- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 October 2017 16:54
- Hits: 15585
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
USD แข็งค่ารับ เทย์เลอร์ เต็งว่าที่ประธานเฟด และ ECB ยืด QE
วันนี้คาด ดัชนีฯหุ้นไทยแกว่งในกรอบ 1,700-1,715 จุด...แรงขายหุ้นบูลชิพฝรั่งยังคงกดดันหุ้นใหญ่ใน MSCI โดยเมื่อวานพุธ MSCI Thailand index ปรับลงแย่กว่าดัชนีฯ SET คาดวันนี้หุ้นกลาง-เล็ก Local play ยังคงแข็งกว่าดัชนีฯ
ปัจจัยที่มีผล (-/+) หาก John Taylor เป็นประธานเฟด
ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯปั่นป่วน โดย UST Curve ปรับชันขึ้น ต้อนรับการมาของผลโพลล่าสุด ว่า John Taylor ถูกคาดหมายขึ้นเป็น ว่าที่ประธานเฟด ซึ่งหากเป็นจริงคาดว่า แรงขายพันธบัตรสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้น และมีผลต่อ เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มขึ้น...โดย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากรายงาน US TIC พบเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลอดเดือน สค. โดยขายสุทธิ -US$ 5.3 พันล้าน ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 สวนทางกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยนักลงทุนญี่ปุ่นขายสุทธิหุ้นสหรัฐฯ -US$ 0.7 พันล้าน นับเป็นตัวเลขรายเดือนไหลออก สูงสุดนับตั้งแต่ เมย. 2014 เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งมองว่าเกิดจากความตึงเครียดจากสถานการณ์ สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ
ในแง่ของผลกระทบ คาดการไหลออกของเงินลงทุนต่างชาติจากตลาดสหรัฐฯ จะมองหาที่ลงทุนพักเงิน ระยะสั้น คาดผลกระทบเป็นบวกต่อ ตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมทั้งหุ้นไทย ที่เป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง (สรุป ผลกระทบ หาก John Taylor ขึ้นเป็นประธานเฟด หุ้นสหรัฐฯลง หุ้นไทยลงตามในช่วงแรกๆ แต่ดีกรีการลงจะไม่รุนแรง และคาดหุ้นไทยพร้อมจะ ดีดกลับได้ตลอดเวลา)
(+) ผลประชุม ECB ขยายเวลาโครงการ QE ออกไปถึงเดือน กย.ปี 2018 แต่ลดวงเงินซื้อพันธบัตร ลงเหลือ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จาก 6 หมื่นล้านยูโร เริ่ม มค.2018 และคงดอกเบี้ยเงินฝาก -0.4% ตามตลาดคาด
(0/+) ร่าง กม.ภาษีสหรัฐฯ คาดร่างแก้ไขจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า โดยตลาดคาดสัดส่วนการปรับลดภาษีจะกระทบต่องบประมาณรัฐฯ น้อยลงกว่าที่คาด ส่งผลดอลล์สหรัฐฯแข็งค่า
ระยะสัปดาห์ จากแนวโน้มที่ ดัชนีฯรีบาวด์แรงกว่าคาด ส่งผลให้โมเมนตั้ม สัปดาห์นี้เปลี่ยนไป มีโอกาสที่แนวรับ 1,680 จุด (MA 25 วัน) จะกลายเป็นฐานของรอบนี้ และ เล่นขึ้นต่อ โดยคาดแนวต้านขยับขึ้นเป็น 1,715 จุด กลยุทธ์ แนะ สะสมหุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ และ หมุนเข้าเก็งกำไรหุ้น Local play
