- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 August 2017 15:36
- Hits: 1594
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นเด่นนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานปลายน้ำอย่าง PTTGC และ IRPC ในขณะที่พบมูลค่าการซื้อขาย BJC และ BEM กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ส่งผลให้ ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,585 (+9.9 จุด) มูลค่าการซื้อขาย 3.9 หมื่นล้านบาท (มี Biglot BEM 100 ล้านหุ้น)
นักลงทุนชาติ ขายสุทธิหุ้นไทย เป็นวันที่ 6 ที่ 1,924 ลบ. และ Long สุทธิ SET 50 Index Future ต่อเนื่องสูงถึง 16,993 สัญญา
Investment theme
Investment theme: วันนี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,580-1,590 โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธอีกครั้ง ถือเป็นปัจจัยกดดันการลงทุนตลาดหุ้นในภูมิภาค (ตลาดหุ้น EM เปิดตลาดลดลงเฉลี่ยประมาณ 0.53%)
ความไม่แน่นอนของสหรัฐ ส่งผลให้เก็งกำไร EM ได้ต่อ : ใน 1 เดือนที่ผ่านมา Trump สูญเสียบุคคลากรสำคัญทั้งในด้านความมั่นคง, ด้านสื่อ และด้านเศรษฐกิจ ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ประกอบกับมีการพูดคุยถึงประเด็นที่ นาย Gary Cohn จะถูกเสนอชื่อเป็น Candidate ประธาน FED คนต่อไปถัดจาก Yellen ที่จะหมดวาระในกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งมีการคาดการณ์ไว้ว่า Gary Cohn เป็นนักการเงินที่มีนโยบาย Dovish (คาดการณ์ว่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ อาจมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น EM) ประกอบกับการสัมมนาที่ Jackson Hole ไม่มีการส่งสัญาณใดๆจาก Yellen ส่งผลให้ Dollar index กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งในรอบ 15 เดือนที่ 92.4 ในขณะที่ ADXY (ดัชนีสะท้อนค่าเงินในกลุ่มประเทศ Emerging Asia เทียบกับ ดอลลาร์) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเช่นกันที่ 107.43 ซึ่งถือเป็น Sentiment บวกทางอ้อมต่อการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย โดยสำหรับ SET กลับมาดูดี ภายหลังปัจจัยกดดันการเมืองเริ่มผ่อนคลาย
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานสมาคมธนาคารไทยระบุกำลังอยู่ในช่วงพิจารณา หามาตราการช่วยเหลือ SME ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน / เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธอีกครั้ง ผ่านบริเวณญี่ปุ่นตอนบน และตกในทะเล / WTI ปรับลง 2.3%ที่ 46.73 เหรียญ/บาร์เรล จากประเด็นการปิดโรงกลั่น ส่งผลให้อุปสงค์ของน้ำมันดิบลดลง / ราคาทองคำปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 11 เดือน ที่ 1,316
บทวิเคราะห์วันนี้ TRC , EA , CENTEL
Opp.day วันนี้ GPSC TVD FTE CNT CHO AH LALIN
BCP ซื้อสะสม @ THB 40.0
เมื่อวานที่ผ่านมาค่าการกลั่นพุ่งแตะระดับ 9.0 เหรียญ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น +7.4% จากวันก่อน) สูงสุดในรอบ 3 ปี จากประเด็นพายุ Harvey พัดเข้าชายฝั่ง Texas ส่งผลให้โรงกลั่นหลายแห่งปิดตัว (supply cut) เช่น Exxon Baytown (อันดับ 2 ของสหรัฐ), Shell และอีกกว่า 10 โรงกลั่นต้องหยุดดำเนินงาน (คาดคิดเป็น 16% ของกำลังการกลั่นสหรัฐ ) ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มโรงกลั่น
คาดกำไร 3 ธุรกิจหลัก (โรงกลั่น,Bio,โรงไฟฟ้า) จะเติบโต QoQ พร้อมกัน ประกอบกับกำไร 1H60 คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 60% ของประมาณการกำไรปี 2560 ดังนั้นเรามองว่ามีโอกาสสูงที่ตลาดจะปรับประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมขึ้น
Trading idea – 3 หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ คือ BEM, CKP, TU / วันนี้คาดกลุ่มโรงกลั่น (TOP, SPRC, IRPC) เด่น
ยังคงติดแนวต้านสามเหลี่ยม: ดัชนีผ่านแนวต้านกรอบ Downtrend Channel ย่อย ด้วยแท่งเทียนที่มี Spread ที่ยาวขึ้น แต่ด้านบนยังคงติดแนวต้านของกรอบสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่บริเวณแนวต้าน 1587-1590 มองว่าระยะสั้นมีโอกาสอ่อนตัว เนื่องจาก Modified Stochastic ขณะนี้ที่ยังคงติดแนวต้านเขต Overbought คาดจะอ่อน มองแนวรับระยะสั้นที่ 1580 และ 1575 กลยุทธ์การลงทุน (1) พิจารณาโซนแนวต้าน 1587-1590 หากปะทะแล้วอ่อนตัว ทยอยทำกำไร (2) หากผ่านแนวต้าน 1590 ได้ แนะนำ Let Profit Run
แนวรับ : 1575, 1580 แนวต้าน : 1587-1590, 1600
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : จับตาความคืบหน้าของแผนการลดภาษีสหรัฐ / การรายงาน GDP ไตรมาส 2 และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพุธที่ 30 ส.ค. / ยุโรปรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ในวันพฤหัสที่ 31 ส.ค.
ปัจจัยในประเทศ : อังคารนี้จับตา ครม.ตั้งกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ / ประธานกทพ.ระบุ กันยายนนี้ อาจได้ข้อสรุปการขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 / งาน Thailand Focus เริ่มวันนี้ มีบริษัทฯเข้าร่วมกว่า 150 บริษัทฯ
หุ้นเทคนิค:
IRPC (B 5.70-5.80, Tp 6.20//6.60, Cut 5.60)
AOT (B 51.50-52.00, Tp 54.00//56.00, Cut 50.50)
นักวิเคราะห์ : สุกิจ อุดมศิริกุล / สรพล วีระเมธีกุล / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000