- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 September 2017 16:56
- Hits: 7346
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 4-9-17
Close : 1,619.11 Volume : B44,872M
Change : +0.69 P/E : 17.36
%Change : +0.04% P/BV : 1.95
หุ้นแนะนำพิเศษ
PSTC (ราคาปิด 0.75 ซื้อ ราคาเหมาะสม 0.90)
ดำเนิน 2 ธุรกิจ 1)ธุรกิจออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า (ระบบสำรองไฟฟ้า และระบบประหยัดพลังงาน) มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 72 และ 2)ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนสัดส่วนรายได้ร้อยละ 28 โดยมีกำลังการผลิตรวม 41 MW
มุ่งเน้นขยายธุรกิจไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงและความเสี่ยงต่ำ โดยบริษัทมีกำลังการผลิต 41 MW แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 15 MW โรงไฟฟ้าชีวมวล 15 MW(อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 MW) และโรงไฟฟ้าชีวภาพ 11 MW(อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 MW) และตั้งเป้า 100 MW ภายในปี 61
ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการจะ Turnaround ในปี 60 จากการรับรู้กำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ผลประกอบการ 1H60 อยู่ที่ราว 23 ล้านบาท เติบโต 30%YoY โดยเราคาดกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 53 ล้านบาทเติบโต 236% และผลประกอบการมีโอกาสเติบโอย่างต่อเนื่องในปี 61 จากการเข้าประมูลโรงไฟฟ้า SPP semi firm และ SPP hybrid firm
ANAN (ราคาปิด 5.20 Bloomberg Consensus 5.91 ) เตรียมเปิดตัวคอนโด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 8,300 ล้านบาท ชิงยอดขายช่วงที่เหลือของปีนี้ ตั้งเป้ากวาดยอดขายไม่ต่ำกว่า 60% ของมูลค่าโครงการ เชื่อคอนโดติดรถไฟฟ้ายังเป็นที่ต้องการสูง (ทันหุ้น)
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อ backlog ที่แข็งแกร่งของบริษัท หากยอดขาย presale จากโครงการดังกล่าวเป็นไปตามคาดจะช่วยหนุน backlog ให้แข็งแกร่งต่อเนื่องจากระดับ 4.97 หมื่นลบ. ณ ปลายมิ.ย. ซึ่งมีกำหนดโอนภายในปลายปีราว 1.63 หมื่นลบ. ทำให้เป้ารายได้ที่ระดับ 2.4 หมื่นลบ.มี backlog รองรับแล้วถึง 81% ผลประกอบการมีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสใน Q4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นมีแผนโอนสูงถึง 1.64 หมื่นลบ. Bloomberg คาดกำไรปี 60 ราว 1,931 ลบ. +29% 1H60 มีรายได้จากโครงการอสังหาฯ 4,238 ลบ. +70% กำไรสุทธิ 420 ลบ.+7%
(+) UNIQ คว้างานทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ มูลค่า 8,649 ล้านบาท หลังเสนอราคาต่ำสุด ชูเป็น 1 ใน 4 ตัวเต็งคว้างานภาครัฐในช่วงที่เหลือของปีนี้ เติมงานในมือ รับรู้รายได้ยาว 3-4 ปีข้างหน้า (ที่มาทันหุ้น)
(+) WORLD ผู้ถือหุ้น โหวตหนุนขายธุรกิจการศึกษามูลค่ากว่า 1.7 พันล้านบาท คืนให้กับ "กลุ่มจิยะจันทน์" ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) ปัจจุบันมี Backlog กว่า 6.5 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2563 ดันผลงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เตรียมขึ้นชั้นผู้พัฒนาอสังหาชั้นแนวหน้าของเมืองไทย (ที่มาทันหุ้น)
Market View : พักตัว รอปัจจัยใหม่
Stock of the town : TASCO APEX
หุ้นแนะนำพิเศษ : PSTC
หุ้นมีข่าว : TRC SYNTEC ASIMAR FTE ANAN
ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวแคบจากแรงกดดันความกังวลคาบสมุทรเกาหลีหลังเกาหลีเหนือทดสอบยิงนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อกลุ่ม ICT FOOD รวมถึงหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวหนุนให้ SET ปิดที่ 1,619.11 จุด (+0.69 จุด) Vol. 4.4 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +870 ลบ. TFEX Net -5,939 สัญญา ตราสารหนี้ +9,147 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
- ความกังวลคาบสมุทรเกาหลีหลังเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ระเบิดไฮโดรเจนที่มีการทำลายล้างสูง
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังมีรายงานว่าเกาหลีเหนือเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งใหม่หลังจากที่ทดสอบนิวเคลียร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
+/- ตลาดหุ้น DJ วานนี้ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานของสหรัฐ
+/- ราคาน้ำมันทรงตัวล่าสุด 47.4 US/Barrel หลังคาดว่าการผลิตน้ำมันในจีน รวมถึงการนำเข้าน้ำมันของจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น จะได้รับผลกระทบ หากความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีลุกลาม
+/- Foreign เป็น Net Buy 5 วันราว 8.3 พันลบ. แต่เป็น Net Short TFEX 5 วันราว 7.6 หมื่นสัญญา
+/- UNIQ เสนอราคาต่ำสุดประมูลรถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพสัญญา 2 ที่ 8,649 ลบ.จากราคากลาง 8,813 ลบ.
