WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ รอข่าวฝั่งสหรัฐฯ เรื่องประธานเฟดคนใหม่
  KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์ เพราะฟันด์โฟลว์ยังชะลอหลังตลาดการเงินรอการประกาศรายชื่อประธาน ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ ล่าสุดสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ปธน. สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศชื่อในเวลา 15.00 วันพฤหัสฯ หรือ 3.00 ของวันศุกร์ตามเวลาไทย (จะมีผลต่อตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้) ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ KGI และ consensus ต่างคาดว่านายเจโรม พาวเวลล์ กรรมการเฟดชุดปัจจุบันจะได้รับเลือกเป็นประธานเฟด ด้านปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ เป็นบวกเล็กน้อย สหรัฐฯ รายงานตัวเลขจ้างงาน ADP survey และตัวเลข ISM ภาคการผลิตล้วนแข็งแกร่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ และเฟดประกาศผลประชุมนโยบายการเงิน คงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 1.00-1.25% ตามคาด และให้ความเห็นเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ทั้งนี้สัญญาณเฟดฟิวเจอร์ให้น้ำหนัก 97% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. สอดคล้องกับมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ KGI ด้านปัจจัยภายใน เราประเมินว่าจิตวิทยาเชิงลบจากงบไตรมาส 3/60 ของ SCC* ที่ต่ำกว่าคาด น่าจะหายไปจากตลาดเร็วๆ นี้ เนื่องจากภาพรวมของงบไตรมาส 3/60 ของทั้งตลาดหุ้นยังเติบโตดี ผนวกกับราคาหุ้น SCC* ได้ลดลงแล้ว 4.0% นับจากต้นไตรมาส 4/60 รับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปมากแล้ว
 
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร KBANK*, COM7*
  KBANK* (เป้าพื้นฐาน 250 บาท) 1) KBANK* แจ้งเป้าหมายทางการเงินปี 2561 ประเด็นที่น่าสนใจคือ i) อัตราการเติบโตของสินเชื่อ 5-7% (เทียบ 4-6% ปี 2560), ii) Credit cost 185 bps (เทียบกับ 200 – 225 bps ในปี 2560) ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานว่าผ่านจุดต่ำสุดในปีนี้แล้ว ตามภาวะเศรษฐกิจไทย 2) PBV ปี 2560 = 1.5 เท่า ใกล้เคียงกับ -1 Standard deviation ที่ 1.4 เท่า และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 1.8 เท่า ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด 3) แนวรับ 220 บาท แนวต้าน 230 – 250 บาท (Stop loss 210 บาท)
  COM7* (เป้า Consensus 16.2 บาท … สูงสุด 19 บาท) 1) Consensus ทยอยปรับราคาเป้าหมาย และคำแนะนำ ขึ้น ตามคาดโดยล่าสุด ราคาเป้าหมายเฉลี่ยใน Consensus ปรับขึ้นเป็น 16.2 บาท (เดิม 14.9 บาท) และเป้าหมายสูงสุดเป็น 19 บาท (เดิม 17.5 บาท) 2) ประเมินแนวรับ  15.0 บาท / แนวต้าน 16.3 บาท และ 17.3 บาท (Trailing stop 14.8 บาท) 3) Consensus ประเมินกำไร 3Q60 โต YoY และ QoQ จากการเปิดธุรกิจใหม่เพิ่มเติม อาทิ ธุรกิจลีสซิ่ง, ร้านมือถือหัวเว่ย + OPPO, รุกการขายสินค้าเข้าลูกค้าองค์กร เป็นต้น 4) มาตรการ “ช้อปช่วยชาติ” ที่คาดว่าจะมีการขยายระยะเวลา การช้อปปิ้งขึ้นจากปีก่อนจะเป็นบวกต่อยอดขายสินค้าไอทีครบวงจรของ COM7* (มีครบทุกยี่ห้อทั้ง คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, กล้องดิจิตอล ฯลฯ)
 
