- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 November 2017 18:05
- Hits: 5891
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน Today Selection >> COM7, LH, VGI
Stock S R Comment
COM7 15.30 16.00 ยอดจอง Iphone 8 หนุนรายได้โต
LH 10.80 11.20 ฐานลูกค้าระดับแกร่ง ยอดขายและกำไรโตอย่างมีเสถียรภาพ
VGI 6.05 6.25 เม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งตั้งแต่เดือน พ.ย
Farm income and M2 showed good signs
November : ประเมิน SET Index เดือนพฤศจิกายนแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1680 - 1750 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่อาจกำหนดทิศทาง Fund flow ในระยะสั้น ได้แก่
1) การปรับย่อตัวของดัชนีภาคการผลิตทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลกดดันในระยะสั้นต่อราคาโลหะอุตสาหกรรม ราคาหุ้นกลุ่มวัฏจักร และดัชนีค่าระวางเรือ
2) รายชื่อประธาน Fed คนใหม่ ที่น่าจะทราบในช่วงเร็ววันนี้ หากผลออกมาไม่พลิกโผ โดยที่นาย Jerome Powell ได้ถูกรับเลือก ประเมินว่าบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีต่อไป แต่หากเป็นนาย John Taylor จะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อกระแสทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเกิดใหม่ เนื่องจากจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
3) พัฒนาการของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งหากมีความชัดเจนมากขึ้น อาจเป็นปัจจัยกดดันให้มีเงินไหลย้อนกลับเข้าสู่สหรัฐฯในช่วงถัดไป
ชชช : เบื้องต้นเรามองว่าหากมีมาตรการช้อปช่วยชาติออกมาจริงในปลายปีนี้ จะช่วยกระตุ้นภาคการบริโภคภายในประเทศได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มที่ได้ประโยชน์คงหนีไม่พ้นกลุ่มค้าปลีก ที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยด้วย มองหุ้นที่จะได้ประโยชน์สูงคือ บริษัทที่มียอดขายต่อบิลใหญ่ๆ ที่คุ้มค่าแก่การนำมาลดหย่อนภาษี เช่น HMPRO, GLOBAL, ROBINS อย่างไรก็ดี แนะนำติดตามรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว เพราะอาจจะมีเงื่อนไขและระยะเวลาต่างไปจากปีที่ผ่านมา
Economy : ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนกันยายน พบว่ามีสัญญาณเชิงบวกอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกัน คือ
1) รายได้เกษตรกร (Farm income) ที่ขยายตัวเป็นครั้งแรก (+0.5%) ในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของผลผลิตเป็นหลัก
2) การขยายตัวของปริมาณเงินอย่างกว้างหรือ M2 ที่ 4.9% ถือเป็นการขยายตัวในอัตราเร่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และเป็นระดับการเติบโตสูงสุดในรอบ 2 ปี
มุมมองของเรา : มองการขยายตัวของ Farm income เมื่อมาประกอบกับมติเห็นชอบของครม.เมื่อวานนี้ที่ให้เพิ่มจำนวนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในโครงการพักชำระหนี้ รวมถึงความเป็นไปได้ในการออกมาตรการช้อปช่วยชาติ จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีกที่มีสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ในพื้นที่ภูมิภาค เช่น GLOBAL, SINGER ส่วนการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของปริมาณเงินนั้น บ่งชี้ว่าสภาพคล่องในประเทศกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นอยู่ในระดับสูงต่อไป โดยเฉพาะนักลงทุนบุคคลในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กให้เริ่มปรับตัว Outperform ตลาดได้
กลยุทธ์การลงทุน : ตลาดหุ้นไทยยังคงถูกขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นหลัก ซึ่งมักจะเป็นผู้ที่ช่วยประคับประคองตลาดในไตรมาสที่ 4 ของทุกปี คาดการณ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1650-1750 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Selective ต่อไป โดยในระยะสั้นประเมินกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าปลีก ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนระยะยาวได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