** วันนี้ 5 ก.ย. การประมูลรถไฟทางคู่ (ประจวบ-ชุมพร) 1.2 หมื่นลบ.
** 6 ก.ย. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book จากเฟด
** 7 ก.ย. ECB ประชุมนโยบายการเงินคาดคงอัตราดอกเบี้ยและการใช้ QE
ภาวะตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน อีกทั้งความกังวลการทดสอบยิงนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และการขึ้น XD หุ้น BAY BBL KKP BEM ที่มีผลต่อดัชนีราว 1 จุดเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาด อย่างไรก็ตามกระแส Fund Flow ต่างชาติที่พลิกเป็น Net Buy ต่อเนื่อง 5 วัน รวมถึงแรงซื้อหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวจะช่วยหนุนดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,615 - 1,625 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- STA ราคายางพาราทำ High รอบ 3 เดือนล่าสุด 222 Yen/Kg.
- กลุ่มโรงกลั่น ค่าการกลั่นพุ่งขึ้นแรงล่าสุดราว 10 - 11 US/Barrel
- TASCO ราคายางมะตอยจีน +12% MoM ล่าสุด 2,893 Yuan/Ton
- PDI ราคาสังกะสีทรงตัวในระดับสูงล่าสุด 3,153 US/Ton
- COM7 SYNEX SIS กลุ่มนำเข้าได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า
- BH EA WORK ได้เข้าคำนวณ FTSE Global Equity Index รอบใหม่เริ่มมีผล 15 ก.ย.
หุ้นมีข่าว
(+) TRC ได้ LOI งานใหม่โครงการของ IRPC มูลค่า 492 ลบ.คาดเซ็นสัญญา ต.ค.นี้ มูลค่างาน 492 ล้านบาท ระยะเวลางาน 21 เดือน (ที่มาอินโฟเควสท์)
ความเห็น เราปรับลดประมาณการกำไรปี 60 40% สู่ 310 ล้านบาทจาก APOT ล่าช้ากว่าแผนมากว่า 2 ปี เนื่องจากผู้ถือหุ้นของ APOT ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในส่วนผู้ถือหุ้นแทนกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตามบริษัทได้เข้าประมูลงานอื่นๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่ม backlog โดยเตรียมเข้าร่วมประมูลงาน 16.2 หมื่นล้านบาท โดยมีงานใหญ่คือท่อส่งก๊าซฯ เส้นที่ 5 ของ PTT มูลค่าราว 9.2 พันล้านบาทซึ่งคาดว่าจะประกาศผลราว 1Q61
(+) SYNTEC ตั้งเป้ารายได้ปี 2560 แตะ 8.5 พันล้านบาท ตุนงานในมือ 1.4 หมื่นล้านบาท แถมอยู่ระหว่างประมูลงาน 22 โครงการ มูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ทยอยรู้ผล แถมเตรียมก่อสร้างเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ที่ศรีราชามูลค่ากว่า 600 ล้านบาท และศึกษาซื้อโรงแรม-หวังแตกไลน์ธุรกิจวางระบบ-ฐานราก คาดชัดเจนปีนี้
ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการ 2H60 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยเนื่องจากมีโครงการที่เริ่มก่อสร้าง 8 โครงการ และมีโครงการใกล้แล้วเสร็จ 11 โครงการจากโครงการก่อสร้างทั้งหมด 39 โครงการ (ปกติโครงการเริ่มก่อสร้างและโครงการใกล้แล้วเสร็จจะรับรู้รายได้น้อยกว่าการก่อสร้างช่วงกลางโครงการ) และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น 2H60 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากงานที่เริ่มก่อสร้างใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่างานประมูลในอดีต
