- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 October 2017 16:45
- Hits: 2475
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ / บวกแคบๆ
KGI คาด SET วันจันทร์ (และวันทำการแรกของไตรมาส 4/2560) จะเทรดไซด์เวย์ คาดฟันด์โฟลว์ยังชะลอตัว หลังค่าเงินดอลล่าร์ฯ มีปัจจัยสนับสนุนมากขึ้นในระยะสั้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทน่าจะทรงตัวในกรอบจำกัด (มองไม่อ่อนค่าแรง แต่ไม่น่าจะแข็งค่าได้แรงเช่นกัน) โดยความคาดหวังว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค., การทยอยลดงบดุลของเฟดที่จะเริ่มในปลายเดือนนี้ รวมทั้งพัฒนาการของแผนลดภาษีของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวกต่อเงินดอลล่าร์ฯ แต่ขณะเดียวกันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด น่าจะหักล้างผลดังกล่าวไปบ้าง เมื่อวันศุกร์ สหรัฐฯ รายงาน core PCE inflation เดือน ส.ค. +1.3% YoY ชะลอจาก +1.4% YoY ในเดือน ก.ค. และต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2.0% ค่อนข้างมาก ด้านปัจจัยภายใน น่าจะมีการเริ่มพรีวิวงบไตรมาส 3/2560 ของหุ้นกลุ่มธนาคารกันในสัปดาห์นี้ อาจสร้างสีสันให้กับหุ้นรายตัวที่งบน่าจะโดดเด่น ทั้งนี้ธีมการลงทุนของหุ้นไทยในเดือนนี้ คือ wealth effect จากดัชนีตลาดหุ้นที่ลอยสูงขึ้นมาในเดือนที่แล้ว น่าจะหมุนไปสนับสนุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กมากขึ้น ขณะที่หุ้นตัวหลักอาจชะลอลงชั่วคราว (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์กลยุทธ์เดือน ต.ค. วันนี้)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร DEMCO, BCP*
DEMCO (เป้า consensus 6.4 บาท) 1) รูปแบบราคา Breakout แนวต้านสำคัญ 6.65 บาทขึ้นมาได้ ประเมินมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 7 บาท และถัดไปที่ 7.45 บาท (Stop loss 6.4 บาท) 2) ประเด็น ได้ใบอนุญาตให้เป็นผู้ผลิตเสาโครงเหล็กสำหรับสายส่งระบบ 500 KV โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทำให้เป็น 1 ใน 5 ของผู้ผลิตในไทย (ปลดล๊อก Barrier to Entry จากเดิมผูกขาดเพียง 4 ราย) โดยคาดมูลค่างานติดตั้งสายส่งและสถานีไฟฟ้าของ กฟผ.ในระยะ 5 ปี จะสูงถึง 5 – 6 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบัน DEMCO มี Backlog 4 พันล้านบาท ... ที่มา นสพ ไทยโพสต์ 29 ก.ย. 3) WEH ที่ DEMCO ถือหุ้นอยู่ 3.9% เตรียมยื่นไฟลิ่งใน 1Q61
BCP* (เป้าพื้นฐาน 43 บาท) 1) Breakout ผ่านแนวราคา 39.25 บาทได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 41.5 บาท และ 46 บาท แนวรับ 39.25 บาท (Stop loss 37.25 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นไม่แพงด้วย PE 2561 = 8.6 เท่า และปันผล 5.9% ต่อปี 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q60 เด่นจาก i) base GRM ที่สูง และ ii) ไม่มีขาดทุนสต๊อกน้ำมันเช่นในไตรมาสก่อนหน้า 4) ราคาหุ้น Laggard BCPG* โดยที่เป้าพื้นฐานหุ้น BCP* ที่ 43 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำหนดราคาเหมาะสม BCPG เพียง 13.1 บาท ในการประเมินด้วยวิธี Sum of the Parts แต่ล่าสุดวานนี้ BCPG* ปิดที่ 19.2 บาท
หุ้นในกระแส
