- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 August 2017 16:06
- Hits: 2525
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,570-1,590
SET ปิด 1,575.85 หรือ -0.01% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 437 ล้านบาท มองประเด็นการเมืองกระทบตลาดไม่มาก
เรามองอย่างไร:
เรามีมุมมอง 'บวก' ต่อปัจจัยการเมืองเพิ่มหลังคุณยิ่งลักษณ์ จะขอลี้ภัยการเมืองในอนาคตจาก 1) ความกังวลต่อความขัดแย้งการเมืองระยะสั้นจบลง 2) นักลงทุนจะกลับมาสนใจแนวโน้มการเติบโตกำไร และ valuation ตลาดที่น่าสนใจในปี 2018 3) การเมืองยังมีเสถียรภาพต่อไป และการลงทุนภาครัฐฯ รวมไปถึงการออกกฎหมาย EEC ยังดำเนินต่อไป ขณะที่ Fed และ ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณการต่อใช้นโยบายการเงิน ที่ Jackson Hole
ทำอะไรดี: 1.'ซื้อ' หุ้นโรงกลั่น ผลดีค่าการกลั่นสูง US$8/bbl หนุนกำไร 3Q17 โดยเฉพาะ TOP ESSO (PE ต่ำ 6x) SPRC ขณะที่ PTTGC เป็น laggard play ที่กำไรจะเติบโตสูง 2H17 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 2."ซื้อ" หุ้นปันผลสูง มองดอกเบี้ยต่ำนาน โดยเฉพาะ KKP รับปันผล 2.9% XD 5 ก.ย.นี้ และล่าสุดจะเร่งออกกองทุน Thailand Future Fund ภายในปีนี้ และ CPNRF ประชุมผู้ถือหุ้นแปลงเป็น REIT วันนี้
3.'ซื้อ' กลุ่มนิคมฯ มองนโยบายพัฒนาพื้นที่ EEC มีความต่อเนื่อง 'ซื้อ' AMATA (PE18 11.2x) และ WHA (PE18 14x)
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ' BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI และ WORK (ไม่เปลี่ยน)...Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +0.9% ดีกว่า SET ที่ปรับสูงขึ้น +0.6% ในสัปดาห์ก่อน โดย SAWAD KKP และ EA ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือปรับสูงขึ้น 5.3%, 3.0% และ 2.9% ตามลำดับ ขณะที่การปรับลดลงของ BEAUTY เป็นโอกาส 'ซื้อ'
Fundamental:
PTTGC: 'ซื้อ'พื้นฐาน 86.0 บาท...ลงทุนโรงงานผลิต Polyols กำลังการผลิต 130K ตัน/ปี และ Polyurethane 20k ตัน/ปี โดยจะถือหุ้น 82.1% และที่เหลือถือหุ้นโดย Sanyo Chemical 14.9% และ Toyota Tsusho 3% เพื่อที่จะ integrate ไปยัง downstream มากขึ้น เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ใน 2020
Today's News:
Jackson Hole: ประธาน Fed และ ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินในระยะถัดไป ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงต่อเนื่องหลังการประชุมที่ Jackson Hole และ Bond yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลดลงที่ 2.17%
จำนำข้าว: คุณยิ่งลักษณ์ไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฯ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. และคาดว่าจะขอลี้ภัยการเมืองในต่างประเทศ มองเป็นปัจจัย "บวก" ต่อเสถียรภาพการเมือง
Technical Story: Technical SET range: 1,564-1,583
มีลุ้นขึ้นต่อไปในเขต 1,580 จุด: (รายงาน The Technical Story)SET แกว่งขึ้นยืนเหนือ 1,575 จุด มีด่านถัดไปที่ 1,578 จุด ทะลุได้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,583 จุด ส่วนกรณีแกว่งตัวลงแนวรับมีที่ 1,571 จุดถัดไปที่ 1,568 จุด และ/หรือ 1,564 จุด หุ้นแนะนำ: EA เข้าเพิ่ม เป้าหมาย 37.50 บาทIRPC เข้าซื้อส่วนหนึ่งเมื่อทะลุ 5.75 เป้าหมาย 6.50 บาทINTUCH เข้าซื้อเพิ่มที่ 55 เป้าหมาย 57.50 บาทSYNTEC ซื้อและเพิ่มเมื่อทะลุ 5.35 เป้าหมาย 5.90 และ 6.10 บาทDerivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)"ถือ" สถานะ Long S50U17 เป้าหมาย 1,007.Trailing Stop 993 "Long" BlockTrade TMB เป้าหมาย 2.50 บาท...Leverage 12x TradeCode: Buy >PLAT, TTA, ESSO
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical portfolio ปรับสูงขึ้น +0.9% ดีกว่า SET ที่ปรับสูงขึ้น +0.6% ในสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้แม้ว่า BEAUTY จะให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ต หรือ -3.2% แต่มองเป็นโอกาส "ซื้อ" ด้วยแนวโน้มกำไรที่ขยายตัวแข็งแกร่ง และโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ขณะที่ SAWAD KKP และ EA ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือปรับสูงขึ้น 5.3%, 3.0% และ 2.9% ตามลำดับ...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัว ต่อเนื่อง ได้แก่ BEAUTY EA KBANK KKP LIT MTLS SAWAD STEC THANI WORK
'ซื้อ' KKP (TP 77).แนะนำ "ซื้อ" KKP ต่อเนื่อง มีโอกาสปรับสูงขึ้นไปที่จุดสูงสุดเดิมที่ 75 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การประกาศจ่ายเงินปันผล 2 บาท/หุ้น XD วันที่ 5 ก.ย.นี ให้ผลตอบแทนสูง 2.9% และจะทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ KKP 2) กทพ.ยินยอมที่จะโอนสัญญาโอน และรับสิทธิโอนในรายได้ โครงการทางพิเศษฉลองรัช และบูนพาวิถี เพื่อโอนรายได้ในอนาคต 45% ให้กองทุน Thailand Future Fund เป็นเวลา 30 ปี เป้าหมายระดมทุนภายในปีนี้เป็น catalyst บวกต่อการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมใน 2H17
KKP - มีจังหวะ "ซือ" ลุ้นกลับไป high เดิมที่ 75 บาท
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA: ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
DELTA: เรามองภาพ turnaround ปีนี้จากธุรกิจยานยนต์ที่จะเติบโตโดดเด่น และธุรกิจเก่าที่ชะลอตัวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น
DTAC: มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KCE: ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
KKP: หุ้นปันผลสูง เติบโตมั่นคง ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ
MINT: ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีการฟื้นตัวและขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ
STEC: ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
WORK: ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979