หุ้นในกระแส
  หุ้นกลุ่มค้าปลีก + อาหารและเครื่องดื่ม: ประเมินบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีนี้ จะฟื้นตัวเด่น จากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง “มาตรการช้อบช่วยชาติ” แนะนำ “เก็งกำไร” COM7*, ROBINS*, HMPRO* / ขณะที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปี คาดเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม อาหารและเครื่องดื่ม แนะนำ “เก็งกำไร” SAPPE (PE ต่ำสุดในกลุ่มตอนนี้), MINT*
  กลุ่มสื่อ&Entertainment: เราประเมินการจัดงานกิจกรรมต่างๆ + งบโฆษณาฯ เพื่อกระตุ้นยอดขาย จะฟื้นตัวเด่นในช่วงปลายปีนี้ – 1Q60 โดยเราประเมินหุ้นที่ยัง Laggard ในกลุ่มสื่อฯ ที่น่าสนใจได้แก่ MATCH, CMO, MAJOR*
 
หุ้นมีข่าว
  (0) CPI ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.86% YoY ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.58% YoY (กระทรวงพาณิชย์) เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลเนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น ราคาผักสดสูงขึ้นจากเทศกาลกินเจ และ การปรับภาษีสรรพสามิตบุหรี่และเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ในเดือนพฤศจิกายนอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าเดือนตุลาคมเนื่องจากฐานต่ำและราคาน้ำมันในประเทศสูงขึ้น ราคาพืชผักสดหลักจบเทศกาลกิจเจจะเป็นปัจจัยถ่วงการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อ จากการที่รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยโดยออกบัตรสวัสดิการของรัฐ (Welfare Card) จะส่งให้เงินไหลออกจากกระเป๋าผู้ที่ได้รับสวัสดิการในการซื้อสินค้าและบริการต่างๆลดลง ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงตาม ไทยยังอยู่ช่วงภาวะที่เงินเฟ้อต่ำและเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่กำลังซื้อในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากภาระหนี้ภาคครัวเรือนจากโครงการรถยนต์คันแรกค่อยๆหมดลง ภาวะเงินเฟ้อต่ำจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเนื่องจากทั้งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญต่ออัตราการขยายตัวเศรษฐกิจเป็นสำคัญ คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ไปจนถึงกลางปีหน้า
  (+) จีนแห่ขนเงินลงทุนชูอีอีซีประตูการค้า (โพสต์ทูเดย์) "ชาติศิริ" ชี้เทรนด์นักลงทุนจีนสนใจการลงทุนไทยมากขึ้น หวังใช้อีอีซีเป็นประตูสู่การเป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ ในภูมิภาค นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยในงานสัมมนา "Connecting Asia : New Opportunity for Pragmatic Cooperation Between Thailand and China" ว่าเทรนด์การลงทุนของจีนจากนี้ จะเห็นว่ามีการเคลื่อนย้ายเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตามนโยบาย One Belt One Road ของจีนที่มีการขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานลงมายังอาเซียน เพื่อใช้เป็นประตูทางออกสู่ทะเลของจีนตอนใต้ และเชื่อว่าการที่ผู้ประกอบการไทยเข้าไปร่วมลงทุนกับนักลงทุนจีนก็จะทำให้ไทยได้ประโยชน์จากจีนในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ
  (+) ชงคลังพ่วงท่องเที่ยวเข้า'ช็อปช่วยชาติ' (กรุงเทพธุรกิจ) "ธนะศักดิ์" ขอคลังเพิ่มค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวเข้า "ช็อปช่วยชาติ" สร้างแรงส่งรับมาตรการกระตุ้นเมืองรองปีหน้า เผยแผนยกระดับมาตรฐานสตรีทฟู้ด นำร่องจัดระบบความสะอาดใหม่ยกแผงย่านเยาวราช ระบุนักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าไทยเดือนตุลาฯ พุ่ง 20%
  (+) WHAUP* ข่าวดี! บุ๊คเพิ่ม 125 MW “กัลฟ์ ทีเอส 3” (ข่าวหุ้น) WHAUP* แจ้งข่าวดี! โชว์ COD โรงไฟฟ้ากัลฟ์ ทีเอส 3 ขนาด 125 MW แล้วเมื่อ 1 พ.ย. 60 ดันกำลังการผลิตรวมพุ่ง 478.40 MW พร้อมอยู่ระหว่างการก่อสร้าง-พัฒนาอีก 63.60 MW มั่นใจทยอย COD ทั้งหมดในปี 60-62
  (+ THAI*, AOT*) กพท.แจ้ง FAA รับทราบ ผลปลดล็อกธงแดงแล้ว (ข่าวหุ้น) “กพท.” แจ้ง FAA รับทราบผลการปลดล็อกธงแดงแล้ว ล่าสุดเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนผู้ตรวจภาคอากาศ ก่อนแจ้ง FAA เข้าตรวจประเมิน มี.ค.61 มั่นใจได้รับการปรับคืนสู่ CAT1 ส่ง THAI* บินสหรัฐฯอีกครั้งในตารางบินฤดูหนาวนี้
  (+ MC) ตลาดยีนส์คึกคักโรบินสันจัดหนักกระตุ้นซื้อโต 8% (ไทยโพสต์) "โรบินสัน" ชี้ภาพรวมตลาดยีนส์โต 10% ต่อเนื่อง สวนกระเสื้อผ้าแฟชั่นทรงตัว เตรียมอัดแคมเปญปลายปี พร้อมเพิ่มพื้นที่ขาย หวังเร่งโตจบปี 2560 ที่ 8%
  (+) WICE อัดฉีด 115 ลบ.ซื้อหุ้นโลจิสติกส์ UWT บุกงานตปท.ปั๊มยอด (ทันหุ้น) บอร์ด WICE ไฟเขียวอัดงบ 115 ล้านบาท ซื้อหุ้นโลจิสติกส์ "UWT" รับงานขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางอากาศ และทางทะเล ดันรายได้เติบโตระยะยาว ต่อยอดฐานลูกค้าต่างประเทศเพิ่ม ดันผลงานเข้าเป้า
  (+) บอร์ด ALT แจกวอร์ฯ 250 ล้านหน่วย (ข่าวหุ้น) นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชีบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ  ALT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เมื่อวันที่ 1 พ.ย.60 มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (ALT-W1) จำนวนไม่เกิน 250 ล้านหน่วย
 