แนวโน้ม เดือน พย. คาดกลับเข้าสู่ภาวะ oฟื้นตัวr ปัจจัยที่ต้องตาม มี... (1) MSCI Quarterly review รู้กลางเดือน พย. หุ้นเข้า-ออก และน้ำหนักเปลี่ยนแปลง (2) งบ 3Q17 รอดูว่ามีหุ้นที่กำไร ดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาด อันไหนมากกว่ากัน (3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากภาครัฐฯ (4) ประธานเฟดคนใหม่
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
USD แข็งค่ารับ เทย์เลอร์ เต็งว่าที่ประธานเฟด และ ECB ยืด QE
วันนี้คาด ดัชนีฯหุ้นไทยแกว่งในกรอบ 1,700-1,715 จุด...แรงขายหุ้นบูลชิพฝรั่งยังคงกดดันหุ้นใหญ่ใน MSCI โดยเมื่อวานพุธ MSCI Thailand index ปรับลงแย่กว่าดัชนีฯ SET คาดวันนี้หุ้นกลาง-เล็ก Local play ยังคงแข็งกว่าดัชนีฯ
ปัจจัยที่มีผล (-/+) หาก John Taylor เป็นประธานเฟด
ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯปั่นป่วน โดย UST Curve ปรับชันขึ้น ต้อนรับการมาของผลโพลล่าสุด ว่า John Taylor ถูกคาดหมายขึ้นเป็น ว่าที่ประธานเฟด ซึ่งหากเป็นจริงคาดว่า แรงขายพันธบัตรสหรัฐฯจะเพิ่มขึ้น และมีผลต่อ เงินทุนไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มขึ้น...โดย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากรายงาน US TIC พบเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลอดเดือน สค. โดยขายสุทธิ -US$ 5.3 พันล้าน ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 สวนทางกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยนักลงทุนญี่ปุ่นขายสุทธิหุ้นสหรัฐฯ -US$ 0.7 พันล้าน นับเป็นตัวเลขรายเดือนไหลออก สูงสุดนับตั้งแต่ เมย. 2014 เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งมองว่าเกิดจากความตึงเครียดจากสถานการณ์ สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ
ในแง่ของผลกระทบ คาดการไหลออกของเงินลงทุนต่างชาติจากตลาดสหรัฐฯ จะมองหาที่ลงทุนพักเงิน ระยะสั้น คาดผลกระทบเป็นบวกต่อ ตลาดหุ้นเกิดใหม่รวมทั้งหุ้นไทย ที่เป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง (สรุป ผลกระทบ หาก John Taylor ขึ้นเป็นประธานเฟด หุ้นสหรัฐฯลง หุ้นไทยลงตามในช่วงแรกๆ แต่ดีกรีการลงจะไม่รุนแรง และคาดหุ้นไทยพร้อมจะ ดีดกลับได้ตลอดเวลา)
(+) ผลประชุม ECB ขยายเวลาโครงการ QE ออกไปถึงเดือน กย.ปี 2018 แต่ลดวงเงินซื้อพันธบัตร ลงเหลือ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จาก 6 หมื่นล้านยูโร เริ่ม มค.2018 และคงดอกเบี้ยเงินฝาก -0.4% ตามตลาดคาด
(0/+) ร่าง กม.ภาษีสหรัฐฯ คาดร่างแก้ไขจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในสัปดาห์หน้า โดยตลาดคาดสัดส่วนการปรับลดภาษีจะกระทบต่องบประมาณรัฐฯ น้อยลงกว่าที่คาด ส่งผลดอลล์สหรัฐฯแข็งค่า
ระยะสัปดาห์ จากแนวโน้มที่ ดัชนีฯรีบาวด์แรงกว่าคาด ส่งผลให้โมเมนตั้ม สัปดาห์นี้เปลี่ยนไป มีโอกาสที่แนวรับ 1,680 จุด (MA 25 วัน) จะกลายเป็นฐานของรอบนี้ และ เล่นขึ้นต่อ โดยคาดแนวต้านขยับขึ้นเป็น 1,715 จุด กลยุทธ์ แนะ สะสมหุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ และ หมุนเข้าเก็งกำไรหุ้น Local play
