- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 September 2017 17:33
- Hits: 13550
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1665'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้บวกในช่วงเช้า แต่ถอยช่วงบ่ายหลังศาลฯมีคำพิพากษาตัดสินให้คุณยิ่งลักษณ์ติดคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญาในคดีรับจำนำข้าว แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ตลาดปิดทรงตัวที่ 1670.27 นลท.แต่ละกลุ่มซื้อ/ขายสุทธิไม่มาก
สำหรับวันนี้ ปัจจัยภายนอก : ทรัมป์เผยแผนปฎิรูปภาษีที่จะลดอัตราภาษีรายได้นิติบุคคลสหรัฐเป็น 20% จาก 35% และลดอัตราภาษีสูงสุดของบุคคลธรรมดาจาก 39.6% เป็น 35% ซึ่งการลดภาษีฯจะหนุนกำไรตลาดหุ้นสหรัฐให้เโตก้าวกระโดดจากปกติที่โต 6-7% ต่อปี...แต่ยังต้องดูต่อว่าแผนนี้จะคืบหน้าได้เร็วแค่ไหน ส่วนร่างกม.ประกันสุขภาพฉบับใหม่ (คาสซิดี-เกรแฮม) ติดตามว่าจะได้โหวต 30 ก.ย.นี้ตามแผนหรือไม่ เพราะมี 3 เสียงของวุฒิสมาชิกรีพับลิกันคัดค้านเรื่องนี้ (รีพับลิกันมี 52 เสียงจาก 100 เสียงในวุฒิสภา) ด้านราคาน้ำมันยังทรงๆ ในระดับสูงได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่หนุนกำไรกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี และกำไรตลาดหุ้นไทยใน 3Q60 ให้เพิ่มมาก YoY และ QoQ
ในประเทศ : ประชุมกนง.วานนี้ (27 ก.ย.) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ตามที่ตลาดคาดไว้ และธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 60/61 เป็น +3.8% จาก +3.5%/+3.7% ส่วนคำพิพากษาศาลฯที่ตัดสินให้คุณยิ่งลักษณ์ติดคุก 5 ปีในคดีรับจำนำข้าว โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
กลยุทธ์ลงทุน : เลือกซื้อ/ถือต่อ เมื่อ SET และราคาหุ้นอยู่เหนือ SMA10 (ในปัจจุบันอยู่ที่ 1665 จุด) หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (ช่วง 27 ก.ย.-3 ต.ค.60) ประกอบด้วย KBANK (Value Play) และ PTTGC (Cyclical Play) ส่วนหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรดีและมีสัญญาณเทคนิคบวกในช่วงนี้เป็น SEAFCO ซึ่งเราคาดว่ากำไร 3Q60 จะฟื้นตัวดี จากรับรู้รายได้เพิ่ม & มีงานใหม่เข้ามาต่อเนื่องโดยเฉพาะงานภาครัฐ ล่าสุดก.ย.60 ได้งานฐานรากคอนโดยูดีไลท์ จรัล 81 และรถไฟฟ้าสีส้มชุดแรกรวม 523 ลบ. แนวโน้มปี 61 คาดทำกำไรเป็น Record high (DBS คาดกำไรปี 60/61 โต 25%/48%) ความเสี่ยงธุรกิจ ถือว่าต่ำกว่ารับเหมาขนาดใหญ่เพราะระยะเวลาดำเนินงานสั้นทำให้มีปัญหา Cost overrun น้อยกว่า ส่วนการเข้ามาของผู้แข่งขันใหม่ไม่น่ากังวลนักเพราะจุดแข็งของธุรกิจคือแรงงานฝีมือ แนะซื้อ ให้ TP 16.10 บาท
การ SCAN หุ้นทางเทคนิค : หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ที่เข้ามาใหม่เป็น TMB, SEAFCO, PLAT, GLOW, MINT, GLOBAL, SINGER, RJH หุ้นยังอยู่ใน List คือ TCAP, PTTGC, SAWAD, SYNTEX, TICON, LOXLEY, BJC หุ้นหลุด List คือ MTLS, WHAUP ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น BEM HMPRO
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
+ สหรัฐ : ทรัมป์เล็งหั่นภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20%
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้เปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ตามเวลาสหรัฐในการปราศัยที่อินเดียนาโพลิส โดยเสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ 20% จากปัจจุบันที่ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6%โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ
# นอกจากนั้นยังมีแผนการปรับลดภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และยกเลิกนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มบุคคลที่ได้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีในรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต
+/- สหรัฐ : ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นดี แต่การทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายลดลง
# ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป +1.7%MoM ในเดือนส.ค. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์ และรถยนต์
# ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) -2.6%MoM ในเดือนส.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ในรอบ 6 เดือนและลดลงทุกภูมิภาค
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดบวกขึ้นรับแผนปฎิรูปภาษีครั้งใหญ่ทรัมป์
# ดัชนี DJIA ปิด +56.39 จุด หรือ +0.25% ดัชนี S&P500 ปิด +10.20 จุด หรือ +0.41% ดัชนี Nasdaq ปิด +73.10 จุด หรือ +1.15% หนุนโดยมาตรการปฏิรูปภาษีของทรัมป์ นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินที่จะได้รับประโยชน์เมื่อเศรษฐกิจเติบโตดี และเมื่ออัตราดอกเบี้ยสหรัฐเพิ่มขึ้น ล่าสุด 10-Year Bond yield สหรัฐเพิ่มเป็น 2.291% สะท้อนโอกาสสูงที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม หุ้นปันผลและหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงจากประเด็นดอกเบี้ยนี้
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาแกว่งในกรอบแคบ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ลดลง 54 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 57.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล จับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามคาด
# ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 27 ก.ย.60 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี (กรรมการ 1 ท่านลาประชุม)...คณะกรรมการฯเห็นว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมีเสถียรภาพปัจจัยหนุน คือ การส่งออกที่เติบโตดี และการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศที่กระจายตัวมากขึ้น ส่วนปัจจัยต้องระวังคือพฤติกรรม Search for yield ของผู้ออม/ลงทุนที่อาจนำไปสู่การประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร,ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและธุรกิจ SME โดยเฉพาะธุรกิจที่ถูกกระทบจากปัจจัยเชิงโครงสร้างและรูปแบบการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป, ผลกระทบจากการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว และการปรับขึ้นอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำ, ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจ & การค้าสหรัฐ, ความเสี่ยงจากปัญหาการเมืองระดับโลก
• ธปท.ปรับเพิ่มจีดีพีไทยปี 60/61 เป็นเติบโต 3.8% ทั้งสองปี
# ผลการประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ ณ เดือนก.ย.60 เทียบครั้งก่อนเดือนมิ.ย.60 พบว่าทางธปท.มีการปรับเพิ่มสมมติฐานดีขึ้นใน 1. อัตราการเติบโตของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็น +3.3% และ +2.3% (จากเดิม +3.1% และ +1.7%) สะท้อนการบริโภคที่ดีขึ้น และการส่งออกที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกทำให้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้มากขึ้น 2. ภาคส่งออก โดยปรับเพิ่มคาดการณ์มูลค่าส่งออกเป็น +8% และ +3.2% ในปี 60-61 (จากเดิม +5% และ +1.7%) เพราะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวดีขึ้น 3. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 60 เพิ่มเป็น 35.6 ล้านคน (เดิม 34.9 ล้านคน)
# ธปท.ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีของไทยปี 60/61 เป็น +3.8% และ +3.8% (จาก +3.5% และ +3.7%) สะท้อนการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าเดิมในส่วนของการบริโภค & การลงทุนภาคเอกชนและการส่งออก (ทั้งด้านปริมาณส่งออกและราคาส่งออก) รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้เร็วแม้จะมีการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญไปเมื่อปลายปีก่อน
• ศาลฯพิพากษาให้คุณยิ่งลักษณ์ติดคุก 5 ปีในคดีรับจำนำข้าว โดยไม่รอลงอาญา
# ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวานนี้ (27 ก.ย.60) ได้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย โดยมีคำสั่งจำคุก 5 ปีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีจำนำข้าวที่ถูกอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และความผิดกฎหมายป.ป.ช. โดยไม่รอลงอาญา
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]