- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 31 August 2017 15:34
- Hits: 1559
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและ Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดก่อนที่จะมีแรงขายออกมาตามคาด โดยดัชนีแกว่งตัว Sideways ตลอดวัน โดยนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีก 677 ลบ. แต่ยัง Short ในตลาดฟิวเจอร์สหนาแน่นอีก 1 หมื่นสัญญา (ราว 2,000 ลบ.)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways แม้บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมที่สดใสจากตัวเลข GDP 2Q17 และการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ และ PMI ภาคการผลิตเดือน ส.ค. ของจีนออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด แต่เนื่องจากดัชนีปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงทำให้เชื่อว่าระยะสั้นอาจยังเห็นแรงขายทำกำไรออกมาจำกัดกรอบการบวก ขณะที่การปรับน้ำหนักใน MSCI และการทบทวนดัขนีฯรอบครึ่งปีของ FTSE คาดว่าไม่ได้ส่งผลต่อตลาดในภาพรวมอย่างมีนัยยะ หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและยัง Laggard น่าจะยัง Outperform ตลาดได้
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและ Laggard Play
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : EKH, EPG, ITEL, MTLS, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$29ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$68ล้าน และไทย US$20ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$54ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่ยังคุกรุ่นอยู่ แต่การไหลออกอาจชะลอลงหลังตัวเลข GDP ไตรมาส 2 และการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐที่ออกมาดี
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTLS <<
ความกังวลก่อนหน้านี้ถูกปลดล็อก ทั้ง (1) ประเด็นตั๋ว B/E ที่มียอดครบกำหนด ก.ย. 17 ราว 2 พันลบ. จะถูกชำระคืนบางส่วนและ Roll Over บางส่วนเพื่อให้ตลาดเบาใจ (2) ประเด็นเพิ่มทุน ด้วยสินเชื่อที่โตแข็งแกร่ง 30-40% ต่อปี และการลดอัตราจ่ายปันผลเหลือ 15% จะทำให้ D/E ยังต่ำกว่าข้อกำหนดของแบงก์ที่ 4 เท่าไปจนถึงปี 2020
จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นแตะ 2,200 แห่งที่เป็นเป้าทั้งปีเร็วกว่าคาด ทำให้ผลประกอบการ 2H17 ที่เป็น High Season จะยิ่งโตแรง เราคาดกำไรสุทธิ 3Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 640 ลบ. +12% Q-Q, +60% Y-Y และยังทำ All Time High ต่อเนื่องใน 4Q17 แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 39 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) Manufacturing PMI ของจีน ส.ค. 17 เพิ่มขึ้นเป็น 51.7 ดีกว่าตลาดคาด และถือว่าอยู่ในระดับแข็งแกร่งมาหลายเดือนจากการส่งออกและการลงทุนในประเทศที่ดีขึ้น ช่วยหนุนศก.โลกและราคา Commodity ต่อไป ส่วน PMI ภาคบริการลดลงแต่ยังอยู่เหรือระดับ 50
(+) ตัวเลขจ้างงานเอกชนสหรัฐฯ งวด ส.ค. 17 ดีกว่าคาดและดีสุดในรอบ 3 เดือน โดยอยู่ที่ 237,000 คน เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนที่ 201,000 คน ตลาดคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพรุ่งนี้จะออกมาดีตาม (ตลาดคาดต่ำเพียง 180,000 คน) Dollar Index เริ่มฟื้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ถูกกดดันระยะสั้นโดยเฉพาะน้ำมันและทองคำ เป็นลบกับพลังงานและ Global play
(+) บอร์ด PPP เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ปี 2017-21 มูลค่ารวม 1.62 ล้านล้านบาท หลักๆเป็นโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคม 94% (ท่าเรือสาธารณะ ขนส่งทางราง ถนน รถไฟความเร็วสูง เป็นต้น) เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศที่สูงถึง 13-14% ของ GDP แน่นอนว่าหุ้นกลุ่มรับเหมา วัสดุก่อสร้าง และธนาคารได้รับอานิสงส์
