WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน


ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
มีช่วงย่อตามปัจจัยภายนอก แต่คงมองเป็นจังหวะซื้อ
  KGI คาด SET วันอังคารผันผวนตามปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (geopolitics) ที่กลับมาอีกครั้ง ...แต่คงมองเป็นโอกาสซื้อหุ้น ท่ามกลางปัจจัยภายในประเทศที่เป็นบวกมากขึ้นทั้งจากความเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าทางการเมืองที่ลดลง และเศรษฐกิจไทยที่น่าจะเร่งตัวต่อในครึ่งปีหลัง (วานนี้ดัชนีฯ +0.63% ดีกว่าที่เราคาดเล็กน้อย) ช่วงเช้ามืดวันนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธตกนอกชายฝั่งญี่ปุ่น ส่งผลให้ตลาดการเงินกลับเข้าสู่ภาวะ risk-off อีกครั้ง สะท้อนจากดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลงและราคาทองคำที่พุ่งขึ้น อย่างไรก็ดีที่ผ่านมา SET มีความอ่อนไหวค่อนข้างน้อยจากปัจจัยในภูมิภาคเอเชียเหนือ และสถานะของนักลงทุนต่างชาติอยู่ในระดับต่ำ (จากต้นเดือน ส.ค. ต่างชาติปรับพอร์ตขายสุทธิหุ้นไทยแล้ว 1.15 หมื่นล้านบาท) คาดดาวน์ไซด์หุ้นไทยมีจำกัด ส่วนปัจจัยในประเทศ วันนี้จะมีการประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ นักลงทุนควรติดตามว่าจะมีการอนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมหรือไม่

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)


เก็งกำไร AMA, COM7*
  AMA (เป้าพื้นฐาน 20.1 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงาน 2Q60 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ โดยคาดจะเริ่มฟื้นตัวใน 3Q60 จากการเข้าซื้อเรือใหม่ 2 ลำ ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือน ก.ค. และ ก.ย. ตามลำดับ ทำให้คาดกำไรปี 2560 – 61 จะเติบโต 72% YoY และ 32% YoY ตามลำดับ 2) ราคาหุ้นที่ปรับลงแรงก่อนหน้า คาดสะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 2Q60 แล้ว ประเมินราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัวได้ตามคาด ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 18 -18.5 บาท สำหรับนักเก็งกำไรสั้น กำหนด Trailing stop หากราคาปิดวันนี้ต่ำกว่า 17.1 บาท

 

  COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) 1) คาด Apple เตรียมเปิดตัว iPhone ใหม่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ (เช่น Apple watch) วันที่ 12 ก.ย. นี้ ขณะที่สมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆ อาทิ Samsung เปิดตัวรุ่นใหม่ไปแล้ว / หัวเว่ย เตรียมเปิดตัวเดือน ต.ค.นี้ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟน ใน 4Q60 ซึ่ง COM7* ขายครบทุกยี่ห้อ (แต่สัดส่วนกำไรของ iPhone มากสุด) 2) คาดแนวโน้มกำไร 4Q60 > 3Q60 > 2Q60 จากการเริ่มธุรกิจใหม่ๆในช่วงปลาย 2Q – ต้น 3Q อาทิ i) การซื้อธุรกิจลีสซิ่ง ii) การเข้าบริหารพื้นที่ขาย ห้างโลตัส iii) การเปิดร้านมือถือ Oppo + หัวเว่ย iv) การรุกธุรกิจขายคอมฯเข้าหน่วยงานการศึกษาและองค์กร และ 4Q60 เป็น High season 3) ประเมินแนวรับ 12.2 บาท และ 12 บาท ตามลำดับ แนวต้าน 13.3 บาท และ 13.7 บาท ตามลำดับ (Stop loss 11.8 บาท)


หุ้นในกระแส
  Defensive stock (โรงไฟฟ้า EGCO*, โรงพยาบาล BCH*) จากประเด็นความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจเพิ่มขึ้น (ล่าสุดเช้ามืดวันนี้เกาหลีเหนือ ทดสอบการยิงขีปนาวุธข้ามญี่ปุ่น) คาดจะทำให้หุ้นกลุ่ม Defensive stock มีโอกาสที่จะพรีเมี่ยมขึ้นในระยะสั้น แนะนำ เก็งกำไร EGCO* และ BCH*
  กลุ่มรับเหมาฯ (ตัวใหญ่ STEC*, UNIQ / ตัวเล็ก SEAFCO, PLE) ในช่วง ปลาย ส.ค. – ก.ย. จะมีการประมูลโครงการภาครัฐฯจำนวนมาก i) โครงการรถไฟทางคู่รวม 7 สัญญา มูลค่า +6 หมื่นล้านบาท ii) TOR รถไฟฟ้าสายสีม่วง มูลค่า 1 แสนล้านบาท iii) งานทางด่วน + มอเตอร์เวย์ มูลค่ารวม +3 หมื่นล้านบาท เราประเมินจะเป็น Catalyst บวกสำหรับการ “เก็งกำไร” หุ้นในกลุ่มฯ โดยหุ้นรับเหมาฯ ตัวใหญ่ เลือก STEC*, UNIQ* ขณะที่หุ้นรับเหมาตัวเล็กเราเลือก SEAFCO (งานเสาเข็มจะเริ่มรับรู้รายได้ ก่อนงานอื่นๆ) และ PLE (PE ต่ำเพียง 9.1 เท่า ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ +20 เท่า)


