- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 September 2017 16:35
- Hits: 10252
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กนง.คงดอกเบี้ยและปรับเพิ่ม GDP ช่วยรักษาโมเมนตัมการเก็งกำไรเชิงบวก
หุ้นสหรัฐฯ ได้อานิสงค์จากแผนปฏิรูปภาษี ซึ่งรวมถึงแผนการปรับลดภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และยกเลิกนโยบายลดหย่อนภาษีสำหรับบางกลุ่ม ทำให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการสำหรับบจ,ที่มีฐานในสหรัฐฯ อาทิ IVL, TU อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯอาจจะเป็นแรงกดดันหุ้นตลาดเกิดใหม่และเอเชียซึ่งหากนับจากต้นปี ยังคง Outperform ตลาดพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
SET Index อยู่ในบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการแกว่งตัว อย่างไรก็ตามเราคาดจิตวิทยาตลาดช่วงสั้นยังคงบวกจาก 1) การตัดสินคดีจำนำข้าวของอดีตนายกฯ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือการต่อต้านที่กระทบเสถียรภาพการเมือง 2) กนง.มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5%ต่อปี 3) ธปท.ปรับเพิ่มเป้าหมาย GDP ขึ้นเป็น 3.8% (จาก 3.5%) ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มบริโภคโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดย top pick ของเราคือ BBL, KBANK และ KTB ทางกลยุทธ์เราชอบ SCB ซึ่งยังคง laggard ที่สุดในกลุ่ม
Investment Theme 1) หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคายังขึ้นน้อย (Laggard) เช่น PTT BANPU SCC CPALL CPF SCB BLA* CK KCE BDMS และ 2) หุ้นที่โมเมนตัมช่วงสั้นเป็นบวก AMATA, KCAR*, TK*, ILINK*, JWD*, TWPC*, SLP*, MC*, GCAP*, SIMAT*, CSS*, KCAR*
ภาพรวมกลยุทธ์: ระยะสั้นเพิ่มความระวังในการเลือกและหมุนตัวเก็งกำไร หลังหุ้นไทยเริ่มไม่ laggard ตลาดโลก การยืน 1671 ไม่ได้ ทำให้ดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบ 1660 และ 1650 จุด เน้นการเก็งกำไรแบบตั้งจุดตัดขาดทุน // หุ้นแนะนำ IVL, MILL*, SMT*
ประเด็นการลงทุน
โภคภัณฑ์ – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นหลังได้รับปัจจัยหนุนจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดลง / ราคาโลหะทรงตัว / ราคาสินค้าเกษตรปรับลดลง / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,429.00 จุด (-3.18%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 97.25 เหรียญต่อตัน (+0.26%)
กนง.คงดอกเบี้ย+ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP – กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อปีตามคาด พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ขึ้นเป็น 3.8% (จากเดิม 3.5%) ในปีนี้ และ 3.8% ในปีหน้า
เปิดแผนการปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ – ปธน.ทรัมป์เผยถึงแผนมาตรการปฏิรูปภาษีในคืนที่ผ่านมา โดยเสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ
ไทยเที่ยวไทยลดลง 20% – สทท.เผยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศลดลง 20% ในไตรมาส 3/60 และในไตรมาส 4/60 นักท่องเที่ยวมีการวางแผนท่องเที่ยวเพียง 25% ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับปี 56-58 สาเหตุหลักมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังคงซบเซา
ดีกรีการแข่งขันไทยขึ้น 2 อันดับ – รัฐบาลเผย WEF ปรับเพิ่มอันดับความสามารถทางการแข่งขันของไทยปี 2560 ขึ้น 2 อันดับ เป็น 32 จาก 137 ประเทศทั่วโลก โดยมีคะแนนเรื่องของเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นสำคัญ
ประเด็นติดตาม: 28 ก.ย. – 2Q17 GDP สหรัฐฯ / 29 ก.ย. – 2Q17 GDP อังกฤษ / เงินเฟ้อยูโรโซน
แนวรับ : 1660 / แนวต้าน : 1677 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH)