- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 September 2017 17:10
- Hits: 2177
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Fasten your seatbelt
วันนี้คาด ดัชนีฯ ผันผวนในกรอบแนวรับ 1,660 ต้าน 1,674 จุด กลยุทธ์แนะเริ่มกระชับพอร์ต (หุ้นบูลชิพ
ใหญ่)
สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯจะ “เด้งสลับย่อ” กรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้คาด 1,650/1,645 จุด ถึง 1,675 จุด (ยังให้
น้ำหนัก ไม่ผ่าน 1,675 จุด ในสัปดาห์นี้)
รอบนี้คงคาด บริเวณ 1,680 จุด ขึ้นไป ดัชนีฯ จะเริ่มมีแรงขายมากขึ้น ด้วยดัชนีฯเริ่มเข้าโซน Super
Overbought เป็นสัญญาณเตือนของการปรับฐาน ขณะที่ ราคาหุ้นบูลชิพใหญ่ รอบนี้แรลรี่ขึ้นมาจนเต็มมูลค่า
หลายตัว เราคาดจะเริ่มเห็นการปรับฐานเมื่อเข้าสู่ เดือน ตค. แต่แรงขายจะไม่รุนแรง คาดแนวรับสำคัญ
MA25 วัน บริเวณ 1,630 จุด จะรับอยู่ และ Wealth effect ที่เกิดจากการแรลรี่ของหุ้นใหญ่จะหมุนเข้า หุ้น
กลาง-เล็กที่มีปัจจัยพื้นฐานรอสนับสนุนจะสลับขึ้นแทน
หุ้นแนะนำวันนี้
THE แนวรับ 4.8 บ. ต้าน 5 Stop loss 4.74 รัฐบาลจีน สั่งแก้ไขปัญหามลภาวะเพิ่มหลังก่อนหน้าคุม
โรงงานปิโตรฯไป ล่าสุดคุมโรงงานเหล็กเพิ่ม สั่ง 18 เมืองผลิตเหล็กให้ลดกำลังการผลิตลง 50% เพิ่ม พย.
ถึง มีค.ปีหน้า คาดผลผลิตเหล็กที่หายไป 4 เดือน ประมาณ 57 ล้านตัน หรือ 7% ของกำลังการผลิตเหล็กใน
จีน และคาดกระทบอุตสาหกรรมถลุงแร่เหล็ก ประมาณ 91 ล้านตัน และคาดกระทบการนำเข้าเหล็กราว 20%
ในช่วง 4 เดือนนี้
SPPT แนวรับ 5.95 บ ต้าน 6.7 บ. Stop loss 5.5 ประกาศซื้อหุ้น 51% ใน “Terabyte Net Solution Plc.,”พร้อมทั้งประกาศขายที่ดินฯมูลค่า 253 ลบ. คาดมีกำไรจากการขายที่ดินราว 64 ลบ.
ECL แนวรับ 4.08 ต้าน 4.4/4.5 บ. Stop loss 3.9 พร้อมเปิดศูนย์ซ่อมรถยนต์ FIXMAN เพิ่มอีก 2 แห่ง
(ติดตั้งอุปกรณ์แล้ว) รวมเป็น 3 สาขา และภายในปีนี้คาดเปิดได้ครบ 4 สาขาหลัก ตามแผนงาน โดยบริษัทฯ
มีฐานลูกค้าจากพอร์ตสินเชื่อรถยนต์กว่า 30,000 ราย รองรับแน่นอน ทั้งนี้เรายังไม่รวมกำไรส่วนนี้ไว้ใน
ประมาณการณ์กำไร
รายงานวันนี้
RPH: Hit and Run … Gain before Pain (Drop Coverage)
อิงตามรายงานฉบับวันนี้ เรา “Drop coverage” RPH เนื่องจากมุมมองด้านกำไรที่คาดจะชะลอตัวลงในปีหน้าโดยหากมองข้ามกำไรที่คาดจะออกมาแข็งแกร่งใน 3Q17 ตั้งแต่ 4Q17 เป็นต้นไป เราประเมินว่ากำไรจะ
ชะลอตัว จากต้นทุนโรงพยาบาลใหม่ที่รับรู้เข้ามา เรามองว่าหากราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาสะท้อนกำไรใน
3Q17 ที่ออกมาดี เป็นจังหวะในการขายทำกำไร โดยตอนนี้ Valuation เทรดอยู่ในระดับ PER ปี 2017 ที่ 47
เท่า สธูงที่สุดในกลุ่มที่เราดูแล และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 38 เท่า
MINT: Dilution priced in—time for a rally!
