- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 September 2017 21:06
- Hits: 7867
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือต่อ'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BH (จากซื้อเป็นถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในโมเมนตัมบวก (เมื่อวาน SET +6.01 จุดปิดที่ 1643.55) แต่บนพื้นที่ดัชนี 1640+/- จะมีการแกว่งตัวจากการขายทำกำไรตามรอบมากขึ้น ซึ่งเป็นปกติของตลาดที่ปรับขึ้นมาเร็ว สำหรับการซื้อใหม่ในระดับ SET Index ปัจจุบัน ควรมีจุด Stop loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงขาลงไว้ด้วย โดยเราให้ไว้ที่เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (SMA10) สำหรับปัจจัยที่ติดตามในระยะใกล้ คือ ผลประชุมเฟด 19-20 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ดี ตลาดประเมินว่าดอกเบี้ยสหรัฐจะไม่ปรับขึ้นไปจนถึงกลางปีหน้า ส่วนอัตราดอกเบี้ยของไทยก็คาดว่าจะทรงตัว
เช่นกัน
สำหรับ หุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ช่วงวันที่ 13-19 ก.ย.60 เป็น PTTGC (Growth Play) และ SENA (High Yield Play) ส่วนหุ้นแนะนำสัปดาห์ก่อน คือ AMATA ให้ผลตอบแทน 6.8% ใน 1 สัปดาห์ ส่วน SENA ยังทรงๆ เราแนะนำถือ/ซื้อ SENA ต่อในสัปดาห์นี้
+ PTTGC : กำไร 2H60 มีแนวโน้มดีจาก ค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูง อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่ม และรับโอนธุรกิจปิโตรเคมี 6 บริษัทจาก PTT เข้ามา ซึ่งจะรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ 3Q60 เป็นต้นไป ส่วนนี้จะช่วยชดเชยสเปรดของอะโรเมติกส์ที่อ่อนตัวจากกำลังการผลิตใหม่เข้ามาเพิ่มส่วนสเปรดของโอเลฟินส์อยู่ในเกณฑ์ดี ความเสี่ยงเรื่องขาดทุนจากสต็อกก็ต่ำเมื่อเทียบกับ 2Q60 ที่มีผลขาดทุนในส่วนนี้ ในเชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อให้ราคาเป้าหมาย 84 บาท
+ SENA : จ่ายปันผลดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าปันผลจะมากในช่วง 2H60 เพราะมีการโอนรับรู้รายได้ 3 คอนโดตั้งแต่ก.ย.เป็นต้นไป ทำให้กำไร 4Q60 จะโดดเด่นมาก คาด Yield ของ 2H60 ที่ 5.5% (XD ระหว่างกาลไปแล้ว) ส่วนธุรกิจโซลาร์ก็จะช่วยหนุนกำไรในระยะต่อไป ด้าน Valuation จูงใจ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ประมาณ 6 เท่า และคาด Yield ปันผล 2H60 ราว 5% แนะซื้อ ราคาพื้นฐาน 4.47 บาท
กลยุทธ์ลงทุน : มีหุ้นอยู่แล้วถือต่อ / การซื้อใหม่ควรคุมไว้ด้วยดัชนีไม่ต่ำกว่า 1625 โดยเน้นการเลือกซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มธุรกิจดี และราคามี Upside จากปัจจุบัน…หุ้น Top Picks เดือนก.ย.60 เป็น AMATA, CPN, MINT, TISCO และ Dark Horse คือ SEAFCO
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดยังเป็นบวก เน้นซื้อค่าบวก แนวต้าน 1655-1660, ต่ำกว่า 1625 ควร Wait & See / หรือลดพอร์ตในส่วนที่เพิ่งซื้อใหม่ตอนต้นทุนสูงไปก่อน สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น SCB, THCOM, UV, ERW หุ้นยังอยู่ใน List คือ BCPG, ANAN, SPALI, SAMTEL, TCAP, QH, MONO, PTL, TCJ หุ้นหลุด List ไม่มี ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น GPSC, CBG
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
จีน : ทางการเตรียมปิดการซื้อขาย 'บิตคอยน์' หวังรักษาเสถียรภาพตลาดเงิน
