WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily


ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดตลาดยืนบวก แกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงยืนทั้งในแดนบวกและลบ มีจุดต่ำสุดของวันที่ 1616.33 จุด ลดลง 2.78 จุด ก่อนที่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อดันดัชนีกลับขึ้นมายืนบวก ขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1623.95 จุด เพิ่มขึ้น 4.84 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 7.62 จุด ทั้งนี้ตลาดหันมาเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ได้แก่ III, ASIAN, TRUE, BGRIM, DTAC, PTG, CM ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1620.42 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด (+0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 50,346 ล้านบาท


ภาพตลาดวันนี้
  ดัชนีวานนี้มีความพยายามที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการยก High-Low (1616.33-1623.95) ขึ้นจากวันก่อน ก่อนที่จะทำปิดเดียวกับจุดเปิดที่ 1620 จุด ขณะเดียวกันปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นระดับ 5 หมื่นล้านบาท ภาพดังกล่าวทำให้ดัชนีมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นได้ ขณะที่การพักตัวไม่น่าจะลงแรง มองแนวรับ 1612-1616 จุด แนวต้าน 1624-1627 จุด

แกว่งตัวผันผวน - มีโอกาสขยับทำ High
  Support 1600-1590 จุด Resistance 1630 // 1650 จุด


พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

 

ยังเล่นกรอบแคบ ต้องตามสถานการณ์เกาหลีเหนือ
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : ดัชนีฯยังผันผวนในกรอบแคบ โอกาสบวกหรือลบมีพอๆกัน ทั้งนี้ แรงหนุนจากเงินที่เริ่มไหลกลับเข้าตลาด อาจยังแรงไม่มากพอที่จะผลักดันดัชนีฯ กอรปกับการสลับกลุ่มเล่นวานนี้ คือขายกลุ่มอื่น มาซื้อหุ้นปิโตรเคมี เป็นตัวจำกัดกรอบการสูงขึ้นของดัชนีฯโดยตรง ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันจากสถานการณ์เกาหลีเหนือ เป็นตัวถ่วงทั้งดัชนีฯและ Fund Flow …. ตัวแปรที่จะมีผลในระหว่างวัน จะเป็นสถานการณ์เกาหลีเหนือ
กลยุทธ์การลงทุน : การพลิกมาเป็นบวกจาก underperform ของตลาดหุ้นไทย เมื่อเทียบกับตลาดอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เรามองเป็นจังหวะซื้อ หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีหรือราคาลงมาในระดับที่เหมาะสม โดยประเมินแนวรับของตลาด หรือจังหวะเข้าซื้อหุ้น อยู่ระหว่าง1608-1616 จุด
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ UTP, SGP*, TKN*, ARROW*, BR, BANPU


หุ้นแนะนำทางเทคนิค : PSL ,ESSO ,ECL
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์


บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) COL : กลับมาโฟกัสธุรกิจค้าปลีก หนุนกำไรเติบโตโดดเด่น
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (05 ก.ย.) ปิดที่ระดับ 1,620.42 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด หรือ +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 50,346.10 ล้านบาท ตลาดยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบรอปัจจัยบวกใหม่มากระทบตลาด วานนี้ได้รับแรงบวกจากงานประมูลโครงการรถไฟทางคู่รวมมูลค่าประมาณ 12,500 ล้านบาท ซึ่งราคาเสนอต่ำสุดต่ำกว่าราคากลางไม่ถึง 2%
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,753.31 จุด ร่วงลง 234.25 จุด หรือ -1.07% จากสถานการณ์ตึงเครียดในแถบเกาหลีเหนือที่ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อตลาดอย่างต่อเนื่อง .... ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับตัวลดลง -0.1% ปิดที่ 373.71 จุด


