- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 August 2014 18:33
- Hits: 2662
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SET ปรับสูงขึ้นต่อระยะสัปดาห์เป้าหมาย 1,570-1,600 จุด…การเมืองชัดเจนมากขึ้นรอเสนอชื่อนายกฯวันนี้: SET ปรับสูงขึ้น +0.51% ปิดตลาดที่ 1,550.77 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มสื่อสาร และรับเหมาฯ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 483 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้คาดว่าจะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง และคงเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,570-1,600 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากพัฒนาการเชิงบวกทางการเมือง โดยจะมีการเสนอชื่อนายกฯ วันนี้ ขณะที่รายงานการประชุม Fed แม้บ่งชี้ถึงโอกาสในการลดระดับการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายแต่นักลงทุนกลับให้น้ำหนักกับแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวมากกว่า และรอฟังถ้อยแถลงของประธาน Fed และ ECB วันที่ 22 ส.ค.นี้ที่ Jackson Hole Wyoming เกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงิน
“ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ: กลุ่ม Domestic Plays เป็นกลุ่มหุ้นที่ควรให้น้ำหนักมากกว่าตลาด หรือ “Overweight” ต่อไป แนะนำ “ซื้อ” KBANK KTB CK STEC SCC SPALI LH QH LPN MAJOR โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาฯ ที่ได้รับผลดีจากสถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพ และมีสัญญาณบวกจากการเริ่มเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายในเดือน ก.ย.นี้
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ “ถือ” AOT, BGH, BTS, CPALL, CK, EA, GFPT, SAMART, SPALI และ SPCG ต่อเนื่อง
“ซื้อ” CK…เป้าหมายระยะสั้น 28.75-29.0 บาท: จากสถานการณ์การเมืองที่มีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น และความชัดเจนต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2.4 ล้านล้านบาทในระยะ 8 ปีข้างหน้าที่มีความชัดเจนมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุน Outlook รายได้กลุ่มรับเหมาฯ ที่ชัดเจนมากขึ้น ทำให้เราคงน้ำหนักลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ ที่ “Overweight” และแนะนำ “ซื้อ” CK ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายระยะสั้นที่ 28.75-29.0 บาท (เป้าหมายพื้นฐานอยู่ระหว่างการปรับประมาณการ) ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ผลการดำเนินงาน 2Q14 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดการณ์กำไรเติบโตโดดเด่นใน 3Q14 จากการขายเงินลงทุนใน BMCL ในช่วงที่ผ่านมา คาดมีกำไรพิเศษประมาณ 1,000 ล้านบาท 2) ผลการดำเนินงานของบริษัทลูก อย่าง CKP BECL และ TTW มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ BMCL ได้รับผลดีจากการขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 3) ราคาหุ้นของบริษัทลูกที่ปรับสูงขึ้น หนุน NAV ขึ้นสู่ระดับ 3 หมื่นล้านบาท หรือ 65% ของ Market Cap ของ CK และ 4) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2.9 หมื่นล้าน ประมูลภายใน ก.ย.นี้ เป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น
Technical
คาดหวังทะลุ 1550 จุด: ดัชนี SET ทดสอบแนวต้าน 1550 จุด คาดว่าจะมีโอกาสทะลุขึ้นไปได้ เป็นโอกาสซื้อตาม สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1548 -1556 จุด โดยมีหุ้นสื่อสารเป็นกลุ่มนำตลาดขึ้น และตลาดมีเป้าหมายสำคัญที่ 1600 จุด
หุ้นที่แนะนำซื้อ: SAMART ขึ้นมาทดสอบยอดเดิมที่ 24.00 บาท และมีโอกาสทะลุผ่านแนวต้าน ระยะสั้นมีจังหวะซื้อตาม คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 25.00 บาท HEMRAJ กำลังทดสอบแนวต้าน 4.00 บาท คาดว่าจะผ่านแนวต้านเป็นจังหวะซื้อตาม โอกาสขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่ 4.10 - 4.20 บาท TRUE คาดว่าจะทดสอบยอดเดิมที่ 11.50 บาท และมีโอกาสทะลุผ่านไปได้ ด้วยเป้าหมายทำยอดสูงสุดใหม่ที่ 12.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,050 จุด และถัดไปที่ 1,058-1,060 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 1,028 จุด
Gold Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 19,650-19,900 บาท สัญญา GFQ14 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน โดยการปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับในกรอบสามเหลี่ยมบริเวณ 19,650 บาท เป็นสัญญาณเปิดสถานะ Short ตาม...ทั้งนี้แม้ราคาทองคำ COMEX จะปรับลดลง แต่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าหนุนการปรับสูงขึ้นของราคาทองคำในประเทศ
Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา BRU14 โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 3,240 ทั้งนี้เราเริ่มระวังต่อแนวโน้มการ Rebound มากขึ้น โดยกำหนด Trailing Stop ที่ 3,280
Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล