- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 31 August 2017 15:38
- Hits: 1780
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1636-1640
SET Index: 1610.21 ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นต่อเนื่อง รวมไปถึงการขึ้นเครื่องหมาย XD ในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT กดดันให้ SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบ อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาโครงสร้างการเคลื่อนไหวหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1600 จุดขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1635 และ 1650 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่เราแนะนำให้ขายหุ้นเมื่อทดสอบแนวต้านที่ 1635-1640 จุด
แนวต้าน : 1614 และ 1620
แนวรับ : 1610 และ 1607
PTT = 395 / 400, AOT = 53.00 / 54.50, IRPC = 5.90 / 6.00, KBANK = 200 / 202, TRUE = 5.50 / 5.60
Jay Mart (JMART TB; THB 15.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 15.60 และ 16.40
แนวรับ : 15.10 และ 14.90
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากถูกขายทำกำไรไปทดสอบแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ในขณะที่โครงสร้างในระยะยาวยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ JMART โดยมีแนวรับที่ 15.10 และ 14.90 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 15.60 และ 16.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 14.70 ลงไป
Better World Green (BWG TB; THB 1.84) – ซื้อ
แนวต้าน : 1.94 และ 2.00
แนวรับ : 1.84 และ 1.82
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง ในขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคเกิดสัญญาณขัดแย้งในเชิงบวก
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ BWG โดยมีแนวรับที่ 1.84 และ 1.82 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.94 และ 2.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ค่อยๆแผ่วตัวลง
หลังมีแรงซื้ออย่างมากจากนักลงทุนต่างประเทศและกองทุนภายใน ทำให้ดัชนี SET ดีดตัวขึ้นสูงถึงเกือบ 30 จุดท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่คึกคักมากๆ ไม่ว่าจะมาจากเหตุผลอะไร เรามองว่าภาวะที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งถูกเจือปนจากการเก็งกำไร โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศที่จู่ๆเข้ามาซื้อ หากดูก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติมักจะขายหุ้นแต่ไปเล่นตลาด Future ด้วยการ Long สะสมมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อจู่ๆเกิดมีการ Bullishตลาดด้วยการมองว่าการเมืองภายในจะคลายตัวลงหลังอดีตนายกยิ่งลักษณ์ หนีคดี นักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาซื้อหุ้นเพื่อดันดัชนี แล้วปิดสัญญาการ Long ส่งผลให้ตอนนี้ได้กำไร 3 ทอด คือ กำไรตลาดล่วงหน้าที่กินรวบพวก Short เมื่อวันอังคาร 2. กำไร Capital gain จากราคาหุ้น และ 3.กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หาก Convert จากบาทเป็นดอลลาร์ (หากบาทแข็งตัวต่อ)
การที่ต่างชาติเริ่มปิดสัญญาการ Long ตลาดล่วงหน้า ถือว่าเป็นการเล่นเก็งกำไร อย่างชัดเจน เพราะหากมองว่าตลาดจะดีขึ้นตามลำดับ ก็น่าจะที่เพิ่มสัญญาในการ Long นอกจากนั้นหากมาดูจำนวนบริษัทในตลาดหุ้นไทย ที่ขึ้นสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ในช่วงดัชนีพุ่งขึ้นถึง 30 จุดแต่กลับพบว่า มีจำนวนบริษัทที่ราคาสร้างสถิติ แค่ 3 % เท่านั้นเพราะใช้เฉพาะหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารและพลังงานในการหนุนดัชนี ถือว่าไม่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดจะดีมากๆ หรือไปต่ออย่างมีเสถียรภาพ (ดูรูปด้านซ้าย) ส่วนรูปด้านขวา เราแสดงค่า +/-1 และ +/-2 SD ของดัชนี SETในรอบ 5 ปี พบว่าตอนนี้ดัชนี SET กำลังขึ้นมาใกล้จุดสูงสุดเก่าในปี 2013 ที่ดัชนีขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1650 จุด จากรูปยังมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะขึ้นต่อ เพียงแต่ต้องมีปัจจัยหนุนที่ดีจริงๆ และจากรูปเหมือนกัน หากไม่ขึ้นต่อ ดัชนี SET ก็มีสิทธิลงได้แรงเหมือนกัน การเร่งดันดัชนีให้พุ่งขึ้นเร็วและแรงท่ามกลางตลาดกังวลกับความเสี่ยงที่จะเกิด ถือเป็มเกมส์การลงทุน ที่เคยได้ผลมาตลอดในช่วงปี 2016 ทั้ง Brexit การเลือกตั้งสหรัฐและการเลือกตั้งในอังกฤษ
กรอบสูงสุดในรอบนี้ของดัชนี SET เรามองที่ 1620-1630 จุดหรือที่บริเวณตอนนี้ การรีบขึ้นอาจหมายถึงจุดจบที่เร็วขึ้นเช่นกัน เพราะตอนนี้แรงซื้อค่อยๆ แผ่วลง ทั้งปริมาณการซื้อขายและเปอร์เซ็นการขึ้นของหุ้น โดยหุ้นที่ใช้หนุนดัชนีในกลุ่มพลังงาน ตามด้วยธนาคารพาณิชย์ ค่อยๆแผ่วลงเมื่อวานนี้ หลังดัชนีพุ่งขึ้นไปที่ 1626 จุด เรามองว่าดัชนี SET ในช่วงต้นถึงกลางเดือน ก.ย. น่าจะกลับลงมาเล่นกันต่ำกว่า 1600 จุดอีกครั้งหลังยังไม่เห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยปัจจัยที่จะนำลง คือ ความผันผวนของตลาดหุ้นต่างประเทศ
เมื่อคืนนี้มีการประกาศ FTSE Semi-Annual Index Review ปรากฎว่า EA ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนีตามคาด (คาดเม็ดเงินเข้าซื้อประมาณ 51 ล้านเหรียญหรือ 45 ล้านหุ้น หรือประมาณ 8 วันทำการ จากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 215 ล้านบาท) แต่ตลาดมีการเล่นเก็งกำไรมาก่อนแล้วทำให้คาดว่าราคาหุ้นอาจขึ้นไปได้ไม่ไกล ส่วน WORK เป็นหุ้นที่ตลาดไม่ได้มีการคาดหมายไว้ก่อนว่าจะเข้าดัชนี FTSE ทำให้ราคามีโอกาสปรับขึ้นได้มากกว่า ในขณะที่ BH ถูกถอดออกจากดัชนี FTSE Large Cap ไปเข้า FTSE Mid Cap แทน ทำให้คาดว่าจะมีแรงขายออกมา (เนื่องจากกองทุน Large cap มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารสูงกว่ากองทุน Mid Cap) เช่นเดียวกับ MBKET ที่ถูกถอดออกจาก FTSE Small Cap.
แม้ทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศจะยังเป็นปัจจัยเชิงบวกทางจิตวิทยากับตลาดหุ้นไทย แต่ด้วยดัชนี SET ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นแรงและไม่มีแรงซื้อใหม่ๆเข้ามา บวกกับกองทุนในประเทศเริ่มทยอยขายทำกำไรออกมา 2,356 ล้านบาท หลังจากที่ซื้อสุทธิมาทั้งปีกว่า 6.1 หมื่นล้านบาท ทำให้เราคาดว่าตลาดจะยังเผชิญกับแรงขายทำกำไรของกองทุนต่อเนื่อง ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเมื่อวานซื้อสุทธิไป 677 ล้านบาท (ลดลงจากวันก่อนที่ซื้อไป 4,821 ล้านบาท) ส่งผลให้ทั้งปีกลับมาซื้อสุทธิไป 837 ล้านบาทเป็นสัญญาณที่ดีว่านักลงทุนต่างประเทศจะซื้อหนุนตลาดหุ้นไทยต่อวันนี้เรายังมองเชิงบวกกับตลาดแม้อาจมีการขายทำกำไรปรับฐานบ้างก็ตาม เราให้แนวรับที่ 1610-1605 จุด แนวต้านที่ 1617-1620 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร CENTEL CPALL LH WORK
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,610.21 จุด ลดลง 3.13 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย21,952.29 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงขายทำกำไรจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน (จากการขึ้นเครื่องหมาย XD) ธนาคาร และสื่อสาร ขณะที่มีแรงเก็งกำไรจากกลุ่มโรงกลั่น หลังค่าการกลั่นที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยดัชนีผูจั้ดการฝา่ ยจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.ขยายตัว ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (พรุ่งนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย ผันผวนในกรอบแคบ แรงซื้อเริ่มชะลอตัว เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่มาหนุน ตลาดยังรอดูเม็ดเงินต่างชาติว่าจะเข้ามาต่อเนื่องหรือไม่ หากเข้ามาต่อเนื่องSET Index น่าจะยังยืนเหนือระดับ 1600 จุดได้ หากหลุดต่ำกว่าระดับ 1600 จุด แนะนำขายลดพอร์ต กลยุทธ์ระยะสั้นถือหุ้นใหญ่ที่ยังปรับตัวขึ้นมาช้ากว่าตลาดอย่าง PTT,SCB, ADVANC, PTTGC, BANPU ทางเทคนิคบ่ายมองแนวรับ 1605-1600 จุด แนวต้าน 1615-1620 จุด
Technical Pick (PM) ...
Jay Mart (JMART TB; THB 15.10) – ซื้อ
Better World Green (BWG TB; THB 1.84) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]