# เว็บไซต์ Caixin ของจีน รายงานว่าขณะนี้ทางการจีนกำลังอยู่ระหว่างการวางแผนเพื่อปิดการซื้อขายเงินดิจิทัลสกุลบิตคอยน์ในประเทศจีน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลประเภทอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดเงินของจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาบิตคอยน์ได้ผันผวนอย่างหนัก
# ล่าสุดธนาคารกลางจีนได้ประกาศว่าการระดมทุนในรูปแบบการเสนอขายหน่วยเงินดิจิทัลให้กับสาธารณชนเป็นครั้งแรก (Initial Coin Offering-ICO) ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ให้ยกเลิกการทำธุรกรรมในทันที ส่วนบุคคลและนิติบุคคลใดที่ทำการระดมทุน ICO ไปแล้วก่อนหน้านี้จะต้องคืนเงินให้กับนักลงทุนภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ
# ดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 61.49 จุด หรือ +0.28% ดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 22.02 จุด หรือ +0.34% และดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้น 8.37 จุด หรือ +0.34% โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ที่ดัชนี DJIA, S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮในวันเดียวกัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคึกคัก หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มลดน้อยลง และพายุ "เออร์มา" อ่อนกำลังกลายเป็นพายุดีเปรสชั่น
ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคา WTI ปิดบวก 16 เซนต์ ขานรับโอเปกผลิตน้ำมันลดลง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 48.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 54.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรายงานของกลุ่มโอเปกระบุว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกปรับตัวลดลงในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้
ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 3 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ 1,332.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำนิวไฮเมื่อคืนนี้ และหลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มคลี่คลายลง
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• ธปท.มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบัน 1.50% ยังเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ
# รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพเงิน ธปท.เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับปัจจุบันที่ 1.50% มีความเหมาะสมและผ่อนคลายเพียงพอที่เอื้อต่อการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ การลดดอกเบี้ยเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่กรอบเป้าหมายได้เร็วขึ้นจะมีผลจำกัด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมาจากปัจจัยด้านอุปทานเป็นหลัก และบางส่วนมาจากปัจจัยด้านโครงสร้าง ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน และอาจนำไปสู่การประเมินความเสี่ยงที่ต่ำเกินควรของผู้ลงทุนผ่านพฤติกรรม Search for yield
+ ANAN (ราคาปิด 5.30 บาท) : ตั้งเป้าโอน 4Q60 สูงถึง 1.63 หมื่นล้านบาท (65% ของยอดทั้งปีนี้)
# ทางบริษัทประเมินว่าในงวด 4Q60 จะโอนคอนโดสูงสุดในปีนี้ที่ 1.63 หมื่นล้านบาท (จาก Backlog สิ้นมิ.ย.60 ที่ 4.97 หมื่นล้านบาท) และทำให้ยอดโอนทั้งปีบรรลุเป้าหมายที่ 2.5 หมื่นล้านบาทได้ ส่งผลให้ผลประกอบการ 4Q60 จะน่าประทับใจมาก เพราะคาดว่าจะทำรายได้คิดเป็น 65% ของทั้งปีนี้
# ช่วง 4Q60 จะเปิดขาย 5 โครงการ มูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท (คอนโด 4 โครงการและแนวราบ 1 โครงการ) ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 9.2 พันล้านบาท
# มีแผนเพิ่มยอดขายแนวราบมากขึ้นเป็น 20% ของยอดขายใน 2 ปีข้างหน้า (จากปัจจุบันมี 10%) เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ทั้งนี้เพราะโครงการแนวราบมีสต็อกน้อยและรับรู้รายได้เร็ว
# แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 6.10 บาท อิงกับ P/E ปี 61 ที่ 9.5 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี โดย ESP ที่นำมาคิดราคาเป้าหมายได้หักดอกเบี้ยจ่ายหุ้นกู้ที่เป็น Perpetual bonds ที่จ่ายปีละ 225 ล้านบาทออกแล้ว
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]