- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 30 August 2017 15:37
- Hits: 1984
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> BJC, COM7, ERW
Stock S R Comment
BJC 48.00 49.50 ส่งสัญญาณฟื้น ไตรมาส3/2560 SSSG กลับมาเป็นบวก
COM7 12.60 13.00 เตรียมถอย Iphone 8 หนุนยอดขายโต
ERW 6.00 6.15 ขยายสาขา HOP INN ต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ
Stick to our game plan
New high : SET Index ดีดตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบสองปีครึ่ง แต่การปรับตัวสูงขึ้นของดัชนีนี้สวนทางกับประมาณการ EPS ของตลาดที่ยังคงถูกปรับลงอย่างต่อเนื่อง (ล่าสุดอยู่ที่ 100.3 และ 111.0 บาท สำหรับปี 2017 และ 2018 ตามลำดับ) ทำให้ Valuation ของตลาดหุ้นไทยในแง่ของ PE ตอนนี้มีความน่าสนใจน้อยลงไปอีก กล่าวคือ Forward PE ปี 2017E อยู่ที่ 16.1 เท่า เทียบเคียงเท่ากับระดับ +1.5SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาวแล้ว และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มองไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้อง Overweight หุ้นไทย ณ ขณะนี้
Fund flow : สำหรับสัญญาณเตือนในช่วงสั้นได้แก่การ Short สุทธิของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้ในตลาดล่วงหน้ากว่า 55,000 สัญญา ซึ่งนับเป็นปริมาณสูงสุดในประวัติการณ์ โดยก่อนหน้านี้ระดับสูงสุดอยู่ที่ 29,000 สัญญา เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา
Laggard : อย่างไรก็ดีด้วย Momentum เชิงบวกและความเป็น Laggard play ในตลาดหุ้นเกิดใหม่ของ SET Index อาจทำให้ดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1590 จุดได้ในอีกสักระยะ ซึ่งตัวหุ้นที่อาจได้อานิสงส์สำคัญคือหุ้นสมาชิกในดัชนี MSCI Thailand ที่ปรับตัว Laggard โดยหากนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจะได้แก่ KCE (-28%), TRUE (-22%), CPF (-10%), BDMS (-10%), PTTEP (-9%), BANPU (-9%) มองอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนในช่วงเวลาที่ดัชนีอยู่สูงเช่นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : แนะนำลดพอร์ทการลงทุนหลังจากที่ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่ากรอบบนของเราที่ 1600 จุด เนื่องจากไม่เห็นปัจจัยสนับสนุนใดๆทางด้านพื้นฐาน อย่างไรก็ดี SET Index อาจสามารถยืนเหนือระดับ 1590 จุดไปอีกสักระยะ จาก Momentum เชิวบวกและความเป็น Laggard play ในตลาดหุ้นเกิดใหม่ ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังคง Laggard (KCE, TRUE, CPF, BDMS, PTTEP, BANPU) ทั้งนี้แนะนำถือหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ต่อไป
1) กลุ่มสาธารณูปโภค เลือก BCPG และ WHAUP เป็น Top pick ของกลุ่ม จากแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ GLOW, EGCO, RATCH หากเน้นปันผล และ TPIPP สำหรับตัว Laggard
2) กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ได้แก่ KKP, TCAP, TISCO เนื่องจากมีอัตราเงินปันผลสูง และมีปัญหา NPL ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่
3) กลุ่ม Export-oriented ที่ราคาหุ้นตอบรับเชิงลบในช่วงที่ผ่านมาจากการแข็งค่าของเงินบาท จน Valuation เริ่มอยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA, KCE, SVI) และกลุ่มอาหาร/เกษตร (CPF, GFPT, TU)
แนวรับ 1,573 แนวต้าน 1,638
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]