- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 September 2017 18:27
- Hits: 2085
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,600-1,650
SET ย่ำฐานต่อปิด +0.14% ที่ 1,618.42 จุด แต่ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวลงเหลือ 4.5 หมื่นล้าน
บาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 153 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
การทดลองระเบิดไฮโดรเจนของเกาหลีเหนือช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็น sentiment เชิงลบต่อ
ตลาดหุ้นโลก และ SET เช้านี้ ประเมินแนวรับ 1,610 +/- จุด แต่จะเป็นโอกาส "ซื้อ" คงมุมมองเชิงบวกต่อ
SET ในระยะสัปดาห์เป้าหมาย 1,650 จุด
ทำอะไรดี:
แรงเหวี่ยงระยะสั้นจากประเด็นทดสอบระเบิดของเกาหลีเหนือ และการปรับสูงขึ้นแรงของ SET ก่อน
หน้านี้ ไม่ได้ทำให้มุมมอง "บวก" ต่อตลาดในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้าเปลี่ยนไป:-
1."ซื้อ" PLANB (TP 7.5) แม้ชอบ WORK มากกว่าแต่ราคาหุ้น PLANB ยัง Laggard ขณะที่คาด
การณ์กำไร 2H17 มีแนวโน้มขยายตัวแกร่ง และกำไรปี 2017-18 เติบโตสูง 62-40%
2."ซื้อ" โรงกลั่น-พลังงาน ชอบ PTT , TOP, PTTGC, IRPC และ ESSO ค่าการกลั่นสูง US$11/bbl
แม้คาด GRM จะอ่อนลงหลังพายุ "ฮาร์วีย์" อ่อนแรงแต่ด้วย Demand & Supply ที่ไม่สมดุล จะทำให้ GRM
ยังสูงต่อ
3."ซื้อ" กลุ่มนิคมฯ เร่งพิจารณากฎหมาย EEC ชอบ AMATA และ WHA
Tactical Portfolio (1-3 months):
"ถือ" BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK (ไม่เปลี่ยน)
Fundamental:
PLANB: "ซื้อ" พื้นฐาน 7.50 บาท...มีมุมมองเชิงบวกต่อกำไร 2H17 และปี 2018 ด้วยปัจจัยสนับสนุน
จาก 1) ช่วง 2H17 เป็นช่วง high season และเปิดจำนวน digital screen 2) อัตราการใช้ screen ที่สูงขึ้น
3) รายได้จาก sport marketing เพิ่มขึ้น 30% ปี 2018 คาดการณ์กำไรปี 2017 เติบโต 62% ที่ 570 ล้าน
บาท และปี 2018 เติบโต 40% ที่ 800 ล้านบาท
Pathumwan Corner : แนะนำ "ซื้อ" หุ้น FCF Yield สูง อย่าง BANPU PTT TOP GLOW RATCH
ESSO และ AH มองเป็นหุ้นที่กระแสเงินสดสูง, หนี้น้อย, จ่ายปันผลได้สูง ทั้งนี้จากการทำ back test
ตั้งแต่ปี 2006 การซื้อหุ้นที่มี FCF Yield สูงให้ผลตอบแทนสูงถึง 26.6%/ปี เทียบ SET ให้ผลตอบแทน 9%
Today's News:
การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ: เดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง (คาด 180,000 ตำแหน่ง)
ขณะที่อัตราการว่างงาน 4.4% (คาด 4.3%) ขณะที่ตลาดมองโอกาสที่ Fed จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้
เพิ่มขึ้น ขณะที่จับตาแผนลดงบดุล (Reversed QE) ในการประชุม FOMC 19-20 ก.ย.นี้
Technical Story: Technical SET range: 1,607-1,640
ลุ้นซิกแซกขึนทดสอบ 1,650 จุด: (รายงาน The Technical Story)
SET มีลุ้นซิกแซกขึ้นต่อ มีด่านที่ 1,625 จุด ทะลุได้มีลุ้นทดสอบ 1,631 และ/หรือ 1,640 จุด ส่วนแนว
รับมีที่ 1,615 จุด และถัดไปที่ 1,607 จุดแนะนำถือหุ้น Let Profit Run ต่อเนื่อง และหาจังหวะซื้อเพิ่มช่วงพัก
ตัว
หุ้นแนะนำ:
SAWAD เข้าซื้อเมื่อทะลุ 53 บาท เป้าหมาย 55.50 บาท
BBL รับเพิ่ม เป้าหมาย 190 และ 193 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
"Let Profit Run" S50U17 เป้าระยะกลาง 1,060 Trailing Stop 1,010
"Long" Block Trade ADVANC เป้าหมาย 196 บาท..Leverage 20x
TradeCode: Buy >TKN, SPA, TTA
(ดูรายงาน Trade Code)
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +5.9% ดีกว่า SET ที่ปรับสูงขึ้น +2.7% ในสัปดาห์
ที่ผานมา โดย WORK และ EA ที่จะถูก FTSE เพิ่มนำหนักลงทุนในวันที่ 15 ก.ย.นี้ และมีพื้นฐานแข็งแกร่ง
อยู่แล้ว ปรับสูงขึ้นแรง +18.3% และ +7.9% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นขนาดเล็กอย่าง LIT ให้ผลตอบแทนต่ำ
กว่าตลาด...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS
SAWAD STEC THANI WORK
"ซื้อ" KKP (TP 77).แนะนำ "ซื้อ" KKP เพื่อรับปันผล 2.0 บาท (XD วันที่ 5 ก.ย.นี้) หรือให้ผลตอบแทน
จากเงินปันผลเกือบ 3% และคาดการณ์ปันผลทั้งปี 2017 ที่ 6 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น dividend yield 8.4%
สูงเป็นอันดับต้นๆ ของตลาด
KKP - มีจังหวะ "ซือ" ลุ้นกลับไป high เดิมที่ 75 บาท
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของ
มูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV
(ถือหุ้น 73%)
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้
market share ที่สูงขึ้น
DELTA : เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอ
ตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ
และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการ
พัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP : หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT : ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่าง
ประเทศ
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี
2018
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น
ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979