November : ประเมิน SET Index เดือนพฤศจิกายนแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1680 - 1750 จุด โดยมีปัจจัยสำคัญที่อาจกำหนดทิศทาง Fund flow ในระยะสั้น ได้แก่
1) การปรับย่อตัวของดัชนีภาคการผลิตทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลกดดันในระยะสั้นต่อราคาโลหะอุตสาหกรรม ราคาหุ้นกลุ่มวัฏจักร และดัชนีค่าระวางเรือ
2) รายชื่อประธาน Fed คนใหม่ ที่น่าจะทราบในช่วงเร็ววันนี้ หากผลออกมาไม่พลิกโผ โดยที่นาย Jerome Powell ได้ถูกรับเลือก ประเมินว่าบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีต่อไป แต่หากเป็นนาย John Taylor จะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อกระแสทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเกิดใหม่ เนื่องจากจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
3) พัฒนาการของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งหากมีความชัดเจนมากขึ้น อาจเป็นปัจจัยกดดันให้มีเงินไหลย้อนกลับเข้าสู่สหรัฐฯในช่วงถัดไป
ชชช : เบื้องต้นเรามองว่าหากมีมาตรการช้อปช่วยชาติออกมาจริงในปลายปีนี้ จะช่วยกระตุ้นภาคการบริโภคภายในประเทศได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มที่ได้ประโยชน์คงหนีไม่พ้นกลุ่มค้าปลีก ที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยด้วย มองหุ้นที่จะได้ประโยชน์สูงคือ บริษัทที่มียอดขายต่อบิลใหญ่ๆ ที่คุ้มค่าแก่การนำมาลดหย่อนภาษี เช่น HMPRO, GLOBAL, ROBINS อย่างไรก็ดี แนะนำติดตามรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว เพราะอาจจะมีเงื่อนไขและระยะเวลาต่างไปจากปีที่ผ่านมา
Economy : ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือนกันยายน พบว่ามีสัญญาณเชิงบวกอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกัน คือ
1) รายได้เกษตรกร (Farm income) ที่ขยายตัวเป็นครั้งแรก (+0.5%) ในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของผลผลิตเป็นหลัก
2) การขยายตัวของปริมาณเงินอย่างกว้างหรือ M2 ที่ 4.9% ถือเป็นการขยายตัวในอัตราเร่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และเป็นระดับการเติบโตสูงสุดในรอบ 2 ปี
มุมมองของเรา : มองการขยายตัวของ Farm income เมื่อมาประกอบกับมติเห็นชอบของครม.เมื่อวานนี้ที่ให้เพิ่มจำนวนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในโครงการพักชำระหนี้ รวมถึงความเป็นไปได้ในการออกมาตรการช้อปช่วยชาติ จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีกที่มีสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ในพื้นที่ภูมิภาค เช่น GLOBAL, SINGER ส่วนการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของปริมาณเงินนั้น บ่งชี้ว่าสภาพคล่องในประเทศกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นอยู่ในระดับสูงต่อไป โดยเฉพาะนักลงทุนบุคคลในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กให้เริ่มปรับตัว Outperform ตลาดได้
กลยุทธ์การลงทุน : ตลาดหุ้นไทยยังคงถูกขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศเป็นหลัก ซึ่งมักจะเป็นผู้ที่ช่วยประคับประคองตลาดในไตรมาสที่ 4 ของทุกปี คาดการณ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1650-1750 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Selective ต่อไป โดยในระยะสั้นประเมินกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าปลีก ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนระยะยาวได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
แนวรับ 1,712 แนวต้าน 1,730
Today's Event :
SVH XD 5.00 บาท
ECF ลูกหุ้นเข้า 30,000,000 หุ้น
MAX ลูกหุ้นเข้า 290,699 หุ้น
VIBHA ลูกหุ้นเข้า 33,297,832 หุ้น
FLOYD เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (360mn sh @ Bt. 2.80) ตลาด MAI
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
Today's Event :
SVH XD 5.00 บาท
ECF ลูกหุ้นเข้า 30,000,000 หุ้น
MAX ลูกหุ้นเข้า 290,699 หุ้น
VIBHA ลูกหุ้นเข้า 33,297,832 หุ้น
FLOYD เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (360mn sh @ Bt. 2.80) ตลาด MAI
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO1785
