดช่วงครึ่งปีหลังจะมีโครงการคอนโดเปิดใหม่อีก 1 โครงการมูลค่า 9,000 ล้านบาท .... Bloomberg คาดผลประกอบการปี 2017 ที่ 3,056 ล้านบาท (+10% YoY) และคาดจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 3,481 ล้านบาท (+14% YoY) .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 9.26 บาท)
FN*(ราคาปิด 6.00) เรามองผลการดำเนินงานช่วง 3Q17 จะปรับตัวลงจากปัจจัยฤดูกาล เช่น ฝนตกหนัก, ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เรามองว่าบริษัทจะสามารถเติบโตได้ดีตั้งแต่ช่วง 4Q17 เป็นต้นไป .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปีนี้จะอ่อนตัวลงที่ -17% YoY ที่ 122 ล้านบาท แต่จะสามารถเติบโตได้ดีในปี 2018 ที่ +35% YoY ที่ 165 ล้านบาท .... นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเตรียมจะขายสินค้าในรูปแบบร้านค้าออนไลน์ โดยบริษัทจะเร่งพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท (House Brand) ให้มีชื่อเสียงมากขึ้น ซึ่งบริษัทเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้เติบโต นอกเหนือจากรายได้ที่มาจากการขยายสาขา ….. (ราคาที่เหมาะสมโดย Bloomberg 4.90 บาท)
M*(ราคาปิด 78.00) คาดการณ์ช่วง 3Q17 ยังคงเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน จากราคาหมู, ไก่ ที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดย Bloomberg คาดกำไรสำหรับช่วง 3Q17 ที่ 558 ล้านบาท (+7% YoY, -4% QoQ) .... เรามองว่ากำไรสุทธิทั้งปีของ M จะสามารถเติบโตได้จากการขยายสาขา บริษัทตั้งเป้าสาขา MK ที่เพิ่มทั้งปีที่ 16 ร้านจากที่ขยายไปแล้ว 5 ร้าน และ Yayoi 17 ร้านจากที่ขยายไปแล้ว 4 ร้าน โดย Bloomberg คาดกำไรสำหรับปี 2017 ที่ 2,481 ล้านบาท (+18% YoY), และปี 2018 ที่ 2,660 ล้านบาท (+7% YoY) …. (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 72.31 บาท)
MINT(ราคาปิด 43.00) ผลประกอบการโรงแรมในยุโรป เริ่มดีขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง high season ...... ในประเทศ เรามองจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติท่องเที่ยวต่างชาติสูงขึ้นและการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของท่องเที่ยวเป็นบวกต่อ MINT …. คาด 2H17 กำไรจะเติบโตได้ดี จาก high season ของยุโรปและไทย นอกจากนี้ คาดภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม .... (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 45.00 บาท)
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
MINT(ราคาปิด 43.00) ผลประกอบการโรงแรมในยุโรป เริ่มดีขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง high season ...... ในประเทศ เรามองจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติท่องเที่ยวต่างชาติสูงขึ้นและการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของท่องเที่ยวเป็นบวกต่อ MINT …. คาด 2H17 กำไรจะเติบโตได้ดี จาก high season ของยุโรปและไทย นอกจากนี้ คาดภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม .... (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 45.00 บาท)
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
License No: 001937
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
License No: 081447
+662 648 1127
[email protected]
OO1933