ASIMAR (ราคาปัจจุบัน 3.32 บาท) จากที่ประชุม ผู้บริหารมองเป้ารายได้ปี 60 โต 30%YoY โดยมอง 2H60 ดีกว่า 1H60 จากการส่งมอบงาน Backlog ในมือทั้งหมดกว่า 137 ล้านบาท และด้านงานซ่อมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ตามราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว ส่งผลให้เรือประเภท Offshore มาซ่อมบำรุงเพื่อให้บริการสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานต่อเรือ 3 งาน คือ 1) งานเรือ Ferry มูลค่า 170 ล้านบาท 2) งานจากภาครัฐ มูลค่า 500 ล้านบาท และ 3) งานต่อเรือ Lighter Barge มูลค่า 300 - 400 ล้านบาท ซึ่งจะทราบผลช่วง 4Q60 - 1Q61 นอกจากนี้ ยังมีงานโครงเหล็กของรถไฟฟ้า เป็นโปรเจ็กต์ส่วนเพิ่มมาลดความผันผวนของผลกำไรในอนาคต
คาดกำไร 3Q60 น่ำจะทำ New high ได้จากการส่งมอบงานในช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงที่จะมีมูลค่าการรับรู้รายได้เป็นสัดส่วนที่สูงที่สุด และจะเป็นประเด็นสำคัญกดดัน Valuation ของหุ้นให้มีความน่าสนใจลงทุน กล่าวคือ จะกด Current PER ให้อยู่ระดับต่ำกว่า 10 เท่า นอกจากนี้ ผลการประมูลจะเป็นอีก 1 ปัจจัยสนับสนุนให้คาดว่าแนวโน้มราคาหุ้นจะมีโอกาสกลับขึ้นไปซื้อขายในระดับปกติที่ 14 - 15 เท่า
FTE (ราคาปัจจุบัน 3.42 บาท ราคาเป้าหมาย 3.75 บาท) ฟันธงผลงานทำนิวไฮ รายได้โตกว่า 10% ลุ้นผลประมูลงานอีก 200 ล้านบาท จ่อได้งานอีก 100 ล้านบาท เล็งเข้าประมูลงานรถไฟฟ้า สายสีส้มและสายสีม่วงมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โบรกเคาะกำไรปีนี้ 114 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 4.30 บาท (ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น)
ความเห็น ปัจจุบัน Backlog ของ FTE เพิ่มเป็น 400 ลบ. แบ่งเป็น สิ้นงวด 2Q60 ที่ 277 ลบ.และงานประมูลใหม่อีก 120 ลบ. มาหนุนรายได้ส่วนรับเหมาให้เติบโตต่อในช่วง 2H60 (จาก 1H60 ที่รายได้ส่วนรับเหมา +83%YoY) ซึ่งน่าจะยังเพิ่มขึ้นได้อีกจากงานระบบดับเพลิงรถไฟฟ้าดังกล่าวข้างต้น นอกจากนี้ ส่วน Trading ยังมีปัจจัยหนุนจาก การขยายสาขา อีก 3 สาขา ในสิ้นปี 61 คู่กับการเพิ่มพนักงานขาย ส่วนระยะกลาง - ยาว งานสถานีไฟฟ้าแรงสูงจาก EGAT ที่ยังเหลืออีกกว่า 150 แห่ง จากทั้งสิ้น 218 แห่ง ยังเป็นปัจจัยหนุน Backlog ของ FTE อย่างต่อเนื่อง และยังมีโอกาสเข้ารับงาน EPC เป็น Upside ส่วนเพิ่มในอนาคต จึงยังเชื่อว่ากำไรของ FTE ปี 60 - 61 จะเติบโตเฉลี่ยได้เกิน 20%YoY
Analyst –วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร, สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์