แนวโน้ม เดือน พย. คาดกลับเข้าสู่ภาวะ oฟื้นตัวr ปัจจัยที่ต้องตาม มี... (1) MSCI Quarterly review รู้กลางเดือน พย. หุ้นเข้า-ออก และน้ำหนักเปลี่ยนแปลง (2) งบ 3Q17 รอดูว่ามีหุ้นที่กำไร ดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาด อันไหนมากกว่ากัน (3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากภาครัฐฯ (4) ประธานเฟดคนใหม่
หุ้นแนะนำวันนี้
COM7 แนวรับ 15.3 ต้าน 16 Stop loss 15 ธุรกิจ เช่าซื้อ รถจักรยานยนต์ ที่เข้าร่วมลงทุนกับ SYNEX และ MITSUI หนุนกำไร 3Q ต่อเนื่อง 4Q17
ECF แนวรับ 7.2 ต้าน 8 Stop loss 6.5 ข่าวเปิดตัวธุรกิจใหม่สัปดาห์หน้า คาดหนุน Sentiment ราคาหุ้น
GFPT แนวรับ 18 ต้าน 18.8 Stop loss 18 อานิสงส์แนวโน้มบาทอ่อนค่า
COM7 แนวรับ 15.3 ต้าน 16 Stop loss 15 ธุรกิจ เช่าซื้อ รถจักรยานยนต์ ที่เข้าร่วมลงทุนกับ SYNEX และ MITSUI หนุนกำไร 3Q ต่อเนื่อง 4Q17
ECF แนวรับ 7.2 ต้าน 8 Stop loss 6.5 ข่าวเปิดตัวธุรกิจใหม่สัปดาห์หน้า คาดหนุน Sentiment ราคาหุ้น
GFPT แนวรับ 18 ต้าน 18.8 Stop loss 18 อานิสงส์แนวโน้มบาทอ่อนค่า
รายงานวันนี้
Thai Market Strategy : 3Q17 earnings preview: Back to YoY growth
เราประเมินกำไรสุทธิ 3Q17 ของบริษัททั้งหมดภายใต้ BLS research เติบโต 3% YoY แต่ลดลง 2% QoQ ในขณะที่คาดกำไรหลักเติบโต 18% YoY และ 4% QoQ ซึ่งคาดกลุ่มที่จะรายงานกำไรหลักเติบโตแข็งแกร่งประกอบด้วย Petrochemicals&Energy (Product spread กว้างขึ้นและปริมาณขายสำหรับ PTTGC และ IVL เพิ่มขึ้น), Finance (สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งในขณะที่ NPL ต่ำกว่ากลุ่มธนาคารใหญ่), Media (อัตราค่าโฆษณาปรับตัวสูงขึ้น), Automotive (ปริมาณการผลิตรถเพิ่มมากขึ้น และอัตรากำไรขยายตัว), Industrial Estates (ปริมาณขายที่ดิน และพื้นที่เช่าเพิ่มมากขึ้น), Residential Property (จำนวนยูนิตที่โอนเพิ่มมากขึ้น)
สำหรับภาพ 4Q17 คาดกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง 20% YoY และ 15% QoQ โดยกลุ่มที่เติบโตได้ดีประกอบด้วย Industrial Estates (ยอดโอนที่ดินมากขึ้น), Transport &Tourism (ตัวเลขนักท่องเที่ยวเติบโต), Finance (การตั้งสำรองต่ำ และสินเชื่อเติบโตได้ดี), ICT (ค่าใช้จ่ายทางการตลาดปรับตัวลดลง) และ Property (ปริมาณยอดโอนมากขึ้น) เรามองว่าความเสี่ยงจะมาจากราคาน้ำมันในช่วงปลายปี (หากราคายืนไม่ได้ อาจมีการรับรู้ Inventory loss)
เรามองว่าจากประมาณการกำไรใน 3Q17-4Q17 ที่คาดจะออกมาเติบโตดี จะเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนี SET index ยืนเหนือ 1700 ได้ไปถึงช่วงปลายปี สำหรับเป้าหมาย SET index อิง YE18 base-case อยู่ที่ 1742 (PER 15.9x) และสำหรับกรณี bull-case คาด PER มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปในกรอบ 16.5-17x (1807-1863)
GGC (Earnings preview): Superior YoY core earnings growth expected for 3Q17
