- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 September 2017 16:26
- Hits: 10167
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แกว่งตัวผันผวนที่ยังยืนบวก ขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1675.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.69 จุด ก่อนที่ช่วงบ่ายเผชิญแรงขายจากกลุ่มพลังงาน การเงิน และขนส่ง กดดัชนีไหลลงเข้าสู่แดนลบ ทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1663.17 จุด ลดลง 6.58 จุด กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 12.27 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ที่ช่วยดัชนีขึ้นมาปิดบวก ได้แก่ SSP, MINT, CBG, KBAN, KCE, ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1670.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.52 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 54,855 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้แกว่งตัวผันผวนในกรอบที่ค่อนข้างกว้าง ด้วยการเปิดตัวยืนบวกขึ้นทำ High 1675 จุด ขณะที่มี Low 1663 จุด ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาทำปิด 1670 จุด จากภาพของดัชนีที่มีผันผวนที่ยังอยู่ในเชิงบวก และกลับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5/10 วันได้ ทำให้มีมุมมองที่ดัชนีน่าจะมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวนที่อิงทางบวกอยู่ แต่ยังคงมีแนวต้านที่ยังจำกัด แนวต้าน 1676-1680 จุด และ แนวรับ 1660-1665 จุด
แกว่งตัวผันผวนในอิงทางบวก
Support 1660-1654 // 1634 จุด Resistance 1690-1700 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
ปลดปัจจัยถ่วง แต่เป็นห่วงแค่ Fund Flow
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯ sideway ในกรอบแคบ .... ผลจากการประกาศลด QE ที่ส่งผลต่อ Flow ของเงินลงทุนในตลาดหุ้นและพันธบัตรเอเซียที่ลดลง ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุน แรงซื้อในตลาดอาจยังไม่มากนัก แม้จะมีปัจจัยในเชิงบวกของตลาดเข้ามาทั้งในเรื่องทิศทางการเมืองที่น่าจะมีความนิ่งมากขึ้น และการคงดอกเบี้ยของ กนง. พร้อมปรับ GDP ปีนี้เพิ่มจาก 3.5% เป็น 3.8% เข้ามาในช่วงนี้ก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน : 2 event สำคัญของไทยผ่านไปแล้ว คือ คดีจำนำข้าวและประชุม กนง. ผลออกมาในเชิงบวก แต่ดัชนีฯ คาดยังทรงๆตัวและมีแรงซื้อเข้ามาเป็นรายกลุ่ม คำแนะนำโดยรวม คือ ปรับเป็นถือ เพื่อรอให้ดัชนีฯมีทิศทางที่ชัดเจน หรือหลุดจากแนวต้าน-รับ สำคัญที่ 1670 จุด ไปก่อน หรือเข้าเก็งกำไร ตามหุ้นที่จะมีแรงซื้อเข้ามาในวันนี้ อาทิ กลุ่มส่งออก (เงินบาทอ่อนค่า ล่าสุด 33.27 บาท/ดอลล่าร์) กลุ่มน้ำมัน (PTTEP, TOP) และแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ได้อานิสงค์จากการปรับขึ้น GDP ของ ธปท. และความกังวลต่อมาตรการใหม่ของธปท. ต่อ 5 ธนาคารใหญ่ที่คาดจะลดลง
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ SGP*, SINGER, ROJNA*, RJH, COL, HANA
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : DTAC, SGP, KW
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) กลุ่มค้าปลีก การบริโภคฟื้นตัวขึ้น, Overweight, Top Pick: CPALL เป้าหมาย 79 บาท โตจากการขยายสาขา มี SSSG ผันผวนน้อย และ ROBINS เป้าหมาย 79 บาท มีฐานรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (27 ก.ย.) ปิดที่ระดับ 1,670.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.52 จุด หรือ +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 54,854.99 ล้านบาท ตลาดหุ้นมีแรงขายในช่วงท้ายตลาด มองเป็นการทำกำไรในช่วงสั้น ขณะที่ผลการประชุม กนง. เป็นบวกต่อตลาด
