WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกซื้อหุ้นพื้นฐาน
  วานนี้สนช.มีมติเอกฉันท์โหวดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกฯคนที่ 29 ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ และมองว่ามีผลต่อ SET ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่ 1555.71 จุด หลังจากนั้นตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบ +/-6.55 จุด ท้ายตลาดปิดที่ 1551.41 จุด (+0.64 จุด) และยังมีลักษณะซื้อ/ขายคละกัน SET50 และ SET100 สลับลดลงจากวันก่อน ขณะที่ SETHD แสดงการปรับตัวขึ้นสูงสุด กลุ่มที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ ธนาคาร อสังหาฯ พลังงาน พาณิชย์ โรงพยา บาล และขนส่ง สื่อสาร ปิโตรฯ วัสดุ อาหาร ขนส่ง ปรับตัวลดลง มูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 47,958 ล้านบาท มีเพียงนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 275 ล้านบาท ที่เหลือซื้อสุทธิเล็กน้อย

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 58.0 จากเดือนก.ค.ที่ 55.8 สูงสุดตั้งแต่เดือนเม.ย. 53 ด้านยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.4% แตะที่ 5.15 ล้านยูนิต เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน สะท้อนตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสิ้นสุดวันที่ 16 ส.ค. ปรับตัวลง 14,000 รายเหลือ 298,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าคาด
  สภาพัฒน์ฯปรับลดคาดการณ์จีดีพีเติบโต 1.5-2.0% จากเดิมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. คาดไว้ที่ 1.5-2.5% ซึ่งเป็นการปรับลดจีดีพีตาม คลัง (สศค.) และ ธปท. จีดีพีที่หายไป 0.5% เป็นผลมาจากข้อ จำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ 4 ด้าน โดย เฉพาะปัจจัยจากภาคส่งออกฟื้นตัวช้าและราคาสินค้าส่งออกลดลง โดยปรับมูลค่าการส่งออก (US$) ลงเหลือ 2.0% จากเดิมที่ 3.7% คาดหวังได้ว่าจีดีพีในครึ่งปีหลังจะโตได้ถึง 4% ในปี 58 คาดว่าจีดีพีจะเติบโตเพียง 3.5-4.5% แต่หากการลงทุนโครง สร้างพื้นฐานและส่งออกฟื้นตัวตามคาด การณ์ ซึ่งน่าจะอยู่ที่ 4-5% หรือไม่ควรต่ำกว่าปีละ 10%

  ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวขึ้นแทบทั้งหมด ส่วนราคาน้ำมันทรงตัว และเงินบาท ทรงตัวทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับ 5 สกุลหลัก มองว่าภาพรวมวันนี้ยังเอื้อต่อจิตวิทยาตลาด เราคาดว่าสภาวะตลาดที่เลือกตัวซื้อ-เลือกตัวขาย ทำให้ดัชนีซื้อขายในกรอบแคบๆ เราคาดว่าหุ้นรายตัวที่ผูกไว้กับการลงทุนภาครัฐฯจะอยู่ภายใต้แรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้น เช่น KTB, TMB, และกลุ่มรับเหมาเช่น CK, STEC ขณะที่หุ้นใหญ่ที่ยังปรับขึ้นไม่มาก เช่น สื่อสาร ADVANC (ราคาหุ้น Laggard), DTAC และหุ้นอื่น CPALL, CPF, TUF เป็นต้นอาจยังอยู่ภายใต้แรงซื้อ ในอีกด้านหนึง เราแนะนำเลือกขายทำไรหุ้นที่ปรับขึ้นมากแล้วเช่นกลุ่มโรงพยาบาลเช่น BCH, VIBHA, VIH ขนส่งเช่น BMCL, PSL และเลือกซื้อเก็งกำไรหุ้นที่เทียบตลาดแล้วยังปรับขึ้นไม่มาก PTTGC, BTS, GLOW, SPALI

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%

  น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%

  Accumulate : -- สะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1545 จุด ต่ำกว่า รอจังหวะอ่อนตัว

  เปรียบเทียบดัชนีกับ SET

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +13.0%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +13.6%
ผลตอบแทนตลาด SET = +14.7%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET

  หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!