- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 September 2017 16:55
- Hits: 1173
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบแนวรับ 1650
SET Index: 1670.07 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1675 จุด ก่อนที่จะปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรมาปิดที่บริเวณ 1670 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแนวต้านสำคัญ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่ 1650 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นและมีแนวรับถัดไปที่ 1620 จุด
แนวต้าน : 1672 และ 1674
แนวรับ : 1665 และ 1660
BANPU = 17.70 / 18.00, GL = 20.80 / 21.50, PTTEP = 90.50 / 91.00, PTT = 414 / 420, SCC = 500 / 504
Ladprao General Hospital (LPH TB; THB 8.55) – ซื้อ
แนวต้าน : 8.90 และ 9.00
แนวรับ : 8.55 และ 8.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ LPH โดยมีแนวรับที่ 8.55 และ 8.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 8.90 และ 9.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 8.35 ลงไป
Loxley (LOXLEY TB; THB 3.40) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.54 และ 3.60 / แนวต้านสำคัญ 3.88
แนวรับ : 3.40 และ 3.36
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ LOXLEY โดยมีแนวรับที่ 3.40 และ 3.36 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.54 และ 3.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.28 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ประเมินตลาดเทียบภูมิภาค
การประเมินความถูกความแพงของตลาดหุ้นไทยผ่านดัชนี MSCI Thailand เทียบกับภูมิภาคดัชนี MSCI Asia ex Japan และดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชีย (MSCI EM Asia) จากรูปด้านซ้ายและขวา โดยในส่วนของตลาดหุ้นไทยเทียบภูมิภาคเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น พบว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นไทย ยังเล่นกันที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าที่สูงกว่าที่ 14.7 เท่า เทียบภูมิภาคที่ 13.1 เท่า แต่อัตราการทำกำไรของตลาดต่ำกว่าค่อนข้างมาก โดยอัตราการทำกำไรของตลาดในอีก 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดหุ้นไทยโตแค่ 8% เทียบภูมิภาคที่โตถึง 13.4% คล้ายๆกับเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเกิดใหม่เอเชีย แต่ที่ถือว่าดีขึ้นมากๆ คือ แนวโน้มจำนวนหุ้นที่ถูกปรับกำไรเพิ่มมีสูงขึ้น (Earning momentum ratio)
การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand รูปดอลลาร์) ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้วิ่งขึ้นได้ดีที่สุดในอาเซียน (YTD) สะท้อนมุมมองในเชิงบวกกับตลาดที่ค่อนข้างจะเร็ว ถือเป็นปัจจัยบวกกับตลาด แต่น่าจะยังเป็นแค่ช่วงสั้นๆ จนกว่าจะเห็นผลการดำเนินงาน Q3/17 ภาพดังกล่าวดูได้จากตอนนี้เกิดมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศ ที่ยังมองว่าการขึ้นของดัชนี SET จะเป็นแค่ในช่วงสั้น เพราะยังต้องติดตามดูผลการดำเนินงาน ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ เหตุการณ์ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือและการประชุม กนง. หากเกิดมีการลดดอกเบี้ย ตลาดน่าจะรีบาวน์ในช่วงสั้นแล้วลงต่อ เนื่องจากน่าจะมีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารออกมา สลับมีแรงซื้อหุ้น อสังหาสร้างบ้าน ลิสซิ่ง ค้าปลีกและผู้ส่งออก แต่หากยังคงดอกเบี้ยก็จะมีแรงซื้อช่วงสั้นหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์
มุมมองตลาดหลังดัชนี SET ลงมาแกว่งที่ใกล้ระดับ 1670+/- จุด เรามองว่าหากหลุดหรือยืนไม่ได้ ดัชนี SET น่าจะลงมาเล่นที่บริเวณ 1650+/- จุด ดัชนีบริเวณนี้จะลงหรือรีบาวน์กลับ ต้องดูงบ Q3/17 ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์และทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ เป็นหลัก โดยแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ คาดจะยังมีต่อ ทั้งจากทำกำไรในช่วงสั้นและจับตาดูว่า ธปท. จะมีมาตรการอะไรที่จะยับยั้งการแข็งตัวของเงินบาทหลังพบว่ามีการนำเงินเข้ามาเก็งค่าเงินบาท
กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะคึกคักขึ้นในอาทิตย์นี้ คือ กลุ่มอสังหาสร้างบ้าน ลิสซิ่ง ค้าปลีก ส่งออกและธนาคารพาณิชย์ แต่เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ซึ่งต้องติดตามผลการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ กลยุทธ์ในช่วงนี้ยังให้ Wait& See ไปก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาน้ำมัน แรงซื้อ-ขายของต่างชาติและมาตรการของ ธปท.
คาดดัชนี SET จะยังแกว่งในกรอบแคบๆ ทั้งแดนบวกและลบไปถึงวันพรุ่งนี้ (การประชุม กนง.) ที่จะเห็นทิศทางชัดขึ้นว่าจะลงต่อหรือรีบาวน์ต่อ โดยวันนี้ดัชนีจะค่อยๆ มีแรงขายหุ้นทำกำไรออกมา โดยมองแนวต้านที่ 1672-1676 จุดและแนวรับที่ 1662-1658 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPALL TRUE SPRC CPF LH
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,670.07 จุด เพิ่มขึ้น 2.48 จุด (+0.15%) มูลค่าการซื้อขาย30,155.93 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น โดยมีแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันโลกดีดขึ้น และการรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯลดลงต่อเนื่อง ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งลบ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด (คืนนี้) และการประชุมกนง. (พรุ่งนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งขึ้น ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากทิศทางราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้สามารถมาพยุงตัวอยู่ในแดนบวกได้ต่อเนื่อง เพราะโครงสร้างการทำกำไรของบริษัทในประเทศอิงกับทิศทางราคาพลังงานค่อนข้างมาก หากมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น มักจะส่งผลให้การทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนฟื้นตัวขึ้นมากกว่าปกติ ปัจจัยดังกล่าวเราคาดว่าจะทำให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาพักในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ ในระหว่างที่มีความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ระยะสั้น SET มองแกว่งตัวในกรอบ 1672-1675 จุด แนวรับ 1666-1660 จุด ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัว แนะนำTRUE, PTTGC, CPF, PTT
Technical Pick (PM) ...
Ladprao General Hospital (LPH TB; THB 8.55) – ซื้อ
Loxley (LOXLEY TB; THB 3.40) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