เรามองว่าผลของ Dilution Effect ที่เกิดขึ้นจากการใช้สิทธิ์ MINT-W5 ได้สะท้อนไปในราคาหุ้นที่มีการย่อตัวลงมาในช่วงที่ผ่านมาแล้ว โดยเราเชื่อว่าหลังจากมีการใช้สิทธิดังกล่าวจะทำให้งบฐานะการเงินของ MINT
แข็งแกร่งขึ้น โดย Net gearing ratio จะปรับตัวลดลงมาจากระดับ 1.3 เท่า เป็น 0.7-0.8 เท่า ณ สิ้นปีนี้
รวมถึงเงินที่ได้จากการใช้สิทธิดังกล่าวคาดสวนหนึ่งจะนำไปจ่ายคืนหนี้ และเตรียมพร้อมสำหรับ M&A ดีลใน
อนาคต เรามีการปรับราคาเป้าหมายไป ณ สิ้นปี 2018 ที่ 46 บาท (Full dilution) และยังคงคำแนะนำ ซื้อ
กลุ่มเรือ: Short-term BDI retreat, but rally to resume soon
ราคาหุ้นของกลุ่มเดินเรือทั้ง PSL และ TTA ในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างดี หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของ BDI เรามองว่าการชะลอตัวลงของ BDI เป็นเพียงแค่ระยะสั้น ก่อนที่จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยหาก
ย้อนกลับไปดูตัวเลขในอดีตปี 2013-2014 ดัชนี BDI มีการปรับตัวขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน ก่อนที่จะเห็นการย่อ
ตัวลงมาในเดือนถัดมา และกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องอีก 2-4 สัปดาห์ หลังจากนั้น เรามองว่าหากราคาหุ้นมีการ
ย่อตัวลงมาสะท้อน BDI ที่ปรับตัวลงมาระยะสั้น เป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นอีกครั้งรอการกลับมาแรลลี่ของ
BDI ที่จะเกิดขึ้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร PSL (ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท) และ TTA (ราคา
เป้าหมาย 11.90 บาท)
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) ECL เมื่อวาน เปิดศูนย์ซ่อมรถยนต์ FIXMAN สาขานวมินทร์ อย่างเป็นทางการ และกำลังจะเปิด อีก 2 แห่ง ที่ กาญจนา และ ศรีนครินทร์ / การทยอยเปิดศูนย์ซ่อมรถยนต์ เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้
โดยเรายังไม่ได้รวม Upside จาก ธุรกิจนี้ไว้ในประมาณการกำไร (PFS ญี่ปุ่นและ ECL ถือหุ้นกันคนละครึ่ง)
(+) แผนปฏิรูปภาษี สหรัฐฯ คืบหน้า โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ส่งแผนปฏิรูปภาษีแล้ว คาดสภา
ครองเกรส จะลงมติเห็นชอบต้นปี 2018 (หุ้นที่ เชื่อมโยง จากการมีธุรกิจในสหรัฐฯ จะได้ลดภาษีนิติ บุคคล
จาก 35% เหลือ 20% ได้แก่ IVL EPG CCET)
(+) ดอกเบี้ยไทยที่ตลาดคาดว่าจะเริ่มขยับขึ้นในครึ่งปีหลัง 2018 นั้น อาจจะไม่ได้ขึ้นอย่างที่คิด พิจารณา
จากเป้าหมายเงินเฟ้อที่แบงก์ชาติปรับปี 2017-18 ลงอีก เหลือ 0.6%-1.2% (จากเดิมคาด 0.8-1.6%) สวน
ทางกับเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสหรัฐฯ คาดแนวโน้มแบบนี้จะเอื้อต่อผลการดำเนินงาน กลุ่ม ส่งออก (บาทอ่อน)
และ สินเชื่อรถยนต์/บุคคล (ดอกต่ำ) Top pick ใน BLS universe ได้แก่ KCE CCET AH ECL JMT TISCO
KKP
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(0) กนง.มีมติ คงดอกเบี้ย 1.5% ตามตลาดคาด
(+) กนง. ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยขึ้น เป็น 3.8% จากเดิม 3.5% ส่วนปี 61 คาด โต 3.8%
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน