- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 September 2017 17:59
- Hits: 3551
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,600-1,650
SET เคลื่อนไหวแคบ ปิด +0.08% ที่ 1,620.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อ 348 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
กังวลสถานการณ์ความตึงเครียดเกาหลีเหนือกดดัน Dow Jones ปรับลดลง -1.07% เมื่อคื่นนี้ แต่มองผลกระทบต่อตลาดหุ้นภูมิภาค "จำกัด" เนื่องจากราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยเกาหลีเหนือตั้งแต่ต้นสัปดาห์ไปแล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent +2.0% เมื่อคืนนี้ รับโรงกลั่นสหรัฐฯ กลับมาผลิตอีกครั้งหลังผลกระทบจากพายุฮาร์วีย์อ่อนแรงไปแล้ว ขณะที่ค่าการกลั่น (GRM) ล่าสุดยังสูง US$10.1/bbl ทำให้เราคงมุมมองบวกต่อกลุ่มโรงกลั่น และแนะนำ "ซื้อ" PTT, IRPC, ESSO, PTTGC, TOP SPRC ต่อไป
ทำอะไรดี: การ 'สร้างฐาน'อาจดำเนินต่อไป แต่เป็นโอกาส'ซื้อ':-
1.'ซื้อ' CPNRF และ DIF ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2018 สูง 7-8.2% ทั้งนี้เรามีมุมมองดีขึ้นต่อกลุ่ม Asset Funds จากแนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศต่ำนานไปถึงปี 2019 ขณะที่ล่าสุด Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 2.06% ทำให้ yield gap ดูน่าสนใจมากขึ้น
2.'ซื้อ'กลุ่มนิคมฯ และรับเหมาฯ อย่าง AMATA WHA STEC มองการเมืองมีเสถียรภาพหนุนการลงทุนโรงสร้างพื้นฐาน-พัฒนา EEC ต่อเนื่อง
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ' AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC และ WHA ต่อไป (ไม่เปลียนแปลง)
Fundamental:
Asset Funds: 'Overweight'.มอง 1) ดอกเบี้ยต่ำนานถึงปี 2019 และ 2) ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 5-8% ต่อปี ชอบ CPNRF และ DIF ด้วยผลตอบแทนปันผลปี 2018 ที่ 7-8.2%
MALEE : 'ถือ' พื้นฐาน 40 บาท (เดิม 50 บาท)...นอกจากปัญหาน้ำมะพร้าวส่งออก ยอดขายน้ำผลไม้ลดลงเช่นกันซึ่งมองเป็น hiccup ระยะสั้น ปรับกำไรลง 27-28% มอง valuation ปัจจุบันยังไม่ถูก
Fund Selection : เรามองสถานการณ์ความตึงเครียดเกาหลีเหนือกระทบกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น และไทยจำกัด มองเป็นโอกาส "ซื้อ" กองทุน Phatra Act EQ และกองประหยัดภาษีอย่าง Phatra LTFD ในจังหวะพักฐานของตลาด นอกจากนี้ยังมองตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังน่าสนใจ "ซื้อ" T-JapanEQ ขณะที่มีความกังวลต่อแนวโน้มตลาดหุ้นจีนจากประเด็น Trade War เพิ่มขึ้น แนะนำ "ขาย" ทำกำไร TMBCOF ไปก่อน (TNS เป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุน 16 บลจ.โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ฝ่าย Selling Agent 02-217-8852)
Technical Story: Technical SET range: 1,608-1,640
ลุ้นตังหลักซิกแซกขึนต่อ: (รายงาน The Technical Story)
SET กำลังตั้งหลักมีลุ้นซิกแซกขึ้นต่อ วันนี้มีด่านที่ 1,626 จุด ทะลุได้มีลุ้นทดสอบ 1,632 และ/หรือ 1,640 จุดที่ต้องฝ่าขึ้นไป ส่วนแนวรับมีที่ 1,615 จุด และถัดไปที่ 1,608 จุด
หุ้นแนะนำ:
PTG เข้าซื้อ เป้าหมาย 23 และ 25.50 บาท
SPALI เข้าซื้อ เป้าหมาย 27.75 บาท
UV ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 9.60 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
'Let Profit Run'S50U17 เป้าระยะกลาง 1,060 Trailing Stop 1,020
'Long' BlockTrade ADVANC เป้าหมาย 196 บาท...Leverage 20x
TradeCode: Buy >ESSO, VGI, MONO
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : (Updated วันที่ 5 ก.ย.) Tactical portfolio ปรับพอร์ตรับตลาด "กระทิง" ด้วยเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1,650 จุด และสิ้นปี 2018 ที่ 1,800 จุด แนะนำ "ซื้อ" AMATA PTT ESSO WHA เข้าพอร์ต แทน LIT MTLS THANI WORK ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) เศรษฐกิจเร่งตัว +4.0% ปี 2018 2) กำไร SET ทำจุดสูงสุดใหม่ปี 2018 และ 3) การเมืองมีเสถียรภาพ หนุนลงทุนภาครัฐฯ ต่อเนจื่อง และการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก โดยหลังปรับพอร์ตจะทำให้ Tactical Portfolio's beta ปรับสูงขึ้นเป็น 1.19x จากเดิมที่ 1.12x
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA : เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP : หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT : ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979