หุ้นมีข่าว
  (+) BTS* เตรียมปรับเพิ่มค่าโดยสารรถไฟฟ้า สายสุขุมวิท (หมอชิต-อ่อนนุช) และสายสีลม (สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน) จากระดับราคา 15-42 บาท เป็น 16-44 บาท โดยมีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560 (New18) เราเห็นว่า การปรับเพิ่มค่าโดยสารสำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าระยะทาง 23.5 กิโลเมตรที่จะเกิดขึ้น จะช่วยทำให้รายได้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 1% จากระดับปัจจุบัน และมีผลบวกต่อกำไรสุทธิเต็มปีราว 3% อย่างไรก็ตาม เราไม่คาดว่า จะเห็นผลบวกทันทีในปีนี้ เนื่องจากการปรับเพิ่มค่าโดยสารจะถูกหักล้างโดยจำนวนผู้โดยสารที่ลดลงในช่วงแรก (ประมาณ 3 เดือน) เราประเมินเบื้องต้นว่า การปรับอัตราค่าโดยสารครั้งนี้ จะมีมูลค่าเพิ่มประมาณ 2.6% จากระดับราคาเป้าหมายปัจจุบันของเราที่ 10.60 บาท (โดยยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง) เรายังคงแนะนำซื้อ BTS
  (+) KBANK* จะลงทุนประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อลงทุนซื้อหุ้นสามัญของธนาคารแมสเปี้ยน (Bank Maspion) ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักในการให้บริการสินเชื่อรายย่อย และธุรกิจเอสเอ็มอี ความเห็น: การรุกถือหุ้นในธนาคารอินโดนีเซียเป็นถือเป็นการลงทุนในเชิงรุกของ KBANK ที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านพึ่งประกาศซื้อธนาคารในจีนด้วยเงินทุนประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นการสะท้อนถึงความจริงจังในการสร้างเครือข่ายธนาคารในต่างประเทศให้เข้มแข็งเพื่อที่ธนาคารจะก้าวรุกต่อไป และเป็นการขยายฐานการเติบโตนอกจากตลาดในประเทศ ยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 210 บาท


  (+) กลุ่ม "จีสตีล" ล้างหนี้หมื่นล้าน (กรุงเทพธุรกิจ) กลุ่มจีสตีลปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุนแทนการเข้าฟื้นฟูกิจการ หลังผิดนัดชำระหนี้ ชี้รอบนี้ลดภาระหนี้เกือบ 1 หมื่นล้าน โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กลุ่มกองทุนฮ่องกง 2.18 หมื่นล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.19613 บาท ส่งผลให้ถือหุ้นสัดส่วน 67.9% และถือในจีเจสตีล 42.9% แจงปรับโครงสร้างกลุ่มทุนใหม่ใส่เงินทุนหมุนเวียนทำให้กลับมาผลิตได้ตามปกติ เล็งส่งออก ปีหน้าตั้งเป้าสัดส่วน 10%
  (+) การเมือง-ราคาพืชผลฟื้นปรับยอดขายจยย.เพิ่มขึ้น (เดลินิวส์) นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดขายรถจักรยานยนต์ จาก 1.41 ล้านคัน เพิ่มเป็น 1.46 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 5 หมื่นคัน เนื่องจากครึ่งปีหลังได้รับอานิสงส์จากการเมืองที่นิ่ง ส่งผลให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในการใช้จ่าย และราคาพืชผลการเกษตร อาทิ ข้าว ยางพารา อ้อย และมันสำปะหลัง มีแนวโน้มฟื้นตัว รวม ทั้งธุรกิจด้านท่องเที่ยวดีขึ้น โดยเฉพาะในเชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี มีชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้น


