- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 August 2014 16:14
- Hits: 1865
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มแกว่งไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องแม้ว่าจะผันผวนบ้าง แต่ยังเน้นถือได้..
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่า SET จะยังแกว่งตัวผันผวน แต่ก็สามารถขยับบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET มีโอกาสที่จะแกว่งไต่ระดับขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายแถว 1600 จุด(+/-) ได้ตามที่คาดไว้เดิม ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดลบ แล้วเน้นถือต่อเนื่องไว้จนกว่าดัชนีจะขยับเข้าใกล้ 1600 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป จึงจะพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไรกันอีกครั้ง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TRC, DRT, GFPT(buy back)
แนวโน้ม ถึงแม้ว่า SET จะยังแกว่งตัวผันผวน แต่ก็เน้นหนักทางด้านแกว่งบวกต่อเนื่อง และยังสามารถขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้อยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งก็ยังขยับบวกได้ดี หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพื่อขานรับข่าวการเสนอซื้อกิจการและควบรวมกิจการของบริษัทเบอร์เกอร์ คิง ที่กำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการทิม ฮอร์ตัน นอกจากนี้นักลงทุนยังตอบรับข่าวที่ว่าประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าจะผลักดันนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายมากขึ้นด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งบวกต่อเนื่องตามคาด อย่างไรก็ตามนักลงทุนบางส่วนยังติดตามความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียอยู่ ซึ่งต้องรอดูว่าผลการเจรจาเพื่อหาทางผ่อนคลายสถานการณ์ของ ปธน.รัสเซียและยูเครนในวันนี้ว่าจะมีข้อสรุปได้หรือไม่ ดังนั้นอาจทำให้ SET ยังบวกขึ้นโดยมีลักษณะแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวันเหมือนช่วงหลายวันที่ผ่านมาได้
แนวรับ 1561-1559 , 1556-1553 จุด แนวต้าน 1567 , 1570-1573 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$145.5 ล้าน และเวียนนาม US$5.1 ล้าน แต่ขายในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$51.3 ล้าน อินโดนีเชีย US$15.1 ล้าน และไทย US$8.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบางต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) สินเชื่อเดือน ต.ค. เริ่มขยับขึ้นช้าๆ โดยเพิ่มขึ้น 0.54% M-M และธนาคารในกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ยังคงแสดงการหดตัวของสินเชื่ออยู่ สำหรับธนาคารที่มีสินเชื่อโตดีสุดคือ TMB (+2.9% M-M) ขณะที่ SCB และ KKP มีสินเชื่อหดตัวมากสุด (-1.1% M-M และ -0.9% M-M ตามลำดับ) เรายังคงคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะเริ่มดีขึ้นนับจากนี้ โดยมีการลงทุนภาครัฐและเอกชนเป็นปัจจัยขับเคลื่อน เราคงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปีนี้ที่ 6.7% (7M14 +1.5% YTD) และปี 2015 ที่ 11.6% กลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มหนึ่งในกลุ่มที่เราชอบที่สุดสำหรับการลงทุนในปีหน้า
(+) KTB สินเชื่อ ก.ค. ลดลง 0.16% M-M จากการชำระคืนเงินกู้ของลูกค้าธุรกิจ ซึ่งไม่ได้เซอร์ไพรส์เราและไม่น่ากังวล เพราะสินเชื่อ 7 เดือนแรกที่โต 4.8% YTD ยังสูงสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ แนวโน้มกำไรใน 3Q14 คาดโต 24% Q-Q และ 3% Y-Y จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้นและการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญที่กลับสู่ปกติ ชดเชยส่วนต่างดอกเบี้ยที่ชะลอลงจากการเร่งระดมเงินฝากและหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศได้ เราคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 26 บาท ยังแนะนำซื้อ ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ใหญ่ส่วนใหญ่ต่ำกว่าจุด high ของปี 2013 เฉลี่ย 5% ส่วน KTB แม้ราคาหุ้นในปีนี้จะปรับขึ้นมา 43% YTD แต่ต่ำกว่า high ในปีก่อนถึง 16% laggard ที่สุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่
(+) SINGER เรายังคงแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 26 บาท จากแนวโน้มยอดขายที่จะฟื้นตัวสดใสมากขึ้นตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป แม้ว่ากำลังซื้อจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เนื่องจาก SINGER มีสินค้าที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว และผู้บริหารจะออกสินค้าใหม่ เช่น เครื่องเติมเงินหยอดเหรียญแบบใหม่ ตู้หยอดเหรียญเครื่องดื่ม ตู้จ่ายบิลค่าบริการ เป็นต้น ทำให้เชื่อว่ากำไรในปี 2014-15 จะโตได้ 8% Y-Y และ 17% Y-Y ตามที่เราคาด
(+) MC เรายังคงแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 23.60 บาท แต่ผลการดำเนินงานจะยังไม่ฟื้นตัวในทันทีใน 3Q14 เพราะสินค้าของ MC ไม่ใช่สินค้าจำเป็น แต่เชื่อว่าผลประกอบการ 4Q14 ซึ่งเป็น High season จะสดใส การเดินหน้าขยายธุรกิจไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง (พม่า เวียดนาม กัมพูชา) จะส่งผลดีในระยะยาว เรายังคงคาดกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ปีนี้โต 16% Y-Y ปีหน้าโต 23% Y-Y
(-) ITD เราปรับกำไรปกติปี 2014-15 ลง 17% และ 14% ตามลำดับ จากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากประมาณการของเราถึงปีละ 16% ตามเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นมากใน 2Q14 ทำให้กำไรปกติในปีนี้หดตัว 33% Y-Y และปี 2015 เติบโต 17% Y-Y แต่กำไรปี 2015 ยังต่ำกว่าปี 2012-13 ซึ่งเป็นปีที่ดีของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่กำไรของ CK และ STEC ในปี 2015 ที่คาดโตเฉลี่ยเพียง 2% Y-Y แต่เป็นกำไรที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ เราปรับราคาเป้าหมายของ ITD ปี 2015 ลงเล็กน้อยเป็น 5.40 บาทจากเดิม 5.50 บาท แนะนำเพียงถือ การเก็งกำไรอาจเกิดขึ้นเป็นระยะเมื่อมีข่าวประมูลโครงการขนาดใหญ่ แต่เราชอบ CK และ STEC มากกว่าจากความสามารถในการทำกำไรและสภาพคล่องทางการเงินที่ดีกว่า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 75.65 จุด จากข่าวเรื่องการควบรวมกินการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงตลาดตอบรับเชิงบวกต่อ ECB ที่อาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาคเพิ่มเติม
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อปิดในแดนบวกได้เช่นกันหลังถ้อยคำแถลงของประธาน ECB ที่ระบุว่าพร้อมที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคตหากจำเป็น
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบและจับตาดูการพูดคุยระหว่างผู้นำของยูเครนและรัสเซียในวันนี้ว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแต่ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวออกข้าง โดยล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 0.30 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 93.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังคงถูกกดดันจากคาดการณ์ที่ว่าสต๊อกน้ำมันดับที่เมืองคุชชิ่งจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ขยับลง 1.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,278.90 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นลบต่อสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 ส.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ค.)
- สหรัฐ: ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.ค.), S&P/CaseShiller Home Price Index (มิ.ย.)
27-29 ส.ค. - ไทย: Thailand Focus 2014 – Reforming for Sustainable Growth ตลาดฯร่วมจัดกับ BofaML
28 ส.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ก.ค.)
- ฟิลิปปินส์: 2Q14 GDP
- สหรัฐ: 2Q14 GDP (ตลาดคาด +3.9% Q-Q ชะลอเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ +4.0% Q-Q)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
29 ส.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ค.
- อินเดีย: 2Q14 GDP
- ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ส.ค.)
- MSCI Quarterly Review ไม่มีหุ้นไทยที่นำเข้าคำนวณเพิ่ม แต่มีหุ้นเอาออก 2 ตัวคือ GJS และ GSTEL ใช้ราคาปิดวันนี้
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852