- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 September 2017 17:08
- Hits: 2338
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
SMID Cap
Smart Pick
1. สะสม TPIPP : ราคาปิด 7.35 บาท ราคาเหมาะสม 8.20 บาท
a) มี Catalyst รออยู่ คือการเริ่มจ่ายไฟของโรงไฟฟ้าขยะและความร้อนทิ้งจำนวน 90MW ที่คาดว่าจะ COD ได้ตามกำหนดในวันที่ 2 ตุลาคม 2560
b) คาดกำไรปกติ 3Q60 ทรงตัว QoQ เนื่องจากไม่มีโรงไฟฟ้าใหม่เข้าสู่ระบบในไตรมาสนี้ แต่กำไรปกติ 4Q60 คาดว่าจะทำระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าใหม่ 90MW และผลักดันกำไรให้เติบโต YoY ไปถึง 3Q61
c) Growth สูง และเงินปันผลเด่น คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +108% YoY เป็น 6,478 ล้านบาท และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ 5% ต่อปี และ Valuation ยังไม่แพงที่ระดับ PER2561 เพียง 9.5 เท่า
2. สะสม TKS : ราคาปิด 14.20 บาท ราคาเหมาะสม 17.90 บาท
a) คาดกำไรสุทธิ 2H60 จะเติบโตสูง +47% YoY เป็น 333 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้งานวางระบบให้การไฟฟ้าลาว, งาน Packaging ใหม่ และเข้าสู่ High Season ของธุรกิจโรงพิมพ์
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 3Q60 ของ SYNEX ที่เป็นบริษัทร่วมและ TKS ถือหุ้นสัดส่วน 38.5% จากยอดขายของ Huawei Smart Phone ที่เติบโตต่อเนื่อง หลังกระแสตอบรับของ Iphone8 ไม่โดดเด่นเหมือนที่คาดการณ์ก่อนหน้า
c) อิงราคาปิด SYNEX ปัจจุบันที่ 14.60 บาท เทียบเท่ามูลค่าต่อหุ้น TKS ที่ 12.02 บาท สะท้อนให้เห็นว่าหุ้น TKS ยัง Undervalue เนื่องจากให้มูลค่าของธุรกิจที่เหลือ ได้แก่ โรงพิมพ์, Label และงานวางระบบเพียง 2.18 บาท เทียบกับค่าสถิตย้อนหลังที่ให้มูลค่าธุรกิจที่เหลือราว 4 บาท
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลดลง 11.44 จุด ปิดที่ 1659.05 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6.4 หมื่นล้านบาท กดดันจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT (-1.93%), AOT (-2.11%), PTTEP (-2.48%) และ KBANK (-1.9%) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติ และสถาบันในประเทศขายสุทธิทั้ง 2 กลุ่ม ราว 2 พันล้านบาท และ 804 ล้านบาทตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 2.1 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศที่มีสถานะ Short สุทธิราว 5.3 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 5.7 หมื่นสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
SET INDEX เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง โดยปรับฐานกว่า 11 จุดวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมแรงขายทั้งกลุ่มสถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ และตลาด SET50 Index Futures คาดนักลงทุนต่างชาติเร่งปิดสถานะ Short มากถึง 2.1 หมื่นสัญญา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสัญญา S50U17 จะซื้อขายวันสุดท้ายในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ด้านทิศทาง SET INDEX วันนี้ เราคาดแกว่งตัวในกรอบ 1650-1665 จุด
สัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3 เราไม่คาดหวังการทำ Window Dressing เพื่อปิดงวดบัญชีของกลุ่มสถาบันในประเทศ ในทางกลับกัน มีโอกาสที่นักลงทุนกลุ่มนี้ จะขายเพื่อล๊อคกำไร เพราะ SET INDEX ขึ้นมามากถึง 5.4%QTD และกองทุนในประเทศ ซื้อสุทธิสะสมไปแล้วกว่า 8.4 พันล้านบาท QTD
ความผันผวนของตลาดหุ้นโลก เพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้น ตามความตึงเครียดบนความสมุทรเกาหลี หลังจากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตอบโต้ทางวาจาระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ ประกอบกับ สหรัฐฯแสดงแสนยานุภาพทางทหารด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดบินเข้าใกล้น่านน้ำของเกาหลีเหนือ ทำให้เรามองว่า หุ้น Defensive เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า-สาธารณูปโภค (TPIPP/ WHAUP) เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงนี้ ร่วมกับ หุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ผลการเลือกตั้งเบื้องต้น พรรค CDU ของนายกฯ Merkel ชนะเสียงข้างมากรวมกับพรรค CSU ได้ที่นั่งด้วยคะแนนเสียง 32.5%
Moody's ลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงจาก AA1 เป็น AA2
สหรัฐฯเตรียมออกกฏห้ามประชาชนชาวเกาหลีเหนือเข้าประเทศ
ผลการประชุม OPEC และ Non-OPEC มีความเห็นตรงกันในการขยายระยะเวลาควบคุมการผลิตน้ำมันดิบ โดยจะตกลงกันอีกครั้งในเดือน ม.ค. 61
ติดตามการประชุม กนง. และการอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าว วันที่ 27 ก.ย.
ติดตามการรายงาน GDP สหรัฐฯ 2Q60 รอบ 3 วันที่ 28 ก.ย.
ติดตามการรายงาน GDP อังกฤษ 2Q60, PMI จีน และเงินเฟ้อ EU 29 ก.ย.
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 29 ก.ย.
ติดตามความคืบหน้าการปรับโครงสร้างภาษีนิติบุคคลสหรัฐฯ และนโยบาย American Healthcare
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Assistant Strategist