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,340.71 จุด เพิ่มขึ้น 56.39 จุด หรือ +0.25% ตลาดได้รับแรงบวกจากการเสนอแผนการปรับลดภาษีนิติบุคคลของ ปธน. ทรัมป์ และแรงซื้อจากหุ้นกลุ่มการเงิน .... เช่นเดียวกับ Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 385.62 จุด
ปัจจัยต่างประเทศ : ประเด็นบวกจากการเสนอแผนปฎิรูปภาษีของ ปธน. ทรัมป์ ปธน. ทรัมป์ เปิดเผยมาตรการปฏิรูปภาษีเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยปธน.ทรัมป์เสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6% คาดว่าแผนการปฏิรูปภาษีดังกล่าวจะเสนอต่อวุฒิสภาภายในสัปดาห์นี้ หากมติดังกล่าวสามารถผ่านสภาฯ คาดจะส่งผลบวกต่อตลาดโดยรวม …. ด้านประเด็นเกาหลีเหนือ เป็นบวกมากขึ้น หลังประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านอีก 4 พรรคได้บรรลุข้อตกลงในความพยายามลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
ราคาน้ำมันดิบปรับมีทิศทางที่ดี เป็นบวกต่อหุ้นไทย สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น จาก demand ภายในของสหรัฐฯที่สูงขึ้น เรามีมุมมองเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบมากขึ้นหลังกลุ่ม OPEC มีการตกลงปรับลดกำลังการผลิต เป็นบวกต่อหุ้นผู้ผลิตน้ำมันอย่าง PTTEP
ปัจจัยในประเทศ : ผลการประชุม กนง. เป็นบวกต่อตลาด ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 27 ก.ย.60 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ กนง. ยังปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้เพิ่มเป็น 3.8% จากเดิม 3.5% เรามองประเด็นดังกล่าวเป็นบวกต่อกลุ่มแบงก์ ….
คดีจำนำข้าว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติเอกฉันท์พิพากษาโทษจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริตจำนำข้าว เป็นเวลา 5 ปี ไม่รอลงอาญา
นายกรัฐมนตรีของไทย จะเข้าหารือกับ ก.พาณิชย์ของสหรัฐฯ คาดจะมีการคุยในเรื่องสำคัญ 4 เรื่อง คือ การประมงที่ผิดกฎหมาย , ความปลอดภัยในระบบการบินของไทย การค้ามนุษย์ และการละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้ง เข้าพบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 3 ต.ค.
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
SGP*(ราคาปิด 19.50) ราคา LPG อยู่ที่ระดับ 488 เหรียญ ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อน 52 เหรียญ หรือ +12% ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานของ SGP ใน 3Q-17 น่าจะมีกำไรจาก Stock gain เข้ามา อีกทั้ง การเปิดเสรีนำเข้า LPG ของไทย ทำให้บริษัทสามารถนำเข้า LPG เองได้แล้ว ... บริษัทยังมีแผนการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น เมียนมา, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, และบังคลาเทศ และมีการร่วมลงทุนสำหรับโรงไฟฟ้าขนาด 230 เมกะวัตต์จะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงเวลาอันสั้นนี้
SINGER(ราคาปิด 13.70) จากการที่เศรษฐกิจส่วนภูมิภาคปรับตัวขึ้นมา และเรามองความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนส.ค.ที่ปรับตัวขึ้นมาสวนทางกับที่เราคาดว่าจะอ่อนตัวลง จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ SINGER ปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง .... คาดการณ์กาไรสุทธิปี 2017 ปีนี้ลดลง -53.4% ที่ 56 ล้านบาทเป็นผลมาจากการเปลี่ยนการบริหารลูกหนี้และค่าใช้จ่ายในการตั้งสารองที่เพิ่มขึ้นแต่คาดว่าคาดว่าผลประกอบการปี 2018 จะกลับมาเติบโตสูงที่ +262% YoY ที่ 202 ล้านบาท .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 13.80 บาท)
ROJNA*(ราคาปิด 5.95) ได้ประเด็นบวกจากมูลค่าการลงทุนใน EEC ภายในปี 2017 ที่ประกาศออกมาสูงถึง 27,700 ล้านบาท สนับสนุนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่ง TICON (ROJNA ถืออยู่ 26.10%) มีพื้นที่นิคมฯในเขต EEC …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 1,158 ล้านบาท เติบโตมากถึง +898% YoY …. (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 7.20 บาท)
