- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 November 2017 17:13
- Hits: 2270
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Rotate to reflation stocks
เมื่อวาน หุ้นโรงกลั่น ESSO SPRC TOP PTTGC BCP ถูกขายทำกำไรลงแรง และ พบว่ามีการหมุนเงินเข้า หุ้นแบงก์ใหญ่ เช่น KBANK BBL บ้าน, ไฟแนนซ์ (SPALI QH SAWAD) ซึ่งล้วนแต่เป็นหุ้นตัวนำของกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการกลับมาของเงินเฟ้อรอบใหม่ (Reflation) และหุ้นเด่นอื่นๆที่มีปัจจัยหนุนรายตัว IVL (US Tax reform น่าจะมีรายละเอียดในสัปดาห์นี้) JMART (แนวโน้มกำไร 3Q17 เด่นจากรายงาน Small cap playbook) BEM (Upside จาก ส่วนต่อขยายสายสีม่วง)
คาดว่าวันนี้ยังคงเห็น Flows rotation สลับหมุนเข้าเล่น หุ้นกลุ่ม Domestic และหุ้นเชื่อมโยงเงินเฟ้อ หลังวานนี้ เงินเฟ้อไทยเดือน ตค.+0.86% y-y พุ่งขึ้นเกินคาดที่ 0.8%
คาดดัชนีฯวันนี้ Sideways down 1,700-1,720 จุด จากหุ้นบูลชิพใหญ่รายตัว จะผันผวนตามงบที่ประกาศ เหมือน SCC THCOM เมื่อวานที่งบแย่กว่าคาด
(-) ADVANC PTTEP งบออกพฤหัส INTUCH (โดน THCOM ถ่วงงบ) วันศุกร์ (มีแต่ตัวที่คาดกำไรจะแย่ลง)
(-/+) เมื่อวาน SCC รายงานกำไร 3Q17 ที่ 1.18 หมื่นล้านบาท แย่กว่าเราคาดที่ 1.4 หมื่นล้านบาท และคาดจะมี Flows ปรับลดคาดการกำไรจาก Consensus ตามมาวันนี้ แต่ข่าวการ Downgrade กลยุทธ์มองเป็นโอกาสในการสะสมซื้อ ด้วยแนวโน้ม 3Q จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุด โดย 4Q เป็นต้นไปจะฟื้นตัว โดยเฉพาะจากธุรกิจ ซีเมนต์ ด้วยปริมาณยอดขายและราคาสูงขึ้น กอปรกับขาดทุนจากโรงปูนซีเมนต์แห่งใหม่ในประเทศพม่าและลาวลดลงเนื่องจากอัตราการผลิตมากขึ้น
สัปดาห์นี้ คาดแกว่งในกรอบ 1,700-1,730 จุด กลยุทธ์ แนะ (1) สะสมหุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ และหุ้น Local play ตัวกลาง-เล็ก (2) หุ้นที่ได้ประโยชน์ จากแนวโน้มดอลล์สหรัฐฯแข็งค่า (3) กลุ่มที่คาดประกาศงบ 3Q17 มีลุ้นดีกว่าตลาดคาด: ไฟแนนซ์ ท่องเที่ยวโรงแรม ยานยนต์ นิคมฯ
แนวโน้ม เดือน พย. คาดกลับเข้าสู่ภาวะ }ฟื้นตัว~ (กรอบขยับเป็น 1,680-1,750 จุด) ปัจจัยที่ต้องตาม (1) MSCI Quarterly review รู้กลางเดือน พย. หุ้นเข้า-ออก และน้ำหนักเปลี่ยนแปลง (2) งบ 3Q17 กำไรดีกว่าคาด VS. แย่กว่าคาด (3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากภาครัฐฯ (4) ประธานเฟดคนใหม่
หุ้นแนะนำวันนี้
KBANK แนวรับ 220 ต้าน 227 Stop loss 210 หุ้นตัวนำกลุ่ม ธีม Reflation สะสมเมื่ออ่อนตัว
รายงานวันนี้
SCB : Downgrade rating
เราปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ จากความเสี่ยงในมุมของคุณภาพสินทรัพย์จากกรณี PACE คาดส่งผลให้ราคาหุ้นอยู่ภายใต้แรงกดดันอีกระระหนึ่ง และถึงแม้ว่าธนาคารจะสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อ, ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ และ cost/income ratio ได้ แต่รายได้ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าที่เราคาด เราจึงปรับกำไรลง 2.2% และ 4.7% ในปี 2017-18 ตามลำดับ และปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 167 บาท
กลุ่มขนส่ง (การบิน): Only AAV looks good!
ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโต 6.4% YoY และ 8% QoQ ใน 3Q17 เติบโตได้แข็งแกร่งกว่าในช่วง 1H17 ที่เติบโตไป 4.4% YoY สำหรับตัวเลขผู้โดยสารจาก AOT ก็มีการเติบโตเช่นเดียวกัน โดยเติบโต 8.4% YoY และ 4.1% QoQ ทั้ง International visitor และ domestic traffic ตัวเลขผู้โดยสารสายการบินทั้งสามแห่ง (AAV, BA และ THAI) คาดเติบโต 8.6% YoY และ 3.1% QoQ แม้ว่าตัวเลขผู้โดยสารจะเติบโตแต่เราคาดกลุ่มสายการบินจะรายงานกำไรอ่อนตัวลง YoY จาก 1) ราคาตั๋วลดลง และ 2) ราคาน้ำมันเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดกำไรจะฟื้นตัวได้ QoQ โดยรวมเราประเมิน AAV จะเป็นบริษัทเดียวที่สามารถรายงานกำไรได้ใน 3Q17 (อีก 2 บริษัทเป็นขาดทุนหลัก) เรามองว่ากลุ่มสายการบินกำลังเข้าสู่ช่วง High season ไปจนถึง 1Q18 คาดราคาหุ้นจะมีการแรลลี่ขึ้น โดยเราชอบ AAV ที่สุดในกลุ่ม
หุ้นมีข่าว
(*/+) JAS กสทช.ชี้ไม่ตัดสิทธิ์ JAS เข้าร่วมประมูลคลื่น 1800-900 เมกะเฮิรตซ์ คาดเคาะราคาเดือน พ.ค. 2561 หวังนำเงินเข้ารัฐกว่า 7.5 หมื่นล้านบาท มั่นใจผู้ประกอบการไม่กล้าทิ้งไลเซนส์ เหตุค่าปรับสูงลิ่วแตะ 7 พันล้านบาท (ที่มา ไทยโพสต์/มติชน)
ความเห็น: กสทช.วางเกณฑ์ประมูลคลื่น 900/1800 MHz คาดเปิด มี.ค.61 เคาะราคา พ.ค.61 โดยจะแบ่งเป็น 4 ใบอนุญาต 1) 900MHz ราคาขั้นต่ำ 3.79 หมื่นล้านบาท (เทียบเท่าราคา 10MHz ในการประมูลครั้งที่แล้ว) และอีก 3 ใบอนุญาต เป็นคลื่น 1,800MHz ในละ 15MHz ราคาเริ่มต้น 3.75 หมื่นล้านบาท (ต่ำกว่าราคาในการประมูลครั้งที่แล้วราว 7%) (ที่มา กสทช.) / BLS Research คาดผู้ประกอบการจะมุ่งเน้นการประมูลคลื่น 1,800MHz เพราะมีราคา และจำนวนความถี่ (15MHz) ที่เหมาะสมในการทำธุรกิจมากกว่า เบื้องต้นเราประเมินว่า ราคาประมูลจะจบที่ราว 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท และ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ราย AIS DTAC TRUE จะได้รายละ 1 ในอนุญาติ ในคลื่น 1,800MHz
(+) CENTEL MINT ERW "ธนะศักดิ์" ขอคลังเพิ่มค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวเข้า "ช็อปช่วยชาติ" สร้างแรงส่งรับมาตรการกระตุ้นเมืองรองปีหน้า ระบุนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยเดือนตุลาฯ พุ่ง 20% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
(+) MALEE 'มาลี'ผนึกพีทีคีโน่ลุย'ไทย-อินโดฯ' MALEE จับมือยักษ์คอนซูเมอร์อินโดนีเซีย ตั้งบริษัทร่วมทุน เดินหน้าผลิต-จัดจำหน่ายสินค้าป้อนกำลังซื้อ 2 ประเทศ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
(+) SEAFCO แจังรับงานใหม่ 510 ล้านบาท ในรอบ 30 วันที่ผ่านมา บริษัทรับงานกว่า 1,100 ล้านบาท และส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมี backlog กว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับรองรับการเติบโตในปีหน้า การประกาศงานใหม่ส่งผลให้บริษัทมี backlog รองรับรายได้ถึง 12 เดือนข้างหน้า ด้วย New Norm Backlog ที่สูงขึ้นจนรองรับรายได้ล่วงหน้าไปถึง 1 ปี (ก่อนหน้านี้รองรับแค่ครึ่งปี) เราคาดราคาหุ้นจะเทรดบน New Norm Valuation สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และคาดกำไร 3Q17 ที่ 52 ล้านบาท เติบโตราว 310% YoY และ 36%QoQ แนะนำ }ซื้อ~ ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท อิง P/E 27 เท่า (+2SD เหนือค่าเฉลี่ยในอดีต)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) สศค. ปรับคาดเศรษฐกิจไทยปี 60 ขยายตัวเร่งขึ้นมาที่ 3.8% (ช่วงคาดการณ์ 3.6-4.0%) จากคาดการณ์เดิมที่ 3.6% ซึ่งเติบโตจาก 3.2% ในปี 59 ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราสูง โดยปีนี้คาดว่าส่งออกจะมีอัตราการขยายตัว 8.5% และการลงทุนภาคเอกชนที่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 61 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.8% (ช่วงคาดการณ์ 3.3-4.3%) โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ (ที่มา สศค.)
(0) ผลประชุมเฟดเมื่อวาน คงดอกเบี้ยตามคาด และ ตลาดคงคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25%-1.50%
(+) สื่อต่างประเทศฟันธง Jerome Powell นั่งประธานเฟดคนใหม่ (ที่มา ASPEN)
นักวิเคราะห์ : วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO1876