ปัจจัยต่างประเทศ: ความตึงเครียดในแถบเกาหลีเหนือเป็นประเด็นลบต่อเนื่อง, การเพิ่มเพดานหนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่เข้ามา ประเด็นด้านเกาหลีเหนือยังคงเป็นประเด็นลบต่อเนื่องจากวันก่อนซึ่งได้มีการทวีความรุนแรงขึ้นในคืนที่ผ่านมา โดยมารายงานว่า "เกาหลีเหนือเริ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) โดยเป็นการเคลื่อนย้ายเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ" …. ด้านกฎหมายปรับเพิ่มหนี้สาธารณะของสหรัฐฯยังคงไม่มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลต้องขยายให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้ ประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นปัจจัยลบต่อเนื่อง


ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากสถานการณ์ฮาร์วีย์ที่มีทิศทางดีขึ้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 48.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้รับปัจจัยบวกจาก โรงกลั่นน้ำมันบางแห่งในแถบอีสต์โคสต์ได้เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน
ผลการประมูลรถไฟทางคู่ต่ำกว่าราคากลางไม่มาก วานนี้ผลการประมูลรถไฟทางคู่ประจวบคีรีขันธ์ -ชุมพร โดยกลุ่ม KS-C Joint Venture (บริษัท เคเอสร่วมค้า และ China Railway 11th Bureau Group Corporation Ltd.) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด สัญญาที่ 1 เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,465 ล้านบาท จากราคากลางที่ 6,579.9 ล้านบาท และ สัญญา 2 กลุ่ม STPP Joint Venture ( บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ร่วมกับ บริษัท ไทยพีค่อนและอุตสาหกรรม จำกัด) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด เสนอราคาต่ำสุดที่ 5,992 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 6,071 ล้านบาท ต่ำกว่าเพียง 1.30% ราคาเสนอที่ต่ำกว่าราคากลางไม่มาก เป็นผลบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯขนาดใหญ่


Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
UTP(ราคาปิด 7.65) มอง UTP เป็นหุ้นเติบโตสูง เราคาดว่ากำไรสุทธิช่วง 2H17 จะเติบโตจากช่วง 1H17 ถึง +55% มาอยู่ที่ 194 ล้านบาท ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2017 เติบโตถึง +66% YoY มาอยู่ที่ 318 ล้านบาท เป็นผลมาจากไลน์การผลิตเก่าสามารถกลับมาดำเนินงานได้หลังมีการหยุดการผลิตชั่วคราวในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 9.00 บาท)

 

SGP*(ราคาปิด 16.70) ได้รับแรงบวกจากการปรับราคาขาย LPG ขึ้น 0.67บาทต่อกิโลกรัม …. การเปิดนำเข้าเสรี และลอยตัวราคา LPG (เริ่ม ส.ค.60) หนุนให้ปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น ขณะยอดใช้ LPG ของไทยงวด 6 เดือนแรก เพิ่ม 2.3%.... บริษัทมีแผนการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น เมียนมา, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, และบังคลาเทศ และมีการร่วมลงทุนสำหรับโรงไฟฟ้าขนาด 230 เมกะวัตต์จะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงเวลาอันสั้นนี้

TKN*(ราคาปิด 20.80) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงไปมากก่อนหน้านี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานของโรงงานใหม่ที่ยังประสบปัญหาด้าน operation ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไม่เต็มที่ เรามองประเด็นดังกล่าวจะเริ่มคลี่คลายลงได้ในช่วงครึ่งปีหลีงนี้ .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 เติบโต 7.9% YoY ที่ 843 ล้านบาท แต่จะเติบโตได้ดีมากในปี 2018 ที่ +32.7% YoY ที่ 1,119 ล้านบาท …. (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 23.57 บาท)

 

ARROW*(ราคาปิด 14.80) มองโครงการภาครัฐที่ออกมามากในช่วงครึ่งปีหลีงจะส่งผลให้ความต้องการท่อร้อยสายไฟซึ่งเป็นสินค้าหลักของ ARROW สูงขึ้น …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 อ่อนตัวลงที่ -14% YoY ที่ 255 ล้านบาท แต่จะเติบโตได้ดีในปี 2018 ที่ +27% YoY ที่ 262 ล้านบาท …. (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 17.15 บาท)