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  ECF (ยังไม่มีเป้าหมาย Consensus) ประเมินแนวรับ 7.4 บาท / แนวต้าน 8 บาท และถัดไปที่ 8.5 บาท (กำหนด Stop loss ที่แนวรับหลัก Uptrend channel 6.25 บาท)
  EASON (เป้า Consensus 4.5 บาท) ยืนเหนือแนวต้าน 3.78 บาทได้ ประเมินแนวต้านถัดไป 4.08 บาท (Stop loss 3.5 บาท)
  ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท ... เป้า Consensus 4.6 บาท) ประเมินแนวรับ 4.0 บาท / แนวต้าน 4.22 บาท และ 4.8 บาท ตามลำดับ (Stop loss 3.84 บาท)  
  AMA (เป้าพื้นฐาน 20.1 บาท) ประเมินแนวรับ 16.5 บาท แนวต้าน 17.8 บาท (Stop loss 16.5 บาท)
  CPALL* (เป้าพื้นฐาน 77 บาท) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ 69.5 – 73.5 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ
  KTC* (เป้า Consensus 135.5 บาท) ประเมินแกว่งตัวในกรอบ 135 - 146 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ
  THE (ยังไม่มีเป้า Consensus) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing stop 5.15 บาท
  BANPU* (เป้าพื้นฐาน 23.5 บาท) ประเมินแนวรับ 17.3 บาท / แนวต้าน 18.1 บาท และ 18.6 บาท ตามลำดับ (Stop loss 16.9 บาท)
  BBL* (เป้าพื้นฐาน 220 บาท) ประเมินแนวรับ 188 บาท แนวต้าน 198 บาท (Stop loss 186 บาท)
 
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  THCOM* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 19 บาท  รายงานกำไร 3Q60 = 65 ล้านบาท (-70% QoQ, -85% YoY) แย่กว่าที่ฝ่ายวิจัยฯคาดไว้ที่ 90 ล้านบาท แต่ดีกว่า Consensus คาดไว้ที่ 34 ล้านบาท กำไรที่ลดลง QoQ เป็นผลจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายรับลดลง
  SCC* “Under Review” รายงานกำไร 3Q60 = 1.18 หมื่นล้านบาท (-16% YoY, -11% QoQ) ต่ำกว่า Consensus คาด 14% ผลจากกำไรของธุรกิจปิโตรเคมีและกระดาษ ที่ลดลง ขณะที่ธุรกิจปูนฯ ทรงตัว 
 
Market strategy      Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้:  ---    นัยต้าน 1720 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1720 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1720-1730 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดเหนือนัยต้าน 1720 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดลงในกรอบ 1720-1702 จุด
  แนวรับวันนี้:          1709/1702             แนวต้านวันนี้:          1720/1726
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
 
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]
OO1864

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!