(0) AIT คาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะทะลุเป้าหมายที่ 5 พันลบ. โดย Backlog ล่าสุดอยู่ที่ 3.2 พันลบ. คาดรับรู้ปีนี้ราว 70% ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้น 3Q17 คาดใกล้เคียงกับ 2Q17 ที่ 20.2% เนื่องจากยังต้องรับรู้รายได้โครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน ประมาณการกำไรสุทธิปี 2017 ที่คาด +23% Y-Y มี Downside เล็กน้อยจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำคาด แต่จะถูกชดเชยจากการกลับรายการหนี้สูญหากสามารถเจรจาเรียกเก็บเงินจากลูกค้าภาครัฐสำเร็จ เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 31 บาท จาก Valuation ที่ถูก PE2017 เพียง 10.5 เท่าและผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงราว 7.7%
(0) ASEFA Opportunity Day วานนี้ให้โทนเป็นกลาง คาดกำไรเร่งตัวขึ้นใน 2H17 จาก High Season และมี Backlog รองรับสูงถึง 2.1 พันลบ. ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ 70-75% แต่อุตสาหกรรมที่ชะลอและการแข่งขันที่สูงอาจกดดันอัตรากำไรอยู่บ้าง แต่คาดว่าจะถูกหักล้างบางส่วนจากการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A เรายังคงประมาณการกำไรปี 2017 ที่ 324 ลบ. +13% Y-Y ส่วนระยะยาวจะโตจากการโครงการลงทุนของภาครัฐฯ คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2017 ที่ 9.70 บาท (ที่ PE 16.5 เท่า) ราคาหุ้นปัจจุบัน คิดเป็น PE2017 เพียง 12 เท่า และคาดปันผลทั้งปีสูงราว 5%
(-) K คาดผลประกอบการ 2H17 ยังไม่ฟื้น เพราะถูกกดดันจากทั้งการปรับโครงสร้างองค์กรที่มี 1 ทีมแยกตัวออกไป และงานตกแต่ง Shop Brand ที่ชะลอต่อเนื่อง ขณะที่ งานในมือ 645 ลบ. ส่วนใหญ่เป็นงานใหม่ที่เพิ่งเจาะตลาด ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยไม่สูง เป็นไปได้ที่ทั้งปีจะจบด้วยการขาดทุนราว 50 ลบ. ก่อนจะกลับมาฟื้นในปีหน้า ยังแนะนำเปลี่ยนตัวเป็น BKD (ราคาเป้าหมาย 4.90 บาท) ที่ผลประกอบการอยู่ในช่วง Turnaround และงานในมือที่มี 1.1 พันลบ. ไว้ใจได้มากกว่าเพราะเป็นงานถนัด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31 ส.ค. - ไทย: Opp Day –ARROW BEAUTY THANA ASP DEMCO GGC
31 ส.ค. - ไทย: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (ก.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.) อัตราการว่างงาน (ก.ค.)
- สหรัฐฯ: ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านรอปิดการขาย (ก.ค.)
1 ก.ย. - จีน: Caixin Manufacturing PMI (ส.ค.)
- ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ (ส.ค.) ISM ภาคการผลิต (ส.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกจากตัวเลข GDP และ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ออกมาสูงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม การขยับบวกยังถูกจำกัดจากความกังวลต่อสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่เฝ้าจับตาการแถลงนโยบายภาษีของทรัมป์
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากการประกาศตัวเลข CPI เยอรมนี และ ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของยูโรโซนที่สูงกว่าคาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดความกังวลต่อสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลกสอดคล้องกับตัวเลขเศรษฐกิจหลายแห่งที่ออกมาดีกว่าคาด
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ยังแกว่งตัว sideway ในกรอบแคบๆ ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.19-33.20 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดลบ 0.48 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 45.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับลดลงต่อเนื่องจากความกังวลต่อผลกระทบของพายุฮาร์วีย์ แม้ว่า EIA จะระบุสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 5.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.9 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 4.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,314.10 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และ ตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นขานรับตัวเลข GDP 2Q17 ที่แข็งแกร่ง
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research