BR(ราคาปิด 7.15) มองกำไรของ BR จะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยเรามองไตรมาสสุดท้ายจะเป็นช่วงที่การบริโภคอยู่ในระดับสูงตามเทศกาล ซึ่งจะทำให้ปริมาณการจำหน่ายเป็ดยังอยู่ในระดับสูงใน 4Q17 .... ประมาณการณ์ว่า BR จะมีกำไรปกติเติบโตขึ้น 45% ในปี 2017 มาอยู่ที่ระดับ 457 ล้านบาท.... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST 8.00 บาท)

BANPU(ราคาปิด 17.40) ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นมามากปัจจัยบวกมาจาก การผลิตถ่านหินของจีนที่ลดลง และคาดการยูเอ็น ban ส่งออกถ่านหินขอเกาหลีเหนือ..... ถึง $87.6 เหรียญ ตามราคาเหล็กในตลาดโลก .... คาด BANPU จะมีแนวโน้มกำไรใน 2Q17 เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เหตุผลหลักมาจากฐานราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย $52 ต่อตันใน 2Q16 เพิ่มขึ้นเป็น $79 ต่อตัน ประเมินกำไร 2,718 ล้านบาท (+864.5% YoY, 89.4% QoQ), . คาดกำไรสุทธิปี 2017 ของ BANPU ที่ 9,692 ล้านบาท (+477.9% YoY) ….. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 23.00 บาท)
Source: KTBST Research


ประเด็นสำคัญ : ข่าวและหุ้น
สถานการณ์เกาหลีเหนือ - รายงานข่าวของสื่อเกาหลีใต้ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือเริ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) โดยเป็นการเคลื่อนย้ายเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐดิ่งลง 3.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 หลังจากเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนมิ.ย.
เศรษฐกิจยุโรป - ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการในเดือนส.ค. ปรับตัวลงแตะ 54.7 จากระดับ 55.4 ในเดือนก.ค.


กลุ่มรับเหมาฯ - รฟท. เปิดเผยผลการประมูลงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญาที่ 1 ช่วงประจวบฯ-บางสะพานน้อย มีผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,465 ล้านบาท จากราคากลางที่ 6,579.9 ล้านบาท และ สัญญาที่ 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร มีผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 5,992 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 6,071 ล้านบาท หรือลดลง 79 ล้านบาท เท่ากับลดลงเพียง 1.30% โดย กลุ่ม KS-C Joint Venture เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด สัญญาที่ 1 และ กลุ่ม STPP Joint Ventureเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด สัญญาที่ 2
SPALI - บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ในย่านฝั่งธนบุรี พร้อมเปิดตัวในเดือน ก.ย.นี้ จำนวน 3 โครงการ โดยมีเอกลักษณ์การออกแบบ และไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นแตกต่างกัน บนทำเลที่น่าจับจองเป็นเจ้าของห้องชุดพักอาศัย ภายใต้ 3 แบรนด์ "พรีเมียร์" "ลอฟท์" และ "ปาร์ค"


RS - บริษัทเชื่อมั่นว่า ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนหลังจะเติบโตต่อเนื่อง โดยมีช่อง 8 กับธุรกิจสุขภาพและความงามเป็นหัวหอกทำรายได้ทะลุเป้าที่วางไว้ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากบริษัททำกำไรสุทธิช่วง 6 เดือนแรกไปแล้ว 99.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 352% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
IVL - บริษัทแจ้งว่าตามที่บริษัทได้ปิดโรงงาน Indorama Ventures (Oxides & Glycols) LLC ในมลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เป็นการชั่วคราว หลังได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ขณะนี้โรงงาน Indorama Ventures (Oxides & Glycols) LLC ดังกล่าวได้การกลับมาเริ่มดาเนินการใหม่อีกครั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2560


Analyst : Mongkol Puangpetra +662 648 1123 [email protected]

Nontapat Rushtasomboon +662 648 1127 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!