- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 August 2017 15:36
- Hits: 14909
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Sideways
วันนี้คาด แกว่งในกรอบ 1,565-1,580 จุด วันนี้คาดกรณีคำตัดสินคดีจำนำข้าว 25 สค. จะไม่มีผลต่อตลาด
หุ้นไทย เช่นเดียวกับคดียุบพรรคการเมืองรวมถึงคดีการเมืองอื่นๆในอดีต ยกตัวอย่างเช่น คดียุบพรรคพลัง
ประชาชน เมื่อ 2 ธค.2008
แนวโน้มสัปดาห์นี้ 'เด้งสลับย่อ กรอบเดิม 1,555-1,580' ดัชนีฯเป็นตามคาดแต่ หุ้นตัวกลางเล็ก ที่เล่นดักงบ
3Q17 ประกาศต้นเดือน กย. เช่น PICO TAPAC ไม่ขึ้น (ผิดคาด) ส่วนหุ้นฤดูกาล หุ้นส่งออก ท่องเที่ยว ซึ่ง
ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนทางอ้อม GFPT CCET DELTA CENTEL AOT ค่อยๆขยับขึ้น และคาดมีโอกาสขึ้น
ต่อในสัปดาห์หน้า โดยกลุ่มโรงพยาบาลเป็นกลุ่ม Seasonal ที่ขึ้นแรงเกินคาดในสัปดาห์นี้
หุ้นแนะนำวันนี้
CENTEL แนวรับ 39 ต้าน 41/42 Stop loss 38.5 Laggard MINT โดย CENTEL เทรดบน PE ปี 17-18 ที่
26-23 เท่า (ส่วน MINT 31-27 เท่า) CENTEL ROE 18% (Vs MINT ROE 14%) และหากรัฐมีมาตรการ
กระตุ้นการท่องเที่ยวจริงคาด CENTEL ซึ่งมีโรงแรมทั่วประเทศไทย 50% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม จะได้
ประโยชน์สูงกว่ากลุ่ม
CPN แนวรับ 67.5 ต้าน 70 Stop loss 66 ข่าวบวกเมื่อวาน คำตัดสินของศาลฏีกา สะท้อน CPN มีโอกาส
ในการได้เงินชดเชยประกันจาก กรมธรรม์ ประกันภัยก่อการร้ายที่ทำไว้ 3.5 พันล้านบาท
รายงานวันนี้
SEAFCO (Company Update): New norm of backlog = New norm of
valuation
เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น 'ซื้อ' ... 1) คาดกำไร 2H17 จะเติบโต 70%YoY โดยรายได้ที่เราคาดการณ์ มี
Backlog รองรับไว้หมดแล้ว 2) Backlog กำลังจะแตะระดับ 2,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ จากการรับงาน
รถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 3) การประมูลงานภาครัฐในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า จะ
ผลักดัน Demand งานรากฐาน (กำแพงกันดิน – เข็มเจาะ) และเกิด Supply shortage หนุนให้มาร์จิ้นสูงขึ้น
เรามองว่าด้วย Outlook อุตสาหกรรมที่สดใสที่สุดในรอบหลายปี และด้วย New Norm Backlog ที่สูงขึ้นจน
รองรับรายได้ล่วงหน้าไปถึง 1 ปี (ก่อนหน้านี้รองรับแค่ครึ่งปี) เราคาดราคาหุ้นจะเทรดบน New Norm
Valuation สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 19.00 บาท อิง P/E 27 เท่า (+2SD เหนือ
ค่าเฉลี่ยในอดีต)
กลุ่มยานยนต์ (Sector Update): July output inched up YoY, as expected
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) รายงานยอดผลิตรถยนต์เดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 3.3%YoY (แต่อ่อนตัว
ลง 9.3%MoM) หนุนโดยความต้องการในประเทศเพิ่มขึ้น 7.5% YoY (แต่ลดลง 6.6%MoM เพราะอัตรา
ภาษีที่สูงขึ้น และน้ำท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ในส่วนของการส่งออกลดลง 9.2%YoY และ 3.3%MoM
FTI ปรับลดคาดการณ์การผลิตรถยนต์ลงเหลือ 1.93 ล้านคัน (เดิม 2.0 ล้านคัน) อย่างไรก็ดีเรามองว่าจะเห็น
ภาพกำไรของหุ้นในกลุ่มฯเติบโต YoY ใน 3Q17 ได้ เราเลือก AH เป็น top pick
GRAMMY (Company Update): Sirivadhanabhakdi to take big stake in
GMM Channel Trading
GRAMMY ประกาศการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท อเดลฟอส จำกัด (กลุ่มสิริวัฒนภักดี) ในบริษัท จีเอ็ม
เอ็มแชนแนล เทรดดิ้ง จำกัด โดยบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ประกาศเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน
12 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 100 บาท GRAMMY จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1.99 ล้านหุ้น และบริษัท
อเดลฟอส จำกัด (มีนายฐาปน สิริวัฒนภักดีและนาย ปณต สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่) จะเข้าซื้อหุ้น
เพิ่มทุนในจำนวนที่เหลือ 9.99 ล้านหุ้น (มูลค่า 1 พันล้านบาท) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้งถือหุ้นใน
บริษัทอื่น ประกอบด้วยบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด (GMM 25) ,บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด ,บมจ.จี
เอ็มเอ็ม มีเดีย , บริษัท เอ-ไทม์ มีเดีย จำกัด และบริษัท เอ-ไทม์ ทราเวิลเลอร์ จำกัด ภายหลังการเข้าซื้อหุ้น
เพิ่มทุนสำเร็จ GRAMMY และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่จะถือหุ้นฝ่ายละ 50% เรามองว่าในระยะสั้นการประกาศดีล
ดังกล่าวจะเป็นบวกต่อ GRAMMY เนื่องจากผลขาดทุนที่รับรู้จากบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง จะ
น้อยลง รวมถึงในระยะยาวการเข้ามาของกลุ่มสิริวัฒนภักดีคาดมีโอกาสจะเข้ามาหนุนการดำเนินธุรกิจดิจิตอล
ทีวี เนื่องจากมีฐานเงินทุนค่อนข้างแข็งแกร่ง และเป็นบริษัทที่มีการใช้เม็ดเงินโฆษณาค่อนข้างมาก (820
ล้านบาท YTD) อย่างไรก็ตามในแง่ของ Valuation ส่วนแบ่งกำไรระยะยาวจากธุรกิจดิจิตอลทีวีช่อง GMM25
จะลดลง เรายังรอดูพัฒนาการที่จะเกิดขึ้น (Synergy) จากการเข้ามาของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ทั้ง กลุ่มปราสาท
ทองโอสถ และกลุ่มสิริวัฒนภักดี
ITEL: Feedback from Opportunity day
นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นในการเติบโตของบริษัทหลังจากที่บริษัทได้ลูกค้า Corporate ใหญ่เข้ามาเป็น
ลูกค้า Data service เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารให้ข้อมูลว่า บริษัทได้ลูกค้า Corporate เข้ามาอีกหลาย
ราย เช่น SAWAD , AEONTS , TIPCO , กองสลากฯ เป็น ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาเรื่อยๆ เพิ่มเติมจาก
เมื่อต้นปีที่ได้ลูกค้า MTLS และ 7-11 ไปแล้ว และกลางเดือน ก.ย. คาดจะสามารถเซ็นสัญญา โครงการ
Backup submarine cable เมียนมา ไทย และสิงคโปร์ ของ คัมปานา มูลค่า 600 ล้านบาท ระยะเวลาสัญญา
10 ปี จากแนวโน้มกำไรที่จะดีขึ้นทุกไตรมาส หนุนกำไรครึ่งปีหลังที่จะเติบโตแรง เกิน 100%YoY เนื่องจาก
ธุรกิจเช่าวงจร Data service อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวรายได้ เรา แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) BBL KBANK SCB คาดมีปันผลระหว่างกาลรออยู่...ทั้งนี้ช่วงปลายเดือน สค.-กย. ราคาหุ้นกลุ่ม
แบงก์มีโอกาสขึ้นรับประกาศปันผลระหว่างกาล หลังแจ้งงบสอบทาน (ที่มา BLS research)
(+) BBL ประกาศปันผลระหว่างกาล 2 บ. XD 5 กย. (ที่มา ตลท)
(+) COM7 JMART Samsung’s new handset features plus-size display and duallens
camera
On August 23, Samsung Electronics unveiled the Galaxy Note 8 in New York. It is
scheduled to go on sale globally on Sept. 15, starting from Korea. The new phone’s “infinity”
display, which covers nearly the entire front of the handset, measures 6.3 inches, 0.1 inch
bigger than the Galaxy S8 Plus. Other features include a dual-lens camera (with an optical
image stabilizer), which Samsung adopted for the first time on its handsets, a stylus pen
(called S-Pen), voice assistant Bixby, a 3300mAh battery, a 6GB memory chip, and an iris
reader.
We think the Note 8 will help Samsung clean up its image tarnished by the recall of the
Note 7 last year and trigger a phone upgrade among its loyal customers.
Equipped with latest technologies, the phone will likely lead the high-end smartphone
market in 2H17. Its success will raise the prospect for the upcoming Galaxy S9 (due out in
1H18) and, by extension, smartphone parts makers. (Source DAISHIN Securities)
(+) ITD STEC CK UNIQ: กำหนดเคาะ ประมูล e-Auction สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่
(1) 31 สค. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ทั้งสัญญาที่ 1 (6.6 พันลบ.) และสัญญาที่ 2 (6 พันลบ.)