RJH(ราคาปิด 26.25) มองช่วงไตรมาสนี้จะสู่ช่วงไฮซีซั่นของกลุ่มโรงพยาบาลจากไข้หวัดพบได้สูงขึ้น.... เราปรับกำไรปกติขึ้นจากเดิม 7.5% เป็น 215 ล้านบาท (+38.8% YoY) กการปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูงของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็น 12,800 บาท/RW จากเดิมอยู่ที่ 10,000 บาท/RW .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 33.00 บาท)
COL(ราคาปิด 60.25) คาดนักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไร COL สำหรับการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายหุ้น (ธุรกิจ online) คาดการณ์ กำไรจากการขายหน่วยลงทุนที่ 129 ล้านบาท .... คาดกำไรสุทธิรวมทั้งหมดของปี 2017 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 554 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว +44.0% YoY โดยเราคาดกำไรสุทธิช่วง 2H17 ที่ 325 ล้านบาท (+81% YoY, +42% HoH) .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 63.00 บาท)
HANA(ราคาปิด 47.00) ราคาหุ้นเริ่มมีสัญญาณการฟิ้นตัวจากการคาดการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ล่าสุด 33.2 บาทต่อดอลล่าร์ .... ไตรมาส 3 จะเป็นช่วง High season ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่า HANA จะมีผลประกอบการ 2H17 สูงกว่า 1H17 คาดกำไรสุทธิทั้งปี 2017 ที่ 2,932 ล้านบาท เติบโต 39.3% YoY …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 57.00 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) กลุ่มธนาคาร วานนี้ กนง.ประกาศคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เพื่อให้เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเห็นว่าภาวะการเงินโดยรวมอยู่ในระดับผ่อนคลาย และสภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ มีผลให้ภาคธุรกิจสามารถระดมทุนผ่านสถาบันการเงินและตลาดทุนได้เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่าที่ประเมินไว้ตามราคาอาหารสดที่เพิ่มขึ้นได้ช้า แต่มีการปรับประมาณการณ์การ GDP ในปีนี้จาก 3.5% เป็น 3.8% และปีหน้าจาก 3.7% เป็น 3.8%
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการคงอัตราดอกเบี้ย แต่มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อการปรับตัวเลข GDP เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มธนาคาร เพราะการเติบโตของสินเชื่อจะเติบโตได้ตาม GDP โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ โดยเรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารเป็น "เท่ากับตลาด" โดยมี BBL เป็น Top pick เนื่องจากเป็นธนาคารที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากภาพรวมของเศรษฐกิจที่เติบโต ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 222 บาท
(+) กลุ่มค้าปลีก การจับจ่ายใช้สอยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นของยอดขายของสาขาเดิมของกลุ่ม (same store sale growth-SSSG) เนื่องจากเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึงภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่ดีขึ้น เราให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด
หุ้น Top Pick ได้แก่ CPALL เป้าหมาย 79 บาท ซึ่งจะเติบโตจากการขยายสาขาโดยมี SSSG ที่ผันผวนน้อย และ ROBINS เป้าหมาย 79 บาท จากการที่มีฐานรายได้ค่าเช่า Lifestyle Center เพิ่มขึ้น และการพัฒนาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
Source : KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]