- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 August 2017 15:53
- Hits: 1476
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้านสำคัญ 1585 แนวรับ 1570
SET Index: 1582.27 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านที่ 1580 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1585 จุด น่าจะมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไรต่อเนื่อง แต่ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1600 และ 1620 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ และมีแนวรับที่ 1570 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย
แนวต้าน : 1582 และ 1585
แนวรับ : 1580 และ 1578
IPRC = 5.80 / 5.90, BANPU = 17.20 / 17.40, AOT = 51.50 / 52.50, PTT = 392 / 395, TOP = 92.00 / 93.50
PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 75.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 78.00 และ 80.00
แนวรับ : 75.50 และ 75.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่บริเวณ 76.00 หลังจากเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ PTTGC โดยมีแนวรับที่ 75.50 และ 75.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 78.00 และ 80.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 74.00 ลงไป
Chow Steel Industries (CHOW TB; THB 4.38) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.60 และ 4.78 / แนวต้านสำคัญ 5.00
แนวรับ : 4.38 และ 4.34
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม แต่โครงสร้างในระยะยาวน่าจะผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้แล้ว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ CHOW โดยมีแนวรับที่ 4.38 และ 4.34 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.60 และ 4.78 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.20 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…เน้นไปที่หุ้นมี indicator ให้ดู
เมื่อการพิจารณาคดีรับจำนำข้าวต้องเลื่อนออกไปอีก ขณะที่ผลการประชุมของทางประธานธนาคารกลาง FED และ ECB ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรเกี่ยวนโยบายทางการเงิน ส่งผลให้ในอาทิตย์นี้ตลาดหุ้นทั่วโลก น่าจะกลับมาให้ความสำคัญกับ การผ่านร่าง Debt Ceiling ของสหรัฐที่จะมีเส้นตายในวันที่ 29 ก.ย. หากสภาคองเกรสไม่ผ่านแผนปรับเพิ่มเพดานหนี้ จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้หรือ Default อีกครั้งเหมือนอย่างในวันที่ 1-16 เดือน ต.ค. 2013 แต่อย่างไรก็ตามตลาดยังคาดว่าสภาคองเกรส จะผ่านแผนดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบกับแผนการลดงบดุลที่คาดว่าทาง FED จะส่งสัญญาณในการประชุมเดือนหน้า
เมื่อตลาดไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ในการเทรด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ขึ้นไปสร้างจุดสูงสุด ทำให้มองกันว่าทิศทางดัชนีหุ้นทั่วโลก ในเดือน ก.ย. นี้มีโอกาสผันผวนได้ ประเด็นในเดือนนี้หากจะทำให้เกิดความผันผวน คือ ปัญหาในคาบสมุทรเกาหลี และการเร่งปฎิรูปภาษีของสหรัฐ ส่วนประเด็นอื่นๆ ยังมองไม่เห็น ดังนั้นการเทรดหุ้นในช่วงเดือน ก.ย. อาจจะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและพร้อมที่จะผันผวน แต่จะแรงหรือไม่ ยังต้องติดตาม แต่หากทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ตลาดหุ้นสหรัฐ คงจะขึ้นสร้างสถิติสูงสุดไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามจากตัวเลขของ IIF พบว่ามีเม็ดเงินเริ่มไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2017 สอดคล้องกับการรายงานของ BoAML ที่บอกว่ามีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่เป็นสัปดาห์แรกในรอบ 22 สัปดาห์ จากเหตุผลว่านักลงทุนเริ่มลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นและพันธบัตรเป็น Neutral
เรามองว่าเมื่อไม่มี Theme การเล่นใหม่ๆ การลงทุนจะเร็วขึ้นและเต็มไปด้วยความผันผวน ดังนั้นหุ้นที่จะเล่นกัน น่าจะเป็นหุ้นที่มี Indicator ดูในแต่ละวัน เพื่อลดความเสี่ยงของการลงทุน โดย Indicator ดังกล่าว ประกอบไปด้วย ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมัน-ค่าการกลั่น-ถ่านหิน ราคาโลหะพื้นฐาน อย่าง เหล็ก-ทองแดง และดัชนี BDI (ดูรูปด้านซ้ายและขวา) ในรูปด้านซ้าย จะพบว่าค่าเงินดอลลาร์ จากที่เคยแข็งตัว ตอนนี้เริ่มค่อยๆ อ่อนตัวลง โดยค่าเงินบาทในรอบ 1 ปีแข็งตัวมาที่ –2SD ส่วนรูปด้านขวา เป็นดัชนี BDI ราคาทองแดง ราคาถ่านหิน ราคาน้ำมัน และค่าการกลั่น
ประเด็นที่สำคัญต่อการลงทุน คือ การตีความอดีตนายกยิ่งลักษณ์หนีคดี ที่จะส่งผลให้ความตึงเครียดทางการเมืองในไทยจะคลายตัวลง และอาจทำไห้ทาง คสช. เร่งให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น ซึ่งประเด็นนี้เรามองว่ายังต้องติดตามรายละเอียด อีกสักพัก แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีแรงซื้อและขายมาในช่วงสั้นๆ ประเภทเก็งกำไร
เปิดขึ้นมาช่วงนี้คาดดัชนี SET จะเหวี่ยงตัวแรงขึ้น จากผลของอดีตนายกยิ่งลักษณ์หนีคดีรวมทั้งแรงกดจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุป วันนี้มองแนวต้านที่ 1580-1585 จุดและแนวรับที่ 1570-1567 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BANPU SVI ERW AOT
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,582.27 จุด เพิ่มขึ้น 6.42 จุด (+0.41%) มูลค่าการซื้อขาย17,706.11 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น หลังตลาดคลายกังวลทางการเมือง ดัชนีปิดเหนือ 1580 จุดได้ โดยมีแรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมี อสังหาฯ หลังตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับการเมือง ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตลาดน้ำมันจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ที่พัดถล่มสหรัฐ
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งขึ้น ภาพรวม SET Index เกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไร หลังสามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 1580 จุดได้ต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากบรรยากาศทางการเมืองที่น่าจะดีขึ้น เรามองว่าคงต้องจับตาดูแรงซื้อหลังจากนี้ หากมีสัญญาณซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาจะเป็นการยืนยันสัญญาณซื้อรอบใหม่ ซึ่งคาดว่าหุ้นใหญ่อย่างกลุ่มพลังงาน สื่อสาร ธนาคาร รับเหมาก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ มีโอกาสดีดตัวนำตลาดขึ้นมา ในกรณีดังกล่าว เราชอบชุดหุ้น PTT, PTTEP, ADVANC, SCB, TMB, LH,AP, CK, STEC มองแนวต้านถัดไป 1595 จุด และแนวรับ 1578 จุด
Technical Pick (PM) ...
PTT Global Chemical (PTTGC TB; THB 75.50) – ซื้อ
Chow Steel Industries (CHOW TB; THB 4.38) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]