- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 September 2017 17:00
- Hits: 4240
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET อยู่เหนือ 1600'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : วานนี้ SET บวกเล็กน้อย 2.82 จุดปิดที่ 1616.16 แต่ก็เป็นระดับเกือบสูงสุดของวัน แม้มีการขายทำกำไรกลุ่มแบงค์ พลังงาน สื่อสาร แต่การเลือกซื้อหุ้นขนาดกลาง-เล็กก็ช่วยพยุงตลาดไว้ ต่างชาติกลับเป็นซื้อสุทธิ 1.9 พันลบ. พอร์ตบล.ซื้อสุทธิ 1.1 พันลบ. สถาบันในปท.และรายย่อยขายสุทธิ
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยต่างประเทศ – รมว.คลังสหรัฐเผยว่าแผนปฎิรูปภาษีของทรัมป์คืบหน้าในรายละเอียดเชิงลึกแล้ว และคาดว่าจะผลักดันให้มีผลบังคับใช้ปีนี้ ด้านทรัมป์ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าลดภาษีภาคธุรกิจลงจาก 35% เป็น 15% ตามที่หาเสียงไว้ เงินเฟ้อส่วนบุคคลสหรัฐยังต่ำมาก (ก.ค.เพิ่มเพียง 0.1%MoM) ทำให้คาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่วนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3% หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดถึง 5.4 ล้านบาร์เรล เราคาดว่ากำไรกลุ่มโรงกลั่นใน 3Q60 จะดีขึ้น QoQ หุ้นเด่นเป็น PTTGC, PTT ปัจจัยติดตามคือตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่จะออกมาคืนวันนี้ (เวลาไทย) ถ้าไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนตำแหน่งก็ถือว่าเป็นไปตามคาด
ปัจจัยในประเทศ – เศรษฐกิจไทยเดือนก.ค.60 พบว่ารายได้ภาคเกษตรลดลงกดดันการบริโภคเอกชนให้ -0.7%MoM แต่การลงทุนเอกชนโตได้ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน (+0.9%MoM) ส่งออกที่ไม่รวมทองคำ +12.2%YoY นักท่องเที่ยวต่างชาติ +4.8%YoY และเงินเฟ้อยังต่ำมาก จึงคาดว่าดอกเบี้ยไทยจะทรงตัวต่ำไปถึงอย่างน้อยสิ้นปี 60 ส่วนรถไฟฟ้าสีม่วงใต้ วงเงิน 1.31 แสนลบ.คาดจะให้ประมูลภายในต.ค.นี้ (หุ้นรับเหมาน่าจะคึกคักขึ้น หุ้นเด่นเป็น CK, STEC, SEAFCO)
กลยุทธ์ลงทุน : ถือลุ้นต่อ/ซื้ออ่อนตัวเมื่อดัชนีไม่ต่ำกว่า 1600 จุด...โดย Selective Buy หุ้นที่มีแนวโน้มธุรกิจดี และราคายังมี Upside จากปัจจุบัน ส่วนหุ้นที่ราคาถึงเป้าหรือทะลุไปแล้วควรขายทำกำไร/หรือแบ่งขายทำกำไรบ้าง
โดยเฉพาะคนเล่นรอบ…หุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ช่วง 30 ส.ค.- 5 ก.ย.60 เป็น BBL (Value Play) และ MINT (Growth Play) ส่วนหุ้น Top Picks ของเดือนก.ย.60 เราเลือกเป็นAMATA, CPN, MINT, TISCO และ Dark Horse เป็น SEAFCO (ดูเพิ่มเติมใน Wealth Perspective - Equity ด้านใน) สำหรับเดือนส.ค.ที่ผ่านมา หุ้นที่เราเลือกให้ Return +2.8% สูงกว่าตลาดที่ +2.5% เล็กน้อย ส่วน Return สะสม 8M60 เท่ากับ +17.5% สูงกว่าตลาดที่ +4.0%วิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวก เน้นซื้อตามค่าบวก แนวต้าน 1620-1630, 1650 จุด หลุด 1600 ดูไม่ค่อยดีอาจต้อง Stop lossก่อน สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น THANI, CK, JMART, GCAP, BPP, SUPERหุ้นยังอยู่ใน List คือ TMT, CBG, CKP หุ้นหลุด List –ไม่มี- ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น WORK, AMATA,TCMC, RS, ROBINS
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค& Reseach Team – [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : ดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคลเพิ่มน้อยมาก คาดเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้
# ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้นเพียง 0.3%MoM ในเดือนก.ค. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%MoM ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานขยับขึ้นเพียง 0.1%MoM โดยดัชนีขยายตัวในอัตราดังกล่าวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้
• สหรัฐ : ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้
# ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดตัวเลขจ้างงานจะเพิ่ม180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ขยายตัวมากกว่า 200,000 ตำแหน่ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนก่อนหน้านั้น และคาดอัตราว่างงานเดือนส.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 4.3%
+ ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : หวังแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐคืบหน้าหนุนตลาด
# ดัชนี DJIA ปิด +55.67 จุด หรือ +0.25% ดัชนี S&P500 ปิด +14.06 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิด+60.35 จุด หรือ +0.95% หนุนโดยความหวังว่ามาตรการปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐจะคืบหน้า หลังจากนายมนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่าขณะนี้รัฐบาลมีแผนปฏิรูปภาษีที่ลงลึกในรายละเอียดแล้ว และกำลังผลักดันให้มีผลบังคับใช้ภายในปีนี้
# วันพุธที่ 30 ส.ค.60 ทรัมป์แถลงนโยบายภาษีที่เมืองสปริงฟิลด์ รัฐมิสซิสซูรี ว่าเป้าหมายการปฏิรูประบบภาษีของเขาคือการเดินหน้าปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 15% จาก 35% ในปัจจุบัน เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาพุ่งหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเกินคาด
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 47.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านBRENT เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 52.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุด 25 ส.ค. ซึ่งลดมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.5 ล้านบาร์เรล
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาปรับขึ้นหลังค่าเงิน US$ อ่อนค่า
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.62%ปิดที่ระดับ 1,322.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน US$ อ่อนลงหลังตัวเลขเงินเฟ้อส่วนบุคคลสหรัฐออกมาต่ำ
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• เศรษฐกิจไทยก.ค.60 : รายได้เกษตรลดลงกดดันการบริโภคเอกชน แต่การลงทุนเอกชนกระเตื้องขึ้น
# ธปท.ระบุว่าการบริโภคภาคเอ กชนเดือนก.ค.ชะลอลง -0.7%MoM (+2.3%YoY) เนื่องจากรายได้ภาคเกษตรที่
-2.6% เพราะราคาตกต่ำ -15.6% แม้ปริมาณเพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายหมวดท่องเที่ยวลดลงตามปัจจัยฤดูกาลเรียกว่า กำลังซื้อฐานรากยังเปราะบาง
# แต่...สิ่งที่ดีขึ้นคือ การลงทุนภาคเอกชน โดยเดือนก.ค. +0.9%MoM ซึ่งเพิ่มครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยหลักมาจากการลงทุนในเครื่องจักร & อุปกรณ์หลังส่งออกขยายตัวดี
# ส่งออกโตต่อที่ +8%YoY ถ้าไม่รวมทองคำจะ +12.2%YoY เพราะอุปสงค์ในตลาดโลกเพิ่มขึ้น อัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 61.5% และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ +4.8%YoY อัตราเงินเฟ้อทั่วไป0.17% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน 0.48% ซึ่งต่ำอยู่มาก ทาง DBS จึงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยจะทรงตัวในระดับต่ำต่อถึงอย่างน้อยสิ้นปี 60
• คมนาคมปรับแผน...ดึงเอกชนร่วมทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
# กระทรวงคมนาคมปรับแผนโครงการถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรม-ตลิ่งชัน) 16.4 กม. วงเงินลงทุน1.21 แสนล้านบาท โดยเปิดให้เอกชนเข้าร่วมทุนแบบ PPP (จากเดิมที่รัฐลงทุน 100%) โดยในสัญญาก่อสร้างงานโยธามีวงเงินลงทุน 9 หมื่นล้านบาท และปรับสัญญาเดินรถเป็นเอกชนรายเดียวทั้งส้มตะวันตกและส้มตะวันออก ขณะนี้กำลังทำรายละเอียดคาดจะเสนอให้สคร.พิจารณาได้ใน 4Q60
# ส่วนสายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) 23.6 กม. วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท กำลังทำร่าง TOR คาดจะเข้าสู่ขั้นตอนการประมูลภายในเดือนต.ค.นี้
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค –[email protected]
