- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 November 2017 17:31
- Hits: 1287
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
SMID CAP
Smart Pick
1. สะสม LANNA : ราคาปิด 14.40 บาท ราคาเหมาะสม 20.00 บาท
a) Yuanta คาดว่าหุ้นกลุ่มถ่านหินจะ Outperform ตลาดใน 4Q60 เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของธุรกิจในฤดูหนาว และมี Sentiment บวกจากราคาถ่านหินล่วงหน้าที่ไต่ระดับขึ้นทั้ง 3 ตลาด ได้แก่ Rotterdam, Richard Bay และ Newcastle เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
b) LANNA เป็นหุ้นที่ยังถูกตลาดมองผ่าน ทั้งที่กำไรสุทธิ 1H60 ที่ 301 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปี 2559 ที่ 271 ล้านบาทแล้ว และจุดเด่นของบริษัทอยู่ที่ราคาขายถ่านหินเกือบทั้งหมดจะขายที่ราคา Spot ซึ่งแตกต่างจากบริษัทอื่นที่จะมีการขายแบบ Lock ราคาล่วงหน้า ดังนั้น LANNA จึงได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการไต่ระดับขึ้นของราคาถ่านหินในตลาดโลก
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +193% YoY เป็น 594 ล้านบาท และต่อเนื่อง +11% YoY ในปี 2561 เป็น 711 ล้านบาท ขณะที่ Valuation โดย PER2561 ต่ำเพียง 10.6 เท่า และให้ Dividend Yield สูงถึง 6%
d) และมี Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 200MW ในอินโดนีเซีย คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ มูลค่าเพิ่มราว 3.00 บาท ยังไม่รวมในเป้าหมายของเรา
2. สะสม JWD : ราคาปิด 12.40 บาท ราคาเหมาะสม 14.10 บาท
a) คาดกำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 57 ล้านบาท +123% YoY และ +15% QoQ ขยายตัวเด่น จากรายได้ธุรกิจคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้น +12% QoQ และธุรกิจคลังสินค้าเคมีภัณฑ์ผ่านจุดคุ้มทุนแล้วใน 2Q60 จะเริ่มสร้างกำไรใน 3Q60 เป็นไตรมาสแรก
b) หากกำไร 9M60 ออกมาใกล้กับที่คาดการณ์จะคิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปี ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะทบทวนประมาณการกำไรขึ้น เนื่องจาก 4Q60 เป็น High Season และด้วยธุรกิจที่มีโครงสร้างต้นทุนเป็น Fixed Cost สูง เมื่อรายได้ปรับตัวขึ้นจะส่งผลบวกโดยตรงต่อกำไรสุทธิ
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะกลาง-ยาว ต่อยอดธุรกิจโดยเข้าสู่ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ธุรกิจ Freight และคลังสินค้า และมีปัจจัยบวกรออยู่คือการตั้งกอง REIT ใน 4Q60 ประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะสร้างกำไรพิเศษสูงถึงราว 300 ล้านบาท
กลยุทธ์วันนี้
SMID CAP
Smart Pick
1. สะสม LANNA : ราคาปิด 14.40 บาท ราคาเหมาะสม 20.00 บาท
a) Yuanta คาดว่าหุ้นกลุ่มถ่านหินจะ Outperform ตลาดใน 4Q60 เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของธุรกิจในฤดูหนาว และมี Sentiment บวกจากราคาถ่านหินล่วงหน้าที่ไต่ระดับขึ้นทั้ง 3 ตลาด ได้แก่ Rotterdam, Richard Bay และ Newcastle เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
b) LANNA เป็นหุ้นที่ยังถูกตลาดมองผ่าน ทั้งที่กำไรสุทธิ 1H60 ที่ 301 ล้านบาท มากกว่ากำไรทั้งปี 2559 ที่ 271 ล้านบาทแล้ว และจุดเด่นของบริษัทอยู่ที่ราคาขายถ่านหินเกือบทั้งหมดจะขายที่ราคา Spot ซึ่งแตกต่างจากบริษัทอื่นที่จะมีการขายแบบ Lock ราคาล่วงหน้า ดังนั้น LANNA จึงได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการไต่ระดับขึ้นของราคาถ่านหินในตลาดโลก
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโตสูงถึง +193% YoY เป็น 594 ล้านบาท และต่อเนื่อง +11% YoY ในปี 2561 เป็น 711 ล้านบาท ขณะที่ Valuation โดย PER2561 ต่ำเพียง 10.6 เท่า และให้ Dividend Yield สูงถึง 6%
d) และมี Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 200MW ในอินโดนีเซีย คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ มูลค่าเพิ่มราว 3.00 บาท ยังไม่รวมในเป้าหมายของเรา
2. สะสม JWD : ราคาปิด 12.40 บาท ราคาเหมาะสม 14.10 บาท
a) คาดกำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 57 ล้านบาท +123% YoY และ +15% QoQ ขยายตัวเด่น จากรายได้ธุรกิจคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้น +12% QoQ และธุรกิจคลังสินค้าเคมีภัณฑ์ผ่านจุดคุ้มทุนแล้วใน 2Q60 จะเริ่มสร้างกำไรใน 3Q60 เป็นไตรมาสแรก
b) หากกำไร 9M60 ออกมาใกล้กับที่คาดการณ์จะคิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปี ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะทบทวนประมาณการกำไรขึ้น เนื่องจาก 4Q60 เป็น High Season และด้วยธุรกิจที่มีโครงสร้างต้นทุนเป็น Fixed Cost สูง เมื่อรายได้ปรับตัวขึ้นจะส่งผลบวกโดยตรงต่อกำไรสุทธิ
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะกลาง-ยาว ต่อยอดธุรกิจโดยเข้าสู่ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ธุรกิจ Freight และคลังสินค้า และมีปัจจัยบวกรออยู่คือการตั้งกอง REIT ใน 4Q60 ประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะสร้างกำไรพิเศษสูงถึงราว 300 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวยืนเหนือ 1720 จุด มาปิดที่ 1721.37 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่อย่าง AOT +1.71%, EA +8.13% และ BBL +2.12% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 400 ล้านบาท นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันรวมกว่า 7.5 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 826 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิกว่า 8.7 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 3.9 พันสัญญา รวมกว่า 6.7 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 4.6 พันสัญญา