กลุ่มเหล็ก (TMT, THE, INOX) เราประเมิน 1 – 2 สัปดาห์นี้ ราคาเหล็กอ่อนตัวลงก่อนวันหยุดยาว วันชาติจีน 1 ต.ค. เป็นโอกาสเข้าซื้อสะสมหุ้นกลุ่มเหล็ก เนื่องจาก 1) ล่าสุดปริมาณสต๊อกเหล็กที่จีนต่ำสุดในรอบปี (คาดมีโอกาส รีสต๊อกหลังหยุดยาววันชาติจีน) 2) ประเมินว่าราคาเหล็กที่ปรับขึ้นเฉลี่ย 2 – 3 บาท/กก. ในช่วง 3Q60 จะทำให้หุ้นกลุ่มเหล็กมีผลกำไรจากสต๊อกเหล็ก (ผลการดำเนินงาน Turnaround จาก 2Q60) 3) โรงงานเหล็กในจีน ประสบปัญหาการเข้าตรวจสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับ โรงงานปิโตรเคมี และโรงฟอกหนัง ที่ต้องปิดตัวลงหลายแห่งก่อนหน้านี้ ทำให้อุปทานเหล็กในตลาดโลกเริ่มตึงตัว 4) คาดโครงการลงทุนภาครัฐฯที่เริ่มลงงานฐานรากแล้ว + เศรษฐกิจในประเทศที่เติบโต (ที่ประชุม กนง ปรับเป้าหมาย GDP ปีนี้ขึ้นมาที่ 3.8%) + โครงการ EEC จะทำให้ดีมานด์เหล็กในประเทศเพิ่มขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” THE (แนวรับ 4.74 บาท / แนวต้าน 5.0 บาท และ 5.3 บาท /Stop loss 4.7 บาท)
กลุ่มค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ (COM7*, JMART*) ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ไต้หวัน ออกบทวิเคราะห์ Apple Insight ประเมินราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Supply chain ของ Apple ปรับตัวลงหลังนักลงทุนกังวลต่อดีมานด์ iPhone 8 ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากประเมินดีมานด์จะไปเพิ่มในส่วนของ iPhone X ที่กำลังจะสรุปตัวเลข Preorder ซึ่งคาดว่าจำนวน Preorder จะสูงถึง 40 – 50 ล้านเครื่อง ขณะเดียวกันเราประเมินสำหรับตลาดประเทศไทย จะแบ่ง Segment ชัดเจนระหว่างกลุ่มผู้บริโภคที่รอซื้อ iPhone X (เปรียบเหมือน Major change ของรถยนต์) มากกว่า iPhone 8 (เปรียบเหมือน Minor change ของรถยนต์) และกลุ่มผู้บริโภคที่รอโปรโมชั่นราคาถูกสำหรับ iPhone 6 และ iPhone 7 ที่ตกรุ่น (ค่ายมือถือพันธมิตรจะเป็นคน อุดหนุนงบการตลาดฯให้ COM7* และ JMART*) ดังนั้นจึงแนะนำ สะสม COM7* และ JMART* ที่คาดผลการดำเนินงานจะโตเด่นใน 2H60
หุ้นมีข่าว
(+) ส่งออกบูมหนุน'สินเชื่อ'พุ่ง 'เอ็กซิมแบงก์'ชี้พอร์ตรายใหญ่โต-'เอสเอ็มอี'ทรงตัว (กรุงเทพธุรกิจ) ทีเอ็มบี'มองตลาดส่งออกปีหน้าขยายตัว 4.8% จากรายใหญ่ "เอ็กซิมแบงก์" เผยภาคส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง หนุนยอดปล่อยกู้เติบโตดี คาดปีนี้ขยายตัว 5-6% ส่วนใหญ่จากสินเชื่อกลาง-ใหญ่ ขณะที่ "เอสเอ็มอี" ยังชะลอตัว ส่วน "เอ็นพีแอล" ยังต่ำ 3.6% ด้าน "ทีเอ็มบี" มองส่งออก ปี 2561 โต 4.8% มาจากบริษัทขนาดใหญ่สัดส่วน 89%
(+ TPCH, TPOLY) ผู้ถือหุ้น TPCH อนุมัติจ้าง TPOLY ก่อสร้างโรงไฟฟ้า 4 แห่ง มูลค่า 3.1 พันล้าน (ข่าวหุ้น) ผู้ถือหุ้น TPCH ไฟเขียวจ้าง TPOLY ก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ 4 แห่ง “ทีพีซีเอช 1, 2, 5-ปัตตานี กรีน” กำลังการผลิตรวม 46 MW มูลค่าก่อสร้างรวม 3,172.77 ล้านบาท พร้อมย้ำเป้าหมายปี 63 กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลแตะ 200 MW
(+) SPPT อัดงบ 175.44 ล.ซื้อหุ้นในบ.TERAเพิ่มผลตอบแทน (ทันหุ้น) SPPT เตรียมลงทุน 175.44 ล้านบาท ซื้อหุ้น 51% ใน TERA ผู้วางระบบ-ให้บริการไอทีแบบครบวงจร หวังเพิ่มมูลค่าและผลตอบแทนที่ดีกับบริษัท จ่อขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เล็งนำเงินไปขยายลงทุน
