- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 September 2017 18:10
- Hits: 1649
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นและรับเหมา
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งในแดนบวกทั้งวันและขึ้นไปทดสอบต้าน 1,624 จุดแต่ไม่สามารถผ่านได้ และอ่อนตัวมาปิดบวกเล็กน้อย 2.26 จุด ปริมาณการซื้อขายลดลงเหลือ 4.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นเล็กน้อยและซื้อตราสารหนี้ 2.6 พันล้านบาท แต่ Short ในตลาดฟิวเจอร์สเบาบางลงเหลือ 1,822 สัญญา (ราว 380 ล้านบาท)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : ราคาสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่โหมดระมัดระวังอีกครั้งหลังเกาหลีเหนือทดสอบระเบิดไฮโดรเจนวานนี้ซึ่งเป็นการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ส่วนตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มน้อยกว่าคาดมาก แม้ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นกลางปีหน้าแต่ยังจับตาแผนลดงบดุลในการประชุม 19-20 ก.ย. นี้ ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ถูกกดดันจากประเด็นดังกล่าว แต่เรายังคงมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะกลาง-ยาว การปรับลงเป็นโอกาสในการซื้อ
กลยุทธ์ : เก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่นและกลุ่มรับเหมา
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BCH, CPALL, IRPC, SCC, TMB
Fund Flow เมื่อวันศุกร์เม็ดเงินไหลเข้าภูมิภาค US$146ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$92ล้าน และไต้หวัน US$44ล้าน ขณะที่ไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังจากเกิดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีปะทุขึ้นอีก
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CK <<
เป็น 1 ในผู้รับเหมาหลักที่มีลุ้นงานประมูลรถไฟทางคู่อีก 5 สัญญาตลอดสัปดาห์นี้ หลังจาก ITD และ STEC ทยอยได้งานไปหมดแล้ว
งานในมือปัจจุบันมีอยู่ราว 1 แสนลบ. ถือว่ามีความมั่นคงสุดในกลุ่ม เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 2,302 ลบ. +9% Y-Y
ราคาหุ้น 1 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเพียง 2% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ขึ้น 5% และยังไม่สอดรับกับราคา BEM และ CKP ที่ปรับขึ้นอย่างโดดเด่น 5% และ 6% ในช่วงเวลาเดียวกัน จึงแนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 40 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯต่ำกว่าคาด โดยงวด ส.ค. 17 อยู่ที่ 156,000 คน ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 180,000 คน (ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน) และมีการปรับลดงวด ก.ค. 17 ลงเหลือ 189,000 คน จาก 209,000 คน Dollar Index ปรับตัวลงเล็กน้อยแล้วฟื้นกลับเร็ว เพราะถูกหักล้างด้วย ISM ภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 58.8 มากกว่าคาดที่ 56.5 แนวโน้มเงินสกุลสำคัญหลังจากนี้จะทรงตัวเพื่อรอดูผลประชุม FOMC วันที่ 19-20 ก.ย. 17
(+) กลุ่มรับเหมารอประมูลรับไฟทางคู่ โดยทั้ง 3 เส้นทางที่เหลือ คือ งานอุโมงค์มาบกะเบา-จิระ, ลพบุรี-ปากน้ำโพสัญญา 1-2, และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรสัญญา 1-2 จะเปิดให้ e-auction ในช่วง 4-7 ก.ย. 17 ซึ่งหลังจาก ITD ได้งานรถไฟทางคู่ไปแล้ว 2 สัญญา และ STEC ได้ 1 สัญญาคือ นครปฐม-หัวหินสัญญา 2 ทำให้การแข่งขันหลังจากนี้มีแนวโน้มเบาลง ถือเป็นปัจจัยบวกกับกลุ่มรับเหมาโดยรวม โดยเฉพาะผู้รับเหมาหลักที่ยังได้งานไม่มากทั้ง CK STEC UNIQ รวมถึงงานฐานรากอย่าง SEAFCO
(+) PLANB เบื้องต้นเราคาดกำไร 3Q17 โตทั้ง Q-Q และ Y-Y เป็นจุดสูงสุดของปี จากอัตราการใช้สื่อโฆษณาที่เพิ่มเป็น 75% จาก 70% ใน 2Q17 และ 60.3% ใน 3Q16 โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและการซื้อสื่อล่วงหน้าของลูกค้ามากขึ้น เรายังคงคาดกำไรปีนี้ที่ 2.9 พันลบ. +42% Y-Y ตามการใช้กำลังการผลิตสื่อที่พัฒนาจากปีก่อน และส่วนแบ่งรายได้บริหารสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอลฯเต็มปี ส่วนการเติบโตในระยะยาวขึ้นอยู่กับการเจรจาเพื่อหาดีลในต่างประเทศ ซึ่งยังไม่น่าส่งผลบวกทันทีในช่วงแรก ขณะที่ราคาปัจจุบันปรับขึ้นใกล้ราคาเป้าหมายที่ 6.30 บาท จึงแนะนำถือ
(0) CRD เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างทั้งงานก่อสร้างอาคาร สิ่งปลูกสร้างทั่วไป และระบบงานสาธารณูปโภคครอบคลุมทุกภูมิภาค แต่เน้นภาคเหนือตอนบน จุดเด่น คือ เน้นคุณภาพงานก่อสร้างและการส่งมอบทันตามกำหนด โดยมีประสบการณ์กว่า 27 ปี ด้วยธุรกิจก่อสร้างที่กลับมาเป็นขาขึ้นจากการลงทุนภาครัฐ และภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ กอปรกับมี Backlog ปีนี้กว่า 1 พันลบ. ทำให้เราคาดกำไรสุทธิปี 2017-1 โตเฉลี่ย 27% ต่อปี ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2018 โดย อิง PER ที่ 14 เท่า ได้เท่ากับ 1.90 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
4-ก.ย. - ไทย: Opp Day – TPBI MODERN EA EPG NDR
- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีราคาผู้ผลิต (ก.ค.)
5-ก.ย. - ฟิลิปปินส์: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีราคาผู้ผลิต (ก.ค.) ยอดค้าปลีก (ก.ค.)
6 ก.ย. - สหรัฐฯ: ดุลการค้า (ก.ค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจ Beige Book ของเฟด
7 ก.ย. - ยูโรโซน: GDP2Q17 ครั้งที่ 3 และการประชุม ECB
19-20ก.ย. - สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวก หลังประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมา 156,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 180,000 ตำแหน่ง ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไป
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย และ ECB จะทยอยลด QE อย่างค่อยเป็นค่อยไป
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบสืบเนื่องจากความกังวลสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีหลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้มีทดสอบระเบิดไฮโดรเจน
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งตัวในทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.14-33.17 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดบวก 0.06 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับขึ้นเล็กน้อยหลังสถานการณ์พายุฮาร์วีย์เริ่มคลี่คลาย โดยโรงกลั่นหลายแห่งกำลังกลับมาผลิตอีกครั้ง ส่งผลบวกต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบ
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 8.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,330.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากกระแสความคาดหวังว่าเฟดอาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research