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวยืนเหนือ 1720 จุด มาปิดที่ 1721.37 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่อย่าง AOT +1.71%, EA +8.13% และ BBL +2.12% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 400 ล้านบาท นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันรวมกว่า 7.5 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 826 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิกว่า 8.7 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 3.9 พันสัญญา รวมกว่า 6.7 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 4.6 พันสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX วานนี้ปิดยืนเหนือ 1720 จุดได้ตามที่เคยประเมิน ภาพวันนี้คาด Sideways-to-Sideways-Up เพื่อทดสอบด่านสำคัญ 1730 จุด ซึ่งเป็นยอดเดิมที่ทำไว้เมื่อกลางเดือน ต.ค. ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นต่อเนื่อง รวมถึง แรงเก็งกำไรผลประกอบการหุ้นกลุ่ม Big Cap และ Mid Cap ทยอยประกาศ โดยเฉพาะ ADVANC (2 พ.ย.) และ IRPC (3 พ.ย.) ที่งบอาจออกมาดีกว่าคาด
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือนก.ย.เป็นบวกมากขึ้น ผลักดันด้วยภาคการส่งออกสินค้า, ท่องเที่ยว, การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่การใช้จ่ายประจำภาครัฐ หดตัว แต่เป็นผลจากฐานสูงเมื่อปีก่อน หากหักผลของฐานสูง รายจ่ายประจำขยายตัวเล็กน้อย ธปท.คาดเศรษฐกิจไทย 3Q60 อาจเติบโตได้สูงกว่า 2Q60 เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside Risk ของตลาดหุ้นไทย
กลยุทธ์วันนี้ เลือกซื้อหุ้น (Selective Buy) ขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีปัจจัยบวกหนุนเชิงพื้นฐาน แนวโน้มกำไรเติบโตแข็งแกร่ง, Valuation ไม่แพง
SET INDEX วานนี้ปิดยืนเหนือ 1720 จุดได้ตามที่เคยประเมิน ภาพวันนี้คาด Sideways-to-Sideways-Up เพื่อทดสอบด่านสำคัญ 1730 จุด ซึ่งเป็นยอดเดิมที่ทำไว้เมื่อกลางเดือน ต.ค. ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นต่อเนื่อง รวมถึง แรงเก็งกำไรผลประกอบการหุ้นกลุ่ม Big Cap และ Mid Cap ทยอยประกาศ โดยเฉพาะ ADVANC (2 พ.ย.) และ IRPC (3 พ.ย.) ที่งบอาจออกมาดีกว่าคาด
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยเดือนก.ย.เป็นบวกมากขึ้น ผลักดันด้วยภาคการส่งออกสินค้า, ท่องเที่ยว, การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่การใช้จ่ายประจำภาครัฐ หดตัว แต่เป็นผลจากฐานสูงเมื่อปีก่อน หากหักผลของฐานสูง รายจ่ายประจำขยายตัวเล็กน้อย ธปท.คาดเศรษฐกิจไทย 3Q60 อาจเติบโตได้สูงกว่า 2Q60 เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside Risk ของตลาดหุ้นไทย
กลยุทธ์วันนี้ เลือกซื้อหุ้น (Selective Buy) ขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีปัจจัยบวกหนุนเชิงพื้นฐาน แนวโน้มกำไรเติบโตแข็งแกร่ง, Valuation ไม่แพง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ธปท. ประมาณการ GDP 3Q60 ขยายตัว 4% เร่งตัวจาก 2Q60 ที่ขยายตัวเพียง 3.7% และคาด 2H60 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4.1% เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย
เกิดเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนคนในกรุงนิวยอร์ก เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
EU รายงาน GDP 3Q60 ขยายตัว 2.5% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.4% YoY
BOJ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงนโยบายทางการเงิน และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ติดตามการประชุมเฟด วันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย.
ติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อไทย วันที่ 1 พ.ย.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) วันที่ 2 พ.ย.
ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย.
ติดตามการประกาศชื่อประธาน Fed คนต่อไป ภายในวันที่ 3 พ.ย. ตลาดคาด Trump อาจเสนอชื่อนาย Jerome Powell เป็นประธาน Fed คนถัดไป
ธปท. ประมาณการ GDP 3Q60 ขยายตัว 4% เร่งตัวจาก 2Q60 ที่ขยายตัวเพียง 3.7% และคาด 2H60 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4.1% เพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย
เกิดเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนคนในกรุงนิวยอร์ก เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก
EU รายงาน GDP 3Q60 ขยายตัว 2.5% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.4% YoY
BOJ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงนโยบายทางการเงิน และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ติดตามการประชุมเฟด วันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย.
ติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อไทย วันที่ 1 พ.ย.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) วันที่ 2 พ.ย.
ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย.
ติดตามการประกาศชื่อประธาน Fed คนต่อไป ภายในวันที่ 3 พ.ย. ตลาดคาด Trump อาจเสนอชื่อนาย Jerome Powell เป็นประธาน Fed คนถัดไป
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO1776