- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 September 2017 16:45
- Hits: 1471
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ค่อนข้างผันผวน โดยเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงบ่ายนำโดย IVL , PTT, PTTGC, SCC และ SCB ในขณะที่มีแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Electronic นำโดย KCE, HANA, SMT จากประเด็นการอ่อนค่าของค่าเงินบาท อีกทั้งยังคงมีแรงซื้อใน AOT ต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,666 จุด (-3.9 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 6.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 5.4 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติกลับมาซื้อขายหุ้นไทยอีกครั้งที่ 2,855 ลบ. และกลับมา Short สุทธิ SET50 Index Future ที่ 2,666 สัญญา
Investment theme
คาดงบไตรมาส3 กลุ่มพลังงาน,โรงกลั่น เติบโตดี ในขณะที่กลุ่มธนาคารยังอ่อนแอ : เราคาดผลประกอบการไตรมาส 3 ของกลุ่มพลังงาน (PTT,PTTEP,PTTGC) และโรงกลั่น (BCP,IRPC,TOP) จะออกมาเติบโตดีจากทั้งจากผลการดำเนินงานและ Stock gain จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ตามคาดผลประกอบการกลุ่มธนาคารยังอ่อนแอ ซึ่งถูกกดดันจาก NIM ที่แคบลงจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ Loan growth (%) 2 เดือนที่ผ่านมาติดลบ 0.6% อีกทั้งคาด NPL(%) ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะธนาคารที่มีฐานลูกค้าหลักเป็น SME อย่าง KBANK, TMB และสำหรับภาพของ SET เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามทิศทางค่าเงินอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก 3 วันที่ผ่านมา บาทอ่อนค่าอย่างมีนัยยะและค่อนข้างเร็ว ประกอบกับส่วนต่างของ bond yield 10 ปีสหรัฐและไทยที่แคบลง อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันให้นักลงทุนต่างประเทศชะลอการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
Investment theme: SET มีความพยายามเลี้ยงตัวเหนือเส้นเฉลี่ย 10 วัน เราแนะนำให้นักลงทุน Go with the flow และพิจารณาขายทำกำไรหาก SET ปรับตัวหลุดเส้น 10 วัน (3 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น 100 จุด ซึ่งสามารถเลี้ยงตัวไม่ได้หลุดเส้น 10 วันมาตลอด)
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา บัตรเครดิต Master card ยกให้กรุงเทพเป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน (อันดับ 2 คือ London) / ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องที่ 33.45 บาท/เหรียญสหรัฐ / สหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส2 ที่ สหรัฐรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 (ครั้งที่3) ที่ +3.1%QoQ จาก +3.0%QoQ และดีกว่าคาดที่ +3.0%QoQ และ Core PCE ไตรมาส2 ที่ 0.9%.
คาด PRINC , KCM เข้าเกณฑ์ Cash balance
บทวิเคราะห์วันนี้ : HMPRO (Analyst meeting)
Stock pick : HMPRO
HMPRO : ซื้อ 13.50 บาท
คาด SSSG พลิกเป็นบวก 1-2% ใน 3Q60 หลังจากติดลบมา 4 ไตรมาสติดต่อกัน
คาดกำไรสุทธิ 3Q60 เติบโต 13% YoY และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นใน 4Q60 ซึ่งไปไฮซีซั่นมียอดขายและกำไรสูงสุดของปี
แนวโน้มเติบโตมั่นคงโดยมีอัตรากำไรสูงขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้า Private brand อีกทั้งมีการขยายสาขาต่อเนื่อง เปิดสาขามาเลเซียครบ 6 แห่งในปลายปีนี้ซึ่งคาดจะทำให้ถึงจุดคุ้มทุนได้
Trading idea – SET เมื่อวานมีแรงขายทำกำไรหุ้นใหญ่หลายตัว คาดส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปิดสัญญา Block trade ของหุ้นใหญ่ ซึ่งเรามองว่าเป็นโอกาสของการทยอยสะสมอีกครั้ง เช่น IVL และ PTTGC เก็งกำไร TICON (16.70) / ชะลอแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม Commodity ภายหลังเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของจีน / เก็ง ESSO ลุ้นงบ 3Q60 สวย / เก็ง EA เด้ง (39-40) หลัง TDRI-สภาอุตฯ ลงนามเดินหน้าศึกษา Battery ระบบไฟทั่วประเทศ
Technical View
ระยะสั้นระวังการหลุดแนวรับ 1660 : กราฟรายชั่วโมงดัชนีอ่อนตัวลงในช่วงบ่าย ภายหลังช่วงเช้าดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซนแนวต้าน High เดิมที่ 1675-1678 แต่ที่แนวรับ 1660 ยังคงมีแรงซื้อกลับที่ดี ส่งผลให้ไม่ปิดหลุดแนวรับดังกล่าว ในระยะสั้นต้องเริ่มระมัดระวังแรง Take Profit ให้มากขึ้น โดยหากหลุดแนวรับที่ 1660 โดยจะมีแนวรับถัดไปที่ 1645-1650
กลยุทธ์การลงุทน (1) นักลงทุนที่มีหุ้น Lock Profit หากดัชนีหลุดแนวรับ 1650 (2) นักลงทุนที่ไม่มีหุ้น หากที่แนวรับ 1660 เริ่มมีแรงซื้อกลับ อาจเสี่ยงซื้อเล่น Rebound
แนวรับ : 1660, 1650 แนวต้าน : 1670, 1675
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : วันที่ 29 ก.ย. จีนประกาศ PMI วันที่ 29 ก.ย.
ปัจจัยในประเทศ : -
หุ้นเทคนิค:
AOT (B 58.00-58.50, Tp 60.00/63.00, Cut 57.00)
BCP (B 39.00, Tp 41.50, Cut 38.25)
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000