- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 October 2017 21:18
- Hits: 3331
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อ ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งของไทย หนุนฟันด์โฟลว์
KGI คาด SET วันพุธขึ้นต่อ ความชัดเจนต่อช่วงเวลาจัดการเลือกตั้งของไทย น่าจะหนุนเงินบาทและฟันด์โฟลว์แรงกว่าที่เราเคยประเมิน วันนี้เราปรับเป้าเชิงกลยุทธ์ของดัชนีฯ สิ้นปี 2560 เป็น 1,755 จุด จากเดิม 1,710 จุด เนื่องจากเรามองว่า ‘election rally’ จะหนุนให้ดัชนีฯ ขึ้นไปเล่นที่ค่าพีอีสูงกว่าเดิมอีก 0.25 SD เป็น 16.4 เท่าจากเป้าพีอีเดิมที่ 15.9 เท่า และหุ้นนำดัชนีฯ น่าจะเป็นหุ้นเชื่อมโยงความมั่นใจในประเทศ และเศรษฐกิจที่น่าจะเร่งตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากสถิติที่เรารวบรวมในการเลือกตั้งของไทยครั้งที่ผ่านมาๆ พบว่ากลุ่มค้าปลีก กลุ่มธนาคาร กลุ่มก่อสร้าง และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นหุ้น 4 กลุ่มที่ปรับขึ้นโดดเด่นในช่วง ‘election rally’ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของ KGI ที่เลือกกลุ่มดังกล่าวเป็นหุ้นเด่นในไตรมาส 4/2560 ด้านปัจจัยภายนอกเป็นบวกเล็กน้อย หลังดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ ปรับลงค่อนข้างแรงเมื่อคืนนี้ ตามการฟื้นตัวของสกุลเงินยูโรหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ ECB แถลงสนับสนุนการลดระดับมาตรการ QE ในต้นปี 2561 มีส่วนช่วยดันค่าเงินบาทให้ฟื้นตัวต่อจากเมื่อวานบ่าย (เช้านี้เงินบาทเทรดในเชิงแข็งค่าที่ 33.20/ดอลล่าร์ฯ น่าจะหนุนฟันด์โฟลว์ต่อ)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ECL, COM7* / สะสม BBL*
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท ... เป้า Consensus 4.6 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มกำไร 3Q60 จะยังเติบโต YoY และ QoQ เป็นราว ±38 ล้านบาท (+90% YoY, 9% QoQ) โดยประเมินยอดสินเชื่อใหม่ 3Q60 จะอยู่ที่ราว 700 ล้านบาท (+45% YoY โดย 3Q59 ยอดสินเชื่อใหม่ = 485 ล้านบาท) คาดยอดสินเชื่อสิ้นปีนี้มีโอกาสทะลุเป้าที่เราประมาณการไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท ... มีโอกาสปรับประมาณการฯ ขึ้น 2) ล่าสุดเปิดอู่ซ่อมรถ Fixman สาขา เกษตร-นวมินทร์ รองรับธุรกิจ ซ่อมรถ และ การรับประกันเครื่องยนต์รถมือสอง (เป็นธุรกิจที่ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง PFS ประสบความสำเร็จที่ญี่ปุ่น โดยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1) และคาดจะเปิดอีก 2 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ... เรายังไม่รวมประเด็นธุรกิจนี้ในประมาณการฯ 3) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง + การกำหนดกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะลงทุนซื้อสินค้าคงทน (รถยนต์ + บ้าน) มากขึ้น 4) ประเมินแนวรับ 3.96 บาท แนวต้าน 4.6 บาท (Stop loss 3.8 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 13.8 บาท … สูงสุด 15.5 บาท) 1) ประเมินหากวันนี้ยืนเหนือแนวราคา 14.2 บาทได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 15.1 บาท (กรอบ Uptrend line channel) แนวรับ 14 บาท (Trailing stop 13.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q60 โต YoY และ QoQ จาก i) จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ii) ร้านใหม่อย่าง หัวเว่ย+Oppo ii) ธุรกิจใหม่ เช่น ลีสซิ่ง เริ่มรับรู้กำไร เป็นต้น 3) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง + การกำหนดกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
BBL* (เป้าพื้นฐาน 220 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q60 โต 4.2% QoQ และ 4.0% YoY เป็น 8.38 พันล้านบาท ... อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Preview 3Q60 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ วันที่ 4 ต.ค.60 2) เราคาด BBL* จะเป็นธนาคารที่ได้อานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการฟื้นตัวของสินเชื่อภาคธุรกิจ 3) ประเมิน Valuation laggard โดยมี PBV ที่ยังต่ำเพียง 0.94 เท่า โดยค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 1.4 เท่า 4) ประเมินแนวรับ 186 บาท แนวต้าน 193 บาท และ 200 บาท ตามลำดับ
หุ้นในกระแส
หุ้นรับกระแสเลือกตั้ง จากประเด็นการกำหนดช่วงเวลาการเลือกตั้งประมาณเดือน พ.ย.61 คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศ
i) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์ใหญ่ BBL*, KBANK / แบงก์เล็ก TCAP*, TISCO*): การประกาศกรอบเวลาที่ชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง คาดเป็นบวกต่อเม็ดเงิน Fund flow ที่จะไหลเข้าไทย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยัง Laggard ตลาดฯ แนะนำ “สะสม” BBL*, KBANK* และ “เก็งกำไร” TCAP*, TISCO*
ii) กลุ่มค้าปลีก (หุ้นหลัก COM7*, CPN* / หุ้นรอง TNP) ประเมินบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ในประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่อง (จากข้อมูลในอดีตยอดขายค้าปลีกจะเด่นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง) แนะนำ “เก็งกำไร” COM7*, CPN* และลุ้นรีบาวด์ TNP
iii) กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป (MOONG, ECF) ประเมินหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคทั่วไป จะได้อานิสงส์ในทิศทางเดียวกับกลุ่มค้าปลีก แนะนำ “เก็งกำไร” MOONG, ECF
iv) กลุ่มเช่าซื้อ (ECL) เราประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศจะเริ่มฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และซื้อสินค้าคงทน (รถยนต์) มากขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” ECL
v) TKS (เป้า Consensus 16.2 บาท ... สูงสุด 17.4 บาท) TKS เคยได้รับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง จึงมีโอกาสที่จะได้รับงานในครั้งนี้ รวมทั้งคาดยอดแสตมป์ร้าน 7-11 จะโตเด่นตามยอดขาย แนะนำ “เก็งกำไร”
หุ้นมีข่าว
IMF ปรับ GDP โลกปี 2017 ขึ้น 0.1% (IMF, WEO October 2017) IMF มองว่าเศรษฐกิจโลกมีความแข็งแกร่งขึ้น และ ได้ปรับประมาณการ GDP โลกปี 2017 และ 2018 ขึ้น 0.1% เป็น 3.6% และ 3.7% ตัวเลขปี 2018 มีความน่าสงสัยที่ว่า มีเพียง GDP ของ สหรัฐฯ อินเดีย และ บราซิล เพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศอื่นๆรวมแล้วมีน้ำหนักมากกว่า 3 ประเทศนี้ อัตราการขยายตัว GDP ลดลง ขณะที่ GDP ของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นประเทศเดียวในเศรษฐกิจใหญ่ของยูโร ถ้าตามอัตราการขยายตัว GDP ปี 2018 ของ IMF ทำมา เศรษฐกิจโลกปี 2018 ควรจะขยายตัวลดลงจากปี 2017 เหลือ 3.4-3.5% เท่านั้น ขณะเดียวกัน IMF ก็ยังมองศักยภาพการขยายตัว GDP ไทยต่ำผิดกว่าความเป็นจริงเสมอมา โดยคาดว่าปีนี้จะขยายตัว 3.7% ปี 2018 จะขยายตัว 3.5% ขณะที่เรายังคงคาดว่า GDP ไทยจะสามารถขยายตัวได้ 3.8% ในปีนี้ และ 4.2% ในปีหน้า โดย GDP ไตรมาสที่ 3/60 จะสามารถขยายตัวได้ถึง 4.0% และ 4Q60 จะสามารถขยายตัวได้ 4.2%
(+) BEM* รายงานตัวเลขยอดผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน และทางด่วน เดือน ก.ย. (http://www.bemplc.co.th) BEM* รายงานตัวเลยยอดผู้ใช้ทางด่วนเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.26% YoY และจำนวนผู้ใช้บริการโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน +8.74% YoY
(+) 3 แบงก์ใหญ่ปล่อยกู้รถไฟฟ้า 6.3 หมื่นล. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) BBL*, KTB*, SCB* จับมือปล่อยกู้ 63,360 ล้านบาท ให้ "คีรี กาญจนพาสน์" เดือนเครื่อง "โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง"
(+) แบงก์ลุ้นอีอีซีหนุนสินเชื่อรายใหญ่โต (กรุงเทพธุรกิจ) แบงก์ใหญ่ "BBL*, KBANK*" เผยนักลงทุนสนใจ ลงทุนโครงการอีอีซี หนุนเศรษฐกิจ และการเติบโตของสินเชื่อรายใหญ่ปีหน้าได้ ด้านกสิกรไทยคาดโตตามเป้า 6% ปีหน้ารุกกลุ่มก่อสร้าง และลูกค้าธุรกิจ ที่ได้อานิสงส์โครงการรัฐ
(-) มึน!ยอดขอ รง.4 ร่วง11% ห่วง'พรบ.อีอีซี'ไม่ชัดเจน อุตฯยันเดินหน้าดูดลงทุน (ไทยโพสต์) กรอ.เผยยอดขอ รง.4 ช่วง 9 เดือนในพื้นที่ 3 จังหวัดอีอีซี ลดตัวลงจากปีก่อน 11.33% มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 2.15 หมื่นล้านบาท พบปัจจัยหลักมาจากกฎหมายยังไม่มีความชัดเจน ด้าน "สมชาย" ยืนยันทุกอย่างเดินหน้าเต็มกำลัง คาดทีโออาร์โครงสร้างพื้นฐานเสร็จสิ้นปี และประกาศใช้ พ.ร.บ.จะทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น
(+) KTC* พลิกโฉมแอพใหม่หวังดันยอดผู้ใช้โต 200% (ทันหุ้น) KTC* ปรับโฉมแอพพลิเคชั่นบนมือถือใหม่ภายใต้ชื่อ "TapKTC" เน้นตอบโจทย์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมชูฟังก์ชั่นใหม่สแกนลายนิ้วมือ-ม่านตาผ่าน "ซัมซุง พาส" ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้บริหาร "ธศพงษ์ รังควร" วางหมากปี 2561 ยอดขายผู้ใช้บริการแตะ 1.5 ล้านราย หรือเติบโต 200% จากเดิมที่ราว 5 แสนราย
(+) IVL* ซื้อกิจการ DuPont Teijin (ข่าวหุ้น) นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ลงนามข้อตกลงซื้อกิจการบริษัท DuPont Teijin Films (DTF) ผู้ผลิตฟิล์ม BOPET (Biaxially-oriented Polyethylene Terephthalate) และฟิล์ม PEN (Polyethylene Naphthalate) ชั้นนำระดับโลก
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SUSCO (เป้า Consensus 5.3 บาท) ประเมินแนวรับ 3.60 บาท / แนวต้าน 3.9 บาท และ 4.1 บาท ตามลำดับ (Stop loss 3.50 บาท)
WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) ประเมินกรอบ Channel Line 3.5 – 3.8 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ (Trailing stop 3.5 บาท)
TAPAC (เป้า Consensus 29.6 บาท) ประเมินแนวรับ 21.5 บาท แนวต้าน 23 บาท และ 24.1 บาท ตามลำดับ (Stop loss 20.5 บาท)
BCP* (เป้าพื้นฐาน 43 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 46 บาท โดยกำหนด Trailing Stop 41.5 บาท สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 42.75 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” หากยังไม่ผ่าน แนะนำ “อ่อนตัวสะสม”
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ “Let profit run” กำหนด Trailing Stop 16.4 บาท
CHEWA (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินกรอบแนวรับ – แนวต้าน 1.29 – 1.40 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ และกรณีผ่านกรอบแนวต้าน 1.40 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.46 บาท (Stop loss 1.28 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
AMATA* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 26.4 บาท (Initiate Coverage) ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน initiate coverage หุ้น AMATA* โดยประเมินเป็นหุ้นนิคมฯ ที่มีความแข็งแกร่งในไทยและเวียดนาม และแนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคตจะเด่นจาก i) ยอดขายที่ดินที่ฟื้นตัว ii) การขยายตัวของธุรกิจพลังงาน และ iii) โอกาสในการปรับราคาขายที่ดินขึ้น
SPRC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 16.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรสุทธิของ SPRC* ใน 3Q60 = 3.2 พันล้านบาท (+175% YoY, +443% QoQ) จาก i) กำไรสต็อกน้ำมัน และ ii) base GRM เพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ 3Q60 จะเป็นไตรมาสที่บริษัทมีกำไรสูงที่สุดในปีนี้ แต่ราคาหุ้นได้สะท้อนไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการปิดซ่อมบำรุงหน่วย RFCCU ชั่วคราวในเดือน ต.ค. ดังนั้นจึงแนะนำให้เปลี่ยนไปถือหุ้นเด่นตัวอื่นในกลุ่มอย่างเช่น IRPC* และ BCP* แทน
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1705 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยแนวรับ 1705 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1705-1693 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยแนวรับ 1705 จุดได้นั้น อาจผลักขึ้นในกรอบ 1705-1725 จุด
แนวรับวันนี้: 1705/1695 แนวต้านวันนี้: 1712/1721
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843
[email protected]