- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 September 2017 15:23
- Hits: 2476
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET & ราคาหุ้นเหนือ SMA10'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้บวกต่อเล็กน้อย (+2.16 จุดปิดที่ 1669.75) หลักๆ เป็นลักษณะของการเลือกซื้อรายบริษัท นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1.1 พันล้านบาท รายย่อยและพอร์ตบล.ขายสุทธิ ส่วนต่างชาติซื้อสุทธิเพียงเล็กน้อย
สำหรับวันนี้ ปัจจัยภายนอก : ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไปในการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองคลีฟแลนด์...ล่าสุด CME Group FedWatch ระบุความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.เพิ่มเป็น 78% จาก 40% ในเดือนก่อน ส่งผลให้ค่าเงิน US$ แข็งขึ้นต่อ ราคาทองจึงร่วงเมื่อคืนนี้ ปัจจัยจับตา คือ การโหวตร่างกม.ประกันสุขภาพฉบับใหม่ (คาสซิดี-เกรแฮม) ของสหรัฐ ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นเพราะมีสมาชิกรีพับลิกันอย่างน้อย 3 เสียงคัดค้าน (รีพับลิกันมี 52 เสียงจาก 100 เสียงในวุฒิสภา) และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี
ในประเทศ : ประชุมกนง.วันนี้ (27 ก.ย.) คาดจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ด้านเงินบาทอ่อนลงหลังเงิน US$ แข็งขึ้น ทำให้ Sentiment หุ้นส่งออกดีขึ้น (หุ้นเด่น KCE, HANA, GFPT) ส่วนการอ่านคำพิพากษาศาลคดีรับจำนำข้าวคุณยิ่งลักษณ์วันนี้ (27 ก.ย.) คาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงและไม่กระทบตลาด สำหรับประกาศ 2 ฉบับเรื่องธ.พ.ที่มีนัยความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศไม่น่ามีผลต่อตลาดเพราะทุกฝ่ายเร่งสื่อสารทำความเข้าใจว่าธนาคารใหญ่ 5 แห่งที่อยู่ใน List คือ BAY, BBL, KTB, KBANK, SCB ได้รับผลกระทบจำกัดมากๆ เนื่องจากมีอัตราส่วนเงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธปท.กำหนดไว้ ณ 1 ม.ค.62 และ 1 ม.ค.63 อยู่แล้ว
กลยุทธ์ลงทุน : เลือกซื้อ/ถือต่อ เมื่อ SET และราคาหุ้นอยู่เหนือ SMA10 (ในปัจจุบันอยู่ที่ 1660 จุด) สำหรับหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (ช่วง 27 ก.ย.-3 ต.ค.60) ประกอบด้วย KBANK (Value Play) และ PTTGC (Cyclical Play) ส่วนหุ้นแนะนำสัปดาห์ก่อนพบว่าราคา MINT ทรงตัวเหมือนกับ SET Index แต่ TISCO +4.0% ดีกว่าตลาด สำหรับ SENA ถ้าถือต่อมาถึงเมื่อวานนี้ก็ +2%
การ SCAN หุ้นทางเทคนิค : หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ที่เข้ามาใหม่เป็น SAWAD, SYNTEC, TICON, LOXLEY, BJC, BEM, HMPRO, WHAUP หุ้นยังอยู่ใน List คือ TCAP, MTLS, PTTGC หุ้นหลุด List คือ MCS, VIBHA ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น SAMTEL, RS, TISCO, IRPC, BCP
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไป
# นางเยลเลนประธานเฟดได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าแม้เงินเฟ้อยังอยู่ในทิศทางที่ไม่แน่นอน แต่ก็จะเป็นการไม่เหมาะสมที่เฟดจะคงนโยบายการเงินไว้จนกระทั่งอัตราเงินเฟ้อแตะระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%
# CME Group ระบุว่าจากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 78% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 40% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
- สหรัฐ : วุฒิสภาอาจไม่จัดการลงมติร่างกม.ประกันสุขภาพฉบับใหม่เพราะมีรีพับลิกัน 3 คนคัดค้าน
# มีรายงานล่าสุดระบุว่าบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสประกาศว่า วุฒิสภาจะไม่จัดการลงมติต่อร่างกฎหมาย "คาสซิดี-เกรแฮม" เนื่องจากวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน 3 คนแสดงการคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งได้แก่ นางซูซาน คอลลินส์, นายจอห์น แมคเคน และนายแรนด์ พอล
# การที่วุฒิสภาไม่จัดการลงมติต่อร่างกฎหมายคาสซิดี-เกรแฮมเมื่อวานนี้ ส่งผลให้สภาคองเกรสไม่มีโอกาสที่จะปฏิรูปกฎหมายประกันสุขภาพในปีนี้ เนื่องจากหลังจากนี้สภาคองเกรสจะพิจารณากฎหมายปฏิรูปภาษี
- สหรัฐ : ยอดขายบ้านใหม่ & ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนก.ย.
ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค. -3.4%YoY สู่ระดับ 560,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.59 ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลง สู่ระดับ 119.8 ในเดือนก.ย. อันเนื่องมาจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา
• สหรัฐ vs เกาหลีเหนือ : ยังคงใช้สงครามวาจากันต่อไป
# ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่าสหรัฐได้มีการ "เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่" ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อเกาหลีเหนือ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น เพื่อรับมือกับประเด็นนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
• ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีบวก/ลบไม่มาก..."เยลเลน" พูดชัดเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
# ดัชนี DJIA ปิดลดลง 11.77 จุด หรือ -0.05% ดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้น 0.18 จุด, +0.01% และดัชนี Nasdaq ปิด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.15% ทั้งนี้ประธานเฟดระบุค่อนข้างชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไปและตลาดกังวลกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ
• ภาวะตลาดน้ำมัน : แรงขายทำกำไรทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวประมาณ 1%
# นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนในช่วงก่อนหน้านี้ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ชาวเคิร์ดเดินหน้าทำประชามติแยกตัวเป็นอิสระจากอิรัก
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 51.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ลดลง 58 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 58.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ภาวะตลาดทองคำ : ราคาร่วงจากแรงขายทำกำไร
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.80 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ระดับ 1,301.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยกดดัน คือ การแข็งค่าขึ้นของเงิน US$ หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยค่อนข้างชัด
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• ADB คงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 60 โต 3.5% ปีหน้าโต 3.6%
# ADB ยังคงประมาณการจีดีพีไทยปี 60 เติบโต 3.5% ตามตัวเลขคาดการณ์เดือนเม.ย.60 และปีหน้าขยายตัว 3.6% หนุนโดยการส่งออกที่เติบโตดีขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 5% ในปีนี้และ 7% ในปี 61 เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวรวมถึงการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น สำหรับผลกระทบค่าเงินบาท เชื่อว่าไม่มากเพราะปัจจุบันผู้ส่งออกปรับตัวได้จากเครื่องมือบริหารความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน
# สำหรับเศรษฐกิจโลก ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จาก 4.8% เป็น 5.0% ในปี 60 และปรับจาก 5.0% เป็น 5.1% ในปี 61 เพราะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการค้าอิเลคทรอนิกส์การเกษตร การลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (FDI) และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
• ธปท.ยืนยัน 5 ธนาคารใหญ่มีฐานะเงินกองทุนแข็งแกร่ง ประกาศ 2 ฉบับเป็นไปตามหลักสากล
# ธปท.ขอให้ธนาคารพาณิชย์ส่งรายงานรายการฝากเงินถอนเงินรายวันให้ธปท.ดูในช่วงนี้ เพราะกังวลว่าประชาชนจะเปิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนกรณีที่ธปท.ออกประกาศ 2 ฉบับเรื่องแนวทางการระบุและกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศประจำปี 2560 ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลประกอบด้วย 5 แบงค์ใหญ่ คือ BAY, BBL, KTB, KBANK, SCB (ทั้งนี้ 5 ธนาคารใหญ่เหล่านี้มีสินทรัพย์คิดเป็น 70% ของระบบธนาคาร ถือว่ามีนัยต่อระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมาก)
# ทาง DBS เห็นว่าธนาคารทั้ง 5 แห่งมีฐานะเงินกองทุนที่มั่นคงแข็งแรง และมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมด (Total capital ratio) เฉลี่ยสิ้นมิ.ย.60 ที่ 17.9% (แบงค์ใหญ่ 17.3%) มากกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธปท.กำหนดไว้ตามประกาศ 2 ฉบับใหม่ที่ 11.5% ณ 1 ม.ค.62 และ 12.0% ณ 1 ม.ค.63 เป็นต้นไป อย่างมีนัยสำคัญ (ดูรายละเอียดในตารางด้านล่าง) และเงินกองทุนฯ จะเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อรวมผลกำไรของธนาคารในงวด 2H60, ปี 2561 และปี 2562
• วันนี้ (27 ก.ย.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวคุณยิ่งลักษณ์
# นายกรัฐมนตรีระบุว่ารู้ว่าคุณยิ่งลักษณ์อยู่ที่ไหน โดยจะบอกหลังวันนี้ (27 ก.ย.) ซึ่งศาลฯนัดอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าว ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก สมช.ฟันธงมวลชนมาฟังศาลตัดสินคดีจำนำข้าวไม่มาก เพราะผิดหวังที่คุณยิ่งลักษณ์หนีออกนอกประเทศ คาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงในวันนี้ อย่างไรก็ตามทางผบ.ตร.ยังให้กำลังตำรวจคุมเข้มเหมือนวันที่ 25 ส.ค.60 ส่วนตำรวจที่พาคุณยิ่งลักษณ์หลบหนี จ่อผิดวินัย รอฟันอาญา (ที่มา : แนวหน้า)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]