- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 September 2017 17:47
- Hits: 2494
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ตั้งรับหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
คาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวออกด้านข้างมีแนวโน้มลดลงในวันนี้ จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ และเกาหลีเหนือที่ยังคงดำเนินอยู่สะท้อนด้วยการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดการเงินต่าง ๆ ทั่วโลก อย่างไรก็ตามในบางตลาดความกังวลเริ่มลดลง และจุดสนใจเปลี่ยนไปที่การประชุม ECB ในวันพฤหัส การประชุม FOMC ในวันที่ 19-20 ก.ย. ตลอดจนเส้นตายที่รัฐสภาจะต้องปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะในวันที่ 29 ก.ย. ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังบรรดาโรงกลั่นแถบชายฝั่งอ่าวทางใต้ของสหรัฐ เริ่มกลับมากลั่นน้ำมัน ปัจจัยภายในประเทศวันนี้เป็นบวก จีนไทยลงนามในสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูง ดังนั้นการก่อสร้างน่าจะเริ่มได้แล้ว กกร.คงเป้าเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่งที่ 3.5-4%
หุ้นเด่นวันนี้ : TK (ราคาปิด 12.00 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 60 ของ AWS 14.00 บาท)
บมจ.ฐิติกร เป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากการที่บริษัทจะได้รับประโยชน์จากตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศที่กำลังฟื้นตัว สถาบันยานยนต์รายงานยอดขายรถจักรยานยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 60 เติบโต 6.3% YoY อยู่ที่ 949,550 คัน เทียบกับยอดขายที่หดตัว 1.1% ในช่วง 6 เดือนแรกปี 59 เราคาดโมเมนตัมจะเป็นเช่นนี้ต่อในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น นอกจากนี้ TK เตรียมเปิดสาขาในประเทศเพิ่มอีก 4 สาขา ทำให้จำนวนสาขาในประเทศทั้งหมดจะอยู่ที่ 92 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัทคาดจะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาในกัมพูชา และ 2 สาขาในลาว จากปัจจุบันที่ 3 สาขาและ 1 สาขา ตามลำดับ
อีกทั้ง บริษัทคาดจะเปิดสาขาในอาเซียนนอกเหนือจากกัมพูชาและลาวอีก 1 ประเทศ แต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดที่ชัดเจน เราคาดการณ์สินเชื่อของ TK ในปี 60 จะเติบโต 16% เร่งตัวจาก 6.2% ในปี 59 เราคาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 14.3% ในปี 60 และ 16.5% ในปี 61 และอีกปัจจัยที่สำคัญ หุ้น TK ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนที่น่าสนใจที่ 4.2% Price Pattern ของ TK ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง DaiIy, WeekIy, & MonthIy Buy SignaI เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TK มีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 13.10 บาท โดยหาก Price Pattern ของ TK ยังมีความแข็งแกร่งที่มากพอและสามารถปิดตลาดได้เหนือ 13.10 บาท ก็จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 14.70 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 16.20 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ TK มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 11.60 บาท (Resistance: 12.10, 12.20, 12.30; Support: 11.90, 11.80, 11.70)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ไทย-จีนร่วมลงนามในสัญญารถไฟฟ้าความเร็วสูง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน นาย Wang Xiaotao เมื่อวานนี้ได้ลงนามในสัญญารถไฟฟ้าความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ - นครราชสีมาจำนวน 2 สัญญาซึ่งประกอบด้วยข้อตกลงในการให้บริการออกแบบรายละเอียดและข้อตกลงในการให้คำปรึกษาด้านการก่อสร้าง (โพสต์ ทูเดย์)
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2560 นี้ที่ระดับ 3.5-4.0% ในขณะเดียวกันยังคงประมาณการการเติบโตของการส่งออกในปี 2560 ที่ระดับ 3.5-4.5% แม้ว่าสามารถส่งออกอาจสูงกว่าที่ประเมินไว้ แต่ก็ยังคงมุมมองระมัดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ เช่น ความตึงเครียดระหว่างประเทศ (บางกอกโพสต์ /ไทยโพสต์)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างข้อยกเว้นทางภาษีอากรระหว่างไทย - กัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์ส่งเสริมการลงทุนที่มีการเชื่อมโยงกับภาคเอกชนของประเทศเพื่อนบ้าน (บางกอกโพสต์)