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 145 ล้านบาท ลดลง 29% YoY แต่เพิ่มขึ้น 105% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ Inventory loss (230 ล้านบาท) กำไรหลักคาดอยู่ที่ 391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 330% YoY แต่ลดลง 26% QoQ โดยปัจจัยหนุนการเติบโต YoY มาจาก 1) ปริมาณขาย B100 เพิ่มมากขึ้น (B7 เต็มไตรมาส), 2) ปริมาณขาย Fatty Alcohols สูงขึ้น จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และ 3) Product spread ปรับตัวดีขึ้นจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง (น้ำมันปาล์ม) และเรามองว่าทั้งปริมาณขายและอัตรากำไรที่ขยายตัวจะช่วยหนุนให้กำไรเติบโต YoY ต่อเนื่องใน 4Q17 ตอนนี้ราคาหุ้นเทรดอยู่ในระดับ PBV ปี 2018 ที่ 1.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย regional Chemical ที่ 1.7 เท่า และค่าเฉลี่ย regional Oleochemical ที่ 1.6 เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
Thai Market Strategy : 3Q17 earnings preview: Back to YoY growth
เราประเมินกำไรสุทธิ 3Q17 ของบริษัททั้งหมดภายใต้ BLS research เติบโต 3% YoY แต่ลดลง 2% QoQ ในขณะที่คาดกำไรหลักเติบโต 18% YoY และ 4% QoQ ซึ่งคาดกลุ่มที่จะรายงานกำไรหลักเติบโตแข็งแกร่งประกอบด้วย Petrochemicals&Energy (Product spread กว้างขึ้นและปริมาณขายสำหรับ PTTGC และ IVL เพิ่มขึ้น), Finance (สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งในขณะที่ NPL ต่ำกว่ากลุ่มธนาคารใหญ่), Media (อัตราค่าโฆษณาปรับตัวสูงขึ้น), Automotive (ปริมาณการผลิตรถเพิ่มมากขึ้น และอัตรากำไรขยายตัว), Industrial Estates (ปริมาณขายที่ดิน และพื้นที่เช่าเพิ่มมากขึ้น), Residential Property (จำนวนยูนิตที่โอนเพิ่มมากขึ้น)
สำหรับภาพ 4Q17 คาดกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง 20% YoY และ 15% QoQ โดยกลุ่มที่เติบโตได้ดีประกอบด้วย Industrial Estates (ยอดโอนที่ดินมากขึ้น), Transport &Tourism (ตัวเลขนักท่องเที่ยวเติบโต), Finance (การตั้งสำรองต่ำ และสินเชื่อเติบโตได้ดี), ICT (ค่าใช้จ่ายทางการตลาดปรับตัวลดลง) และ Property (ปริมาณยอดโอนมากขึ้น) เรามองว่าความเสี่ยงจะมาจากราคาน้ำมันในช่วงปลายปี (หากราคายืนไม่ได้ อาจมีการรับรู้ Inventory loss)
เรามองว่าจากประมาณการกำไรใน 3Q17-4Q17 ที่คาดจะออกมาเติบโตดี จะเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนี SET index ยืนเหนือ 1700 ได้ไปถึงช่วงปลายปี สำหรับเป้าหมาย SET index อิง YE18 base-case อยู่ที่ 1742 (PER 15.9x) และสำหรับกรณี bull-case คาด PER มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปในกรอบ 16.5-17x (1807-1863)
GGC (Earnings preview): Superior YoY core earnings growth expected for 3Q17