  (+) บ้านปูแตกธุรกิจลุยโซลาร์เซลล์ (โพสต์ทูเดย์) บ้านปู ทุ่ม 1.35 หมื่นล้าน แตกธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ รับเทรนด์กรีนบิซิเนส นางสมฤดี ชัยมงคล กรรมการบริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี ผู้ให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัท บ้านปู เปิดตัวบริษัทในเครือใหม่ บ้านปู อินฟิเนอร์จี เพื่อดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการวางระบบ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รองรับกับแนวโน้มธุรกิจก้าวสู่การเป็นกรีนบิซิเนส


  (+) GMM25 คุ้มทุนเร็วขึ้น เจริญร่วมทุน 50% จีเอ็มเอ็มแชนแนลเทรดดิ้งลดขาดทุนแกรมมี่ (โพสต์ทูเดย์) แกรมมี่ยันผลการเข้ามาร่วมทุนของอเดลฟอสบริษัทกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี ลดผลขาดทุนจากทีวีดิจิทัลระยะสั้น และทำให้ถึงจุดคุ้มทุนเร็วขึ้น นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจจีเอ็มเอ็มมีเดีย และนางกานต์สุดา แสนสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ร่วมแถลงข่าว ผลจากการที่บริษัท อเดลฟอส ที่มี นายฐาปน และนายปณต สิริวัฒนภักดี บุตรชาย นายเจริญ สิริวัฒนภักดี กลุ่มไทยเบฟเวอเรจ เข้ามาถือหุ้น 50% ในบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง


  (+) ACAP ปล่อยกู้กลุ่ม GGC คาดครึ่งปีหลังเป๋าตุงต่อ (ข่าวหุ้น) เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป หรือ ACAP เซ็นเอ็มโอยูปล่อยกู้โรงงานผลิตน้ำมันปาล์มในเครือโกลบอลกรีน เคมิคอล คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1.2 พันล้านบาท ล่าสุดปล่อยแล้ว 400 ล้านบาท นาน 5 ปี ดันยอดสินเชื่อทะลุเกิน 6 พันล้านบาท มั่นใจไตรมาส 3 และ 4 โตต่อเนื่อง เตรียมนำบริษัทลูกเข้าตลาดปีหน้า


หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
  KBANK* (เป้าพื้นฐาน 210 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุด Trailing stop หากราคาปิดวันนี้ต่ำกว่า 197 บาท
  BAFS (เป้า Consensus 43.5 บาท ... สูงสุด 50 บาท) หากวันนี้ปิดต่ำกว่าแนวรับ 44 บาท แนะนำ “ขายตัดขาดทุน” แต่หากยืนได้ แนะนำ “ถือ”
  MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) ประเมินราคาหุ้นเริ่มสร้างฐานบริเวณ 6.5 บาท พิจารณาแนวต้านเทรนไลน์ 6.9 บาท หากผ่านแนวต้านดังกล่าวได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 7.25 บาท และ 7.5 บาท ตามลำดับ (Stop loss 6.45 บาท)
  SQ (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±6.7 บาท เป็นจุดขายทำกำไร และกำหนด Trailing stop 6.25 บาท
  ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้าน 4.0 บาท กำหนด Trailing stop 3.36 บาท
  ERW* (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) ประเมินแนวรับ 5.8 บาท แนวต้าน 6.2 บาท และถัดไป 6.4 บาท (Stop loss 5.5 บาท)

 

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
  กลุ่มอสังหาฯ น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” สรุปกำไรสุทธิรวมของกลุ่มอสังหาฯใน 2Q60 อยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% YoY แต่พุ่งขึ้นแรงถึง 72.8% QoQ ดีกว่าคาด 8.1% และกำไรสุทธิใน 1H60 ก็คิดเป็น 40% ของประมาณการ FY60 แม้กำไรรวมของกลุ่มฯจะออกมาดีกว่าคาดใน 2Q60 แต่การฟื้นตัวยังคงกระจุกตัว โดยกำไรของผู้ประกอบการที่เน้นโครงการระดับกลางถึงบนอย่าง ANAN*, AP*, LH* และ SIRI* เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ในขณะที่กำไรของผู้ประกอบการที่เน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย อย่างเช่น LPN*, PSH*, QH* และ SPALI* ฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น “มากกว่าตลาดฯ” เพราะประเมิน PE ที่ยังต่ำกว่า 10 เท่า และ Dividend yield สูงกว่า 5% นอกจากนี้ กำไรใน 2H60 ยังมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอีกด้วย จากยอด presales ที่เพิ่มขึ้น

 

Market strategy Thailand
  จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยรับ 1582 จุด
  วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1582 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1582-1596 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1582 จุดนั้น อาจทรงราคาในกรอบ 1582-1577 จุด
  แนวรับวันนี้: 1582/1578 แนวต้านวันนี้: 1591/1595

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!