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงมากที่สุดในรอบ 1 วันนับตั้งแต่เดือนพ.ค. เมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนเป็นกังวลเกี่ยวกับพายุที่กำลังเคลื่อนตัวลงทางตอนใต้ของสหรัฐ และสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลง 9 bps สู่ระดับ 2.065% (รอยเตอร์)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันอังคาร จากความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.45% สู่ระดับต่ำสุดในรอบวันที่ 92.183 ก่อนจะปรับตัวขึ้นและปิดที่ระดับ 92.286 จุด ลดลง 0.34% จากที่ระดับ 92.599 จุดเมื่อวันจันทร์ (รอยเตอร์)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหนักเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดรอบใหม่เกี่ยวกับเกาหลีเหนือหลังกลับจากวันหยุดเนื่องในวันแรงงานเมื่อวันจันทร์ นักลงทุนเตรียมใจเกี่ยวกับการปะทะกันในสภาเกี่ยวกับงบประมาณและกำหนดเส้นตายเกี่ยวกับเพดานหนี้ในวันที่ 29 ก.ย. นี้ นักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นจากข่าวพายุเฮอริเคนเออร์มาซึ่งมีกำลังแรงกำลังมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ของสหรัฐใกล้กับรัฐเท็กซัสที่ได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ (รอยเตอร์)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวลงวันอังคาร ถูกฉุดโดยหุ้นกลุ่มการเงิน เนื่องจากความกังวลในปัญหาคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงท่าทีที่ระมัดระวังของนักลงทุนก่อนการประชุม ECB ในวันพฤหัสนี้ ซึ่งธนาคารกลางอาจมีการอธิบายเพิ่มเติมในเรื่องกรอบเวลาของนโยบายทางการเงิน (รอยเตอร์)
คาด ECB จะประกาศหยุดแผนการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวน 2 ล้านล้านยูโร (2.38 ล้านล้านดอลลาร์) ในช่วงปลายปีนี้ แม้เจ้าหน้าที่หลายๆ คนซึ่งยังกังวลเรื่องค่าเงินยูโรที่แข็งค่าจะคาดกันว่าธนาคารกลางจะยังไม่ถอนนโยบายกระตุ้นทางการเงินในเร็วๆ นี้ (รอยเตอร์)
ภาคการผลิตในยุโรปขยายตัวแข็งแกร่ง ดัชนี PMI รวมจาก Markit ยูโรโซนในเดือนส.ค. ตรงกับตัวเลขในเดือนก.ค. ที่ระดับ 55.7 ลดลงเล็กน้อยจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 55.8 ในขณะที่ดัชนี PMI ของไอร์แลนด์และเยอรมนีปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน และ 2 เดือนตามลำดับ แต่ดัชนี PMI ของอิตาลี สเปนและฝรั่งเศสปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน 7 เดือน และ 7 เดือน ตามลำดับ (IHS Markit)
เอเชีย :
ค่าเงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าปกติในวันอังคาร ส่วนต่างระหว่างจุดสูงสุดและจุดอ่อนที่สุดของวันอยู่ที่ 399 pip เทียบค่าระดับปกติที่ประมาณ 300 pip นักวิเคราะห์คาดว่าแนวโน้มค่าเงินหยวนที่แข็งค่าในปัจจุบันยังคงมีต่อเนื่องจนถึงการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ (Reuters)
ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในเช้าวันพุธนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นวานนี้ เนื่องจากโรงกลั่นหลายๆ แห่งในสหรัฐเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง ทำให้ช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมับดิบและคลายความกังวลเรื่องอุปทานที่อาจขาดแคลน ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.37 ดอลลาร์ (+2.8%) อยู่ที่ 48.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น 1.04 ดอลลาร์ (+2.0%) อยู่ที่ 53.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (รอยเตอร์)
ราคาทองไต่สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลในปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ราคาทองคำตลาดจรปรับขึ้น 0.6% อยู่ที่ 1,341.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่แตะระดับสูงสุดที่ 1,344.21 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 59 ราคาทองล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 1,344.50 ดอลลาร์ (รอยเตอร์)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No. 14543) Tel: 0-2680-5056