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 145 ล้านบาท ลดลง 29% YoY แต่เพิ่มขึ้น 105% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ Inventory loss (230 ล้านบาท) กำไรหลักคาดอยู่ที่ 391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 330% YoY แต่ลดลง 26% QoQ โดยปัจจัยหนุนการเติบโต YoY มาจาก 1) ปริมาณขาย B100 เพิ่มมากขึ้น (B7 เต็มไตรมาส), 2) ปริมาณขาย Fatty Alcohols สูงขึ้น จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และ 3) Product spread ปรับตัวดีขึ้นจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง (น้ำมันปาล์ม) และเรามองว่าทั้งปริมาณขายและอัตรากำไรที่ขยายตัวจะช่วยหนุนให้กำไรเติบโต YoY ต่อเนื่องใน 4Q17 ตอนนี้ราคาหุ้นเทรดอยู่ในระดับ PBV ปี 2018 ที่ 1.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย regional Chemical ที่ 1.7 เท่า และค่าเฉลี่ย regional Oleochemical ที่ 1.6 เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
Model Portfolio : Add ROBINS
เพิ่ม : ROBINS โดยยังเทรดอยู่ในระดับ PER ต่ำกว่ากลุ่ม ในขณะที่กำไรเติบโตในระดับเดียวกันในปีหน้าที่ประมาณ 20%
ถอด : PSL โดยรวมพอร์ตให้ผลตอบแทน 21.3% ตั้งแต่ต้นปี เทียบกับ SET ที่ 10.8%
เพิ่ม : ROBINS โดยยังเทรดอยู่ในระดับ PER ต่ำกว่ากลุ่ม ในขณะที่กำไรเติบโตในระดับเดียวกันในปีหน้าที่ประมาณ 20%
ถอด : PSL โดยรวมพอร์ตให้ผลตอบแทน 21.3% ตั้งแต่ต้นปี เทียบกับ SET ที่ 10.8%
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(*) น้ำท่วม คาด ครม. จะออกมาตรการช่วยเหลือ ปชช.หลังน้ำลด เช่น เงินอุดหนุนเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยทั้งทางตรง และทางอ้อมเช่น ผ่านมาตรการช๊อปช่วยชาติ/บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ , งบประมาณประจำปี 2561 เริ่มเดือน ตค.นี้ เน้นซ่อมสร้างถนน / หุ้นที่เชื่อมโยงแนะนำ GLOBAL TASCO / และอื่นๆ ASAP (ความต้องการรถเช่าทดแทนระหว่างรอซ่อมเพิ่มขึ้น และอุทกภัยหนุนอุปสงค์ turn รถยนต์/ trade รถยนต์ ในปีหน้าคาด เป็นบวกต่อธุรกิจใหม่ของ ASAP ที่จะเปิดศูยน์เทรดรถยนต์มือสอง) ECL (ให้บริการศูนย์ซ่อมรถยนต์) ECF (เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ และจับตาการประกาศตัวธุรกิจใหม่)
นักวิเคราะห์ : วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO1667
(*) น้ำท่วม คาด ครม. จะออกมาตรการช่วยเหลือ ปชช.หลังน้ำลด เช่น เงินอุดหนุนเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยทั้งทางตรง และทางอ้อมเช่น ผ่านมาตรการช๊อปช่วยชาติ/บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ , งบประมาณประจำปี 2561 เริ่มเดือน ตค.นี้ เน้นซ่อมสร้างถนน / หุ้นที่เชื่อมโยงแนะนำ GLOBAL TASCO / และอื่นๆ ASAP (ความต้องการรถเช่าทดแทนระหว่างรอซ่อมเพิ่มขึ้น และอุทกภัยหนุนอุปสงค์ turn รถยนต์/ trade รถยนต์ ในปีหน้าคาด เป็นบวกต่อธุรกิจใหม่ของ ASAP ที่จะเปิดศูยน์เทรดรถยนต์มือสอง) ECL (ให้บริการศูนย์ซ่อมรถยนต์) ECF (เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ และจับตาการประกาศตัวธุรกิจใหม่)
นักวิเคราะห์ : วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
OO1667