- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 August 2017 15:17
- Hits: 1416
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและหุ้น Defensive Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตามคาดโดยมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งคาดว่ามาจากฝั่งสถาบันในประเทศจากยอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นที่หนาแน่นกว่า 3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติแม้จะยังขายสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 1.8 พันลบ. แต่ซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์สสูงถึงกว่า 5 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เรายังคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,570-1,580 จุด โดยเช้านี้ต้องจับตาดูคำตัดสินของศาลฯในคดีรับจำนำข้าว ซึ่งเรามองว่าจะไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก เนื่องจากไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ทั้ง 2 ฝ่ายยังสามารถอุทธรณ์ได้ ขณะที่ประเด็นสำคัญทีจะมีน้ำหนักต่อตลาดในสัปดาห์หน้ามากกว่าคือการแถลงของประธาน FED และ ECB ในเรื่องนโยบายการเงินโลกในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางโลกที่แจ็คสัน โฮลคินนี้
กลยุทธ์ : ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและหุ้น Defensive Play
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : EKH, EPG, ITEL, MTLS, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$245ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$273ล้าน และเกาหลีใต้ US$67ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$54ล้าน และอินโดนีเซีย US$44ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่ยังชะลอตัวเพื่อติดตามการประชุมประจำปีที่แจ็กสัน โฮล โดยตลาดจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินของ Fed และ ECB
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> KKP <<
KKP เป็น 1 ใน 3 หุ้นกลุ่มแบงก์ที่เราชอบมากสุด จุดเด่นอยู่ที่ปันผล ซึ่งประกาศจ่ายงวด 1H17 ที่ 2 บาท/หุ้น ขึ้น XD 5 ก.ย. 17 จ่ายจริง 22 ก.ย. 17 คิดเป็นผลตอบแทน 2.9%
คาดกำไร 3Q17 ฟื้นตัวราว 25% Q-Q เพราะค่าใช้จ่ายที่ฉุดกำไร 2Q17 จะไม่เกิดขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะดีขึ้นจากงาน IB ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ที่ 5,774 ลบ. +5% Y-Y
ราคาหุ้นที่วัดจาก Price Ratio เพิ่งเริ่มกลับมา Outperform กลุ่มแบงก์ในรอบ 1 เดือน จึงมีโมเมนตัมที่ดีต่อการปรับตัวขึ้นต่อ แนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 73 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กำไรสุทธิ 2Q17 ของ MAI -48% Q-Q และ -81% Y-Y ส่วน 1H17 -68% Y-Y โดยหลักมาจากการชะลอตัวของกลุ่มเกษตร อาหาร และบริการ ขณะที่ กำไรปกติของหุ้นใน MAI ที่เราจัดทำบทวิเคราะห์ 13 บริษัท -23% Q-Q และ -11% Y-Y และกำไรปกติ 1H17 -2% Y-Y โดยตัวที่ Outperform คือ FSMART ITEL LIT และ MBAX เรามองว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะ Reallocate จาก Big Cap. เป็น Small Cap. เนื่องจาก P/BV Spread และ ROE Spread ระหว่าง SET กับ MAI ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต แต่มีหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ใน 2H17 คือ FSMART (ราคาเป้าหมาย 22 บาท) ITEL (ราคาเป้าหมาย 7 บาท) และ MBAX (ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท) ด้วยคุณสมบัติ กำไรสุทธิยังเติบโตแข็งแกร่ง, ไม่ถูกฉุดจากกำลังซื้อในประเทศ, และราคามี Upside เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายข
(0) ASK เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2017 ลง 10% เป็น 736 ลบ. +4.2% Y-Y เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาด แต่ยังคาดกำไรใน 2H17 เติบโตสดใส เนื่องจากคาดการณ์คุณภาพสินเชื่อที่จะปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะสินเชื่อรถแวน และต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงอีก 0.10% H-H โดยกำไรใน 3Q17 มีลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ราว 190 ลบ. จึงคงคำแนะนำ ซื้อ แต่ปรับลดราคาเหมาะสมลงเพื่อสะท้อนประมาณการใหม่เหลือ 25 บาท โดยผลตอบแทนจากปันผลยังสูงราว 6.7% ต่อปี
(-) SVI จากประชุม Opp Day วานนี้ โทนค่อนไปในทางลบ เพราะยังเผชิญปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบต่อเนื่องถึง 2H17 ทำให้อาจต้องเลิกผลิตสินค้าบางรายการที่ไม่คุ้มค่า และกำลังทำตลาดสินค้าใหม่เพื่อมาทดแทนสินค้ากลุ่มเดิม แนวโน้มกำไร 2H17 น่าจะฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำใน 1H17 แต่เราปรับลดกำไรปกติปี 2017 ลง 30% เหลือโตเพียง 3% Y-Y จากเดิมคาดโต 49% Y-Y แม้จะคาดกำไรปี 2018 น่าจะกลับมาโตแรงเพราะฐานที่ต่ำในปีนี้ แต่การปรับพอร์ตสินค้าของบริษัทเพื่อกลับมาเติบโตในปีหน้ายังเป็นเรื่องที่ท้าทาย และ ราคาหุ้นเต็มมูลค่าแล้วเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ปรับลงเหลือ 4.8 บาท (อิง PE เดิม 17 เท่า) จึงแนะนำขาย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24-26 ส.ค. - Jackson Hole Symposium
25 ส.ค. - ไทย: ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดีรับจำนำข้าว
29 ส.ค. - สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
30 ส.ค. - สหรัฐ: 2Q17 GDP, การจ้างงานภาคเอกชน (ส.ค.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ยริโภค (ส.ค.)
1 ก.ค. - จีน: Caixin Manufacturing PMI (ส.ค.)
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ส.ค.) และ ISM ภาคการผลิต
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบเล็กน้อยจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มค้าปลีกสามารถประคองตลาดได้ระดับหนึ่งหลังผลประกอบการไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่กังวล ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงจับตาการประชุมที่ Jackson Hole
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา ก่อนทราบผลประชุมที่ Jackson Hole
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมตามทิศทางตลาดโลกที่ยังเฝ้าจับตาการส่งสัญญาณนโยบายการเงินในการประชุมระหว่างธนาคารกลางหลายแห่งที่ Jackson Hole
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.32-33.34 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดลบ 0.98 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.43 ดอลลาร์/บาร์เรล สืบเนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนในอ่าวเม็กซิโกที่รุนแรงสุดในรอบ 12 ปี ทำให้โรงกลั่นต้องหยุดการทำงาน ซึ่งส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบในระยะสั้น
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 2.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,292.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลงเล็กน้อยโดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมที่ Jackson Hole
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research