(2) 1 กย. ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ สัญญาที่ 1 (7.7 พันลบ.) และสัญญาที่ 2 (7 พันลบ.)
(3) 4 กย. ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 (8.8 พันลบ.)
และมีลุ้นประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ปลายปีนี้: โดยเมื่อวาน บอร์ด รฟม. โดยพลเอกยอดยุทธ
บุญญาธิการ เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ
(1) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท
ซึ่งครม.เห็นชอบแล้วอยู่ระหว่างร่างทีโออาร์ประมูลและพิจารณาแบ่งสัญญาก่อสร้าง ตามกายภาพและ
มูลค่าแต่ละสัญญา คาดว่าจะเปิดประมูลได้ ธ.ค. 60 และเริ่มก่อสร้างธ.ค. 61
(2) รถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้านตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์นั้น อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมรูปแบบ
การลงทุน PPP คาดว่าจะเสนอครม.ได้ใน เม.ย. 61 เลื่อนจากแผนเดิมที่จะเสนอครม.ในเดือน ก.ค.60 ทั้งนี้
จะไม่กระทบต่อการเดินรถสายสีส้มตะวันออกที่ก่อสร้างไปก่อน เนื่องจากสามารถแบ่งเฟสเดินรถได้
(+) XD ปันผลระหว่างกาล:
ศุกร์ 25 สค. [email protected] [email protected] [email protected] [email protected] [email protected]
(+) Opportunity day:
จันทร์ 21: WHA GUNKUL TK JMART JMT SINGER PCSGH
อังคาร 22 PTT PTTEP PTTGC TOP TPIPP S HMPRO
พุธ 23 SPALI HPT BPP BANPU PT TTA PLAT
พฤหัส 24 IRPC ITEL ILINK ACAP SE SVI
ศุกร์ 25 AMA JUBILE BAFS PSH ERW
(+) GRAMMY ฐาปน และ ปณต สิริวัฒนภักดี ซื้อหุ้นเพิ่มทุน GMM channel ถือหุ้น 50%(ที่มา ตลท.)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ธปท. ระบุ GDP Q2/60 ขยายตัวสูงกว่าคาด หลังการบริโภค-ลงทุนเอกชนดีกว่าที่ประเมินไว้
ธปท. เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ขยายตัว 3.7% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน หรือ
1.3 % จากไตรมาสก่อน สูงกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้ โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออกสินค้าและ
บริการที่ขยายตัวเร่งขึ้น สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่ปรับดีขึ้น และการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและ
การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวดีกว่าที่ ธปท. ประเมินไว้
ในระยะต่อไป คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ควรติดตาม
ได้แก่ ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่
อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคู่ค้า และความต่อเนื่องของการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ
คาดหุ้นบูลชิพใหญ่ขึ้นรับข่าว เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าคาด หลัง ธปท.สรุปรายงาน GDP 2Q17 +3.7%
ดีกว่าคาดที่ 3.2% (จาก 3.3%) พร้อมทั้งปรับเป้า GDP ปีนี้ขึ้นเป็น 3.5-4% จาก 3.3-3.8%
(*) คาดกรณีคำตัดสินคดีจำนำข้าว 25 สค.นี้ จะไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทย เช่นเดียวกับคดียุบพรรค
การเมืองรวมถึงคดีการเมืองอื่นๆในอดีต ยกตัวอย่างเช่น คดียุบพรรคพลังประชาชน เมื่อ 2 ธค.2008 หุ้นไทย
กลับตัวขึ้นจาก 387 จุด เป็น 392 จุดในวันถัดมา และบวกต่อ 23% (m-m) หลังคำตัดสิน 1 เดือน
(*) Jackson Hole meeting คาดประธานเฟดจะแสดงความเห็น
(1) การผ่อนปรนกฎหมายควบคุมสถาบันการเงินขนาดเล็ก
(2) หากมีการแสดงมุมมองกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อและความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ จะเป็นการส่งสัญญาณ การ
ขึ้นดอกเบี้ย ในเดือน ธค.นี้ ซึ่งหากไม่พูดถึง ตลาดอาจตีความตรงข้าม คือไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธค.
(3) ก่อนจะหมดวาระในเดือน กพ. 2018 คาดการประชุมครั้งนี้จะไม่แสดงจุดยืนนโยบายในปีหน้า ซึ่ง ต้องรอ
ดู ผู้ถูกเสนอชื่อ ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ของ 'ทรัมป์' ซึ่งตลาดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อว่าที่ประธานเฟดคน
ใหม่จาก 'สายการเงินและธนาคารภาคเอกชน'
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค