- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 October 2017 19:53
- Hits: 2730
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'เน้นซื้ออ่อนตัว'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : GFPT, PRIN (จากซื้อเป็นถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET อ่อนตัวลงต่อ 24.10 จุดปิดที่ 1683.43 โดยหลักเป็นการ Take profit ของนักลงทุนสถาบันในปท. ต่างชาติ และพอร์ตบล. หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาก
สำหรับวันนี้ มีโอกาสที่ตลาดจะอ่อนตัวต่อ ทั้งจากการขายปรับพอร์ตและการที่ PTTEP ตั้งด้อยค่าเงินลงทุนโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ แคนาดา 550 ล้านUS$ หรือ 1.8 หมื่นลบ. ซึ่งคิดเป็น 4.57 บาท/หุ้น PTTEP หรือ 5.1% ของราคาปิดเมื่อวาน, และ 4.15 บาท/หุ้น PTT หรือ 1% ของราคาปิดฯ) และทำให้ 3Q60 น่าจะเป็นขาดทุนสุทธิ (ทางบัญชี) ราว 1 หมื่นลบ. อย่างไรก็ดีรายการนี้ไม่กระทบ Cash flow
สำหรับผลประกอบการกลุ่มแบงค์ พบว่าในงวด 3Q60 ธนาคารส่วนใหญ่พยายามให้กำไรก่อนสำรองฯ (PPOP) เป็นไปตามที่ตลาดคาดด้วยการใช้กำไรจากการขายเงินลงทุนเข้ามาช่วย แต่การตั้งสำรองฯยังคงสูงมากเพราะ NPL ขยับขึ้นต่อแต่ต้องการมี Coverage ratio สูง โดย BBL มีกำไรตามคาดที่ 8.2 พันล้านบาท (+1.2%YoY, +1.4%QoQ) ส่วน SCB ต่ำกว่าคาดที่ 10.1 พันล้านบาท (-12%YoY, -15%QoQ) สำหรับ KBANK กำไรออกมาตามคาด 9.5 พันล้านบาท (-13%YoY, +5%QoQ) โดยรวมเราแนะนำซื้อ BBL, KBANK, TMB, TISCO, TCAP, KKP แนะนำถือ KTB, SCB
ปรับลดคำแนะนำ GFPT เป็นถือ (เดิมซื้อ) เนื่องจากราคาไก่ในประเทศร่วงแรงเป็น 32-33 บาท/กก.จาก 38-39 บาทในเดือนส.ค.-ก.ย.เพราะกินเจและอุปสงค์อ่อนลงหลังน้ำท่วม คาดกำไร 3Q60F จะโต 4%YoY, 4%QoQ ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้เดิม 9% ลด TP เป็น 20.4 บาท
ปัจจัยต่างประเทศที่จับตา คือ การแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่แทนนางเยลเลนที่จะหมดวาระก.พ.61 , การเดินหน้ากฎหมายปฎิรูปภาษีสหรัฐ และสถานการณ์ในสเปน ซึ่งนายกรัฐมนตรีสเปนเตรียมจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ 21 ต.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเข้ายึดอำนาจบริหารของแคว้นกาตาลุญญา
กลยุทธ์ลงทุน : เน้นซื้ออ่อนตัว โดย SET มีแนวรับ 1680, 1670-1660 จุด สำหรับหุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (18-24 ต.ค.) คือ BBL, ERW
ส่วนหุ้น Picks ใน Wealth Perspective-Equity เดือนต.ค.60 คือ ERW, MTLS, KBANK, PTTGC, TISCO และ Dark Horse เป็น COM7
ส่วนหุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ได้แก่ ASAP, RS, SAT, AUCT, LST ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ คือ SENA, PTTGC, TMB, M, SGP, CBG, STAR ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร คือ WORK, ESSO หุ้นที่หลุด List คือ RJH, ROJNA, IRPC, CHG, BPP, LH, JMT, BJC, RCL
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
- สเปน : จะประชุม 21 ต.ค.นี้เพื่อหารือเรื่องแคว้นกาตาลุญญา
# นายมาริโอ ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน เตรียมจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษในวันที่ 21 ต.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเข้ายึดอำนาจบริหารของแคว้นกาตาลุญญา
# ด้านนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ได้เสนอขอเจรจากับรัฐบาลสเปนอีกครั้ง โดยเขายังคงไม่ได้ประกาศความชัดเจนภายในเส้นตายวันนี้ เกี่ยวกับการนำแคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน
+/• สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงานออกมาดี ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ย.อ่อนลง
# จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 22,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 222,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2516 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 240,000 ราย
# ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนก.ย.ร่วงลง 0.2% หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย.
• ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ตลาดแกว่งในกรอบแคบ
# ในระหว่างซื้อขายนักลงทุนกังวลเหตุการณ์ในสเปน กรณีการแยกตัวเป็นเอกราชของแคว้นกาตาลุญญา แต่เมื่อมีรายงานข่าวในช่วงท้ายตลาดว่านายเจอโรม พาวเวล 1 ในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน เป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งที่จะได้รับเลือกจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้นั่งเก้าอี้ประธานเฟดคนใหม่ ทำให้ดัชนี DJIA ปิดบวกได้เล็กน้อย
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 23,163.04 จุด เพิ่มขึ้น 5.44 จุด หรือ +0.02% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,562.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด หรือ +0.03% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,605.07 จุด ลดลง 19.15 จุด หรือ -0.29%
# นักลงทุนยังคงจับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ในต้นพ.ย.60 โดยขณะนี้มี 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
- ภาวะตลาดน้ำมัน : แรงขายทำกำไรฉุดราคา
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วง 75 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 51.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วง 92 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 57.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
# EIA เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลง 5.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 456.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าสถิติที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า ร่วงลง 7.1 ล้านบาร์เรล
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาดีดตัวขึ้น $7
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 7 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ระดับ 1290.0 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะวิตกการเมืองในสเปน
ปัจจัยในประเทศ และข่าวเด่น
+ ส่งออกไทย : ขยายตัว 12.2% ในเดือนก.ย.60
# กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกไทยเดือนก.ย. +12.2%YoY เป็น 21,812 ล้านUS$ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเติบโตดีในเกือบทุกกลุ่มสินค้าและทุกตลาดส่งออกสำคัญ และได้แรงหนุนจากการส่งออกทองคำที่ +243%YoY ด้วย หากไม่รวมทองคำพบว่ามูลค่าส่งออกเดือนก.ย.จะ +7.9%YoY นำโดยน้ำมันสำเร็จรูปยางพาราและผลิตภัณฑ์ ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมที่ส่งออกดีเป็นคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ สำหรับมูลค่าส่งออกรวมใน 9 เดือนแรก +9.3%YoY
# มูลค่าการนำเข้า +9.7%YoY เป็น 18,454 ล้านUS$ จากการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบที่เพิ่มขึ้น และนำเข้าสินค้าทุน สำหรับ 9 เดือนแรกนำเข้า +14.8%YoY
# แนวโน้มส่งออกงวด 4Q60 คาดว่าจะยังไปได้ดี เพราะกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าหลักขยายตัวดีขึ้นในปีนี้ ซึ่งทำให้มูลค่าส่งออกปี 60 มีโอกาสเติบโต 7% ซึ่งดีกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า สำหรับการเกินดุลการค้าที่สูง (9 เดือนแรกปีนี้เกินดุลการค้า 12,231 ล้านUS$) เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า และเราคาดว่าเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้จะแกว่งที่ประมาณ 33+/- บาท/US$ ต่อ
- PTTEP & PTT : PTTEP ตั้งด้อยค่ามาเรียนา ออยล์ แซนด์ แคนาดา 550 ล้านUS$ ในงบ 3Q60
# นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ใหญ่ PTTEP เปิดเผยว่าบริษัทตั้งด้อยค่าในเงินลงทุนโครงการ มาเรียนา ออล์ แซนด์ แคนาดา (ถือหุ้น 100%) ประมาณ 550 ล้าน US$ หรือ 18.2 พันล้านบาทในไตรมาส 3/60 หลังจากชะลอการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้ายออกไป และเลื่อนส่งงบการเงินงวดไตรมาส 3/60 จาก 26 ต.ค.60 เป็น 2 พ.ย.60
# ความเห็น DBSV : เป็นข่าวลบกับทั้งหุ้น PTTEP และ PTT เนื่องจากเป็นการตั้งด้อยค่าก้อนใหญ่ (แม้ไม่กระทบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน) โดยคิดเป็น 4.57 บาท/หุ้น PTTEP หรือ 5.1% ของราคาปิดเมื่อวานนี้ และคิดเป็น 4.15 บาท/หุ้น PTT (PTT ถือหุ้น PTTEP อยู่ 65.29%) หรือ 1% ของราคาปิดเมื่อวานนี้
ด้านผลประกอบการทางบัญชี 3Q60 คาดว่าจะเป็นขาดทุนประมาณ 10 พันล้านบาท (โดยประเมินว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิก่อนตั้งด้อยค่ารายการนี้ 8 พันล้านบาท) และหากตัวเลขนี้จริงจะทำให้กำไร 9M60 เหลือ 9.8 พันล้านบาท และกำไรสุทธิทั้งปีนี้อาจลงมาเหลือ 15-16 พันล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่ทาง DBS ประมาณการไว้เดิมประมาณ 25% และทำให้กำไรสุทธิของ PTT ลดลงจากคาดการณ์เดิม 12% ด้วย
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO1519