(+) TK สินเชื่อต่างแดนติดปีกมีแววปรับพอร์ตอัพงบพุ่ง (ทันหุ้น) TK เล็งปรับเพิ่มพอร์ตสินเชื่อหลังปิดงบ Q3/2560 จากเดิมคาดโต 10% สุดปลื้มตลาดรถมอเตอร์ไซต์เติบโต คุม NPL ต่ำกว่า 4.8% พร้อมรุกขยายตลาดอาเซียน ล่าสุดบอร์ดอนุมัติ ตั้งบ.ย่อยในเมียนมา คาดภายในปี 2563 มีสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ 50% แย้มศึกษาซื้อกิจการต่อยอด
(+) JMART* เขย่าตลาดมือถือยอดขายแรงลุ้นกำไรนิวไฮ (ทันหุ้น) JMART* ตั้งเป้ากวาดยอดขายงาน "Thailand Mobile EXPO 2017" แตะ 80 ล้านบาท ส่งมือถือรุ่นใหม่กระตุ้นกำลังซื้อเพียบ หนุนกำไรปี 2560 ทำนิวไฮ เดินหน้าขยายสาขารองรับความต้องการ ตั้งเป้าปี 2562 มีสาขาทั้งสิ้น 500 สาขา เล็งออกหุ้นกู้เพิ่ม พร้อมดีลร่วมทุน-ซื้อกิจการ 4-5 ดีล หวังชัดเจนปีนี้ 1 ดีล แถมกองทุนจีบซื้อบิ๊กล็อต
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
CCET (เป้า Consensus 4.9 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้น ทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 3.8 บาท และ 4.2 บาท ตามลำดับ แนวรับ 3.44 บาท (Stop loss 3.10 บาท) ... Valuation น่าสนใจด้วย PE 2560 = 9.5 เท่า (Trailing PE 11 เท่า) และปันผลเฉลี่ย 3% ต่อปี + รับผลบวกจากแผนปฏิรูปภาษีนิติบุคคลของรัฐบาลสหรัฐฯ
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) พิจารณาแนวราคา 35.5 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้าน 36.25 บาท และ 39 บาท (Trailing stop 34 บาท)
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) ประเมินแนวรับ 3.9 บาท แนวต้าน 4.4 บาท (Stop loss 3.6 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 13.7 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 14.7 บาท
WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) ประเมินกรอบ Channel Line 3.5 – 3.8 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ และหากทะลุผ่านกรอบแนวต้าน 3.8 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 4.0 บาท (Trailing stop 3.5 บาท)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้าน 16.9 บาท กำหนด Trailing Stop 15.8 บาท
PRM (เป้า Consensus 10.2 บาท) ประเมินแนวรับ 10.7 บาท แนวต้านแรก 11.2 บาท และถัดไปที่ 11.7 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน ต.ค. 2560: มอง SET Index น่าจะชะลอความร้อนแรง ตามฟันด์โฟลว์ที่น่าจะผันผวนมากขึ้น และ upside ถึงเป้าหมายปี 2560 ของเรามีเพียง 3% แต่แนวโน้ม GDP ที่แข็งแกร่ง, โมเมนตัมการปรับเพิ่มประมาณการ EPS ของไทย และการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงน่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงของทั้งเงินบาทและ SET Index หุ้นเด่นเดือนนี้กลับมาเน้นหุ้นขนาดกลางและเล็ก ได้แก่ AAV*, ANAN*, BCH*, BCP*, CPALL*, ERW, MINT* และ SEAFCO
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1672 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ปรับลดลงปิดต่ำกว่าแนวรับ 1672 จุดนั้น อาจทรงลงในกรอบ 1672-1659 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือแนวรับ 1672 จุดได้นั้น อาจผลักขึ้นในกรอบ 1672-1686 จุด
แนวรับวันนี้: 1672/1662 แนวต้านวันนี้: 1679/1685
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]