- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 August 2017 16:55
- Hits: 2773
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Laggard Play
CNS Daily Strategy : คาดตลาด Sideway แนวต้าน 1580/1584 จุด แนวรับ 1570/1567จุด สินทรัพย์เสี่ยงโลกถูกกดดัน จากนโยบาย Trump ที่พร้อมลดงบประมาณรัฐฯ (Government Shutdown) เพื่อกดดันสภาฯ ให้อนุมัติการสร้างกำแพง Mexico แต่เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว ผสานราคาน้ำมันดิบเชิงบวก จะพยุงตลาด วันนี้แนะนำ Theme Laggard Play *Daily Top Pick: PTTEP, PTTGC, BDMS*
Nomura : Key Factors
(-) Ex Factor: Trupm พร้อมตัดงบประมาณรัฐฯ(Shutdown) เพื่อสร้างกำแพง Mexico
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.62% สู่ $48.41/bbl / BRT +1.35% สู่ $52.57/bbl
(+) OIL : EIA เผสสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลด 8 สัปดาห์ติด -3.3ล้านบาร์เรล
(+) TH Econ : กระทรวงพาณิชย์เพิ่มเป้าส่งออกเป็น 5-6% จากเดิม 3.5-5%
(*) TH Econ : เดือน ก.ค. 2017 ส่งออก +10.48%(7M+8.2%) น้อยกว่านำเข้าเพิ่ม 18.45%
(*) Fund Flow:วานนี้ต่างชาติขาย -2033ลบ.,Long Future +8259สัญญา, Bond -3899ลบ.
(*) Ex Factor: จับตาถ้อยแถลงของ Yellen และ Draghi ในการประชุม Jackson Hole
Nomura Daily Top Picks: PTTEP, PTTGC, BDMS
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway” ในกรอบต้าน 1580/1584จุด และรับ 1570/1567 จุด สถานการณ์ความไม่แน่นอนของนโยบาย Donald Trump กลับมาเป็นตัวแปรกดดันสินทรัพย์เสี่ยงโลกระยะสั้น หลัง Trump ขู่ตัดลดงบประมาณภาครัฐฯ ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาพ Government Shutdown ของหน่วยงานรัฐฯ เพื่อกดดันให้สภาฯ ผ่านร่างสนับสนุนการก่อสร้างกำแพง Mexico ตามที่เคยหาเสียงไว้ ทำให้ดัชนี Down Jones ลดลง -87.8จุด หรือ -0.4% แต่อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของฝั่ง US อาจสร้างจิตวิทยาบวกต่อการลงทุนในตลาด ASIA ให้น่าสนใจกว่า ภายใต้ภาพของเศรษฐกิจภูมิภาคที่มีการขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยวานนี้ กระทรวงพาณิชย์ รายงานตัวเลขส่งออกของไทย เดือน กค 2017 +10.48% หนุนให้ 7 เดือนแรกของปีขยายตัวถึง 8.2% แต่ตัวเลขนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นถึง 18.45% กดดันให้ไทยขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 27เดือน ส่งผลให้เอกชนกระตุ้นให้ธปท. ดูแลค่าเงินบาท โดยล่าสุดค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาระยะสั้นวานนี้ที่ 33.35บาทต่อเหรียญฯ
แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าเงินหลักยังคงไม่เปลี่ยนทิศ ภายใต้ภาพเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวและมีแนวโน้มเกินดุลต่อเนื่อง ผสานเงินเฟ้อที่ยังไม่เร่งตัว ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายมีเสถียรภาพ น่าจะทำให้ค่าเงินบาทจำกัดแนวต้านของการอ่อนตัวที่ 33.5/33.7บาทต่อเหรียญฯ และน่าจะแข็งค่าต่อตามมุมมองของ Nomura ที่คาดว่าจะแข็งค่าสู่ 32.7บาท, 32.4บาท, 31.6บาทต่อเหรียญฯ สิ้นปี 2017, 2018 และ 2019 ตามลำดับ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดในระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้น SET มีแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ปรับตัวขึ้น กล่าวคือ ราคาน้ำมันดิบ BRT +1.35% สู่ $52.57/bbl จากแรงหนุน EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลง 8 สัปดาห์ติด และลดลงถึง -3.3ล้านบาร์เรล มากกว่า Bloomberg Consensus คาดว่าจะลดลง -3.2ล้านบาร์เรล น่าจะทำให้หุ้น Laggard ในกลุ่มพลังงานเช่น PTT, PTTEP, PTTGC, IRPC, IVL ช่วยพยุง SET
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Daily Strategy : 5 Theme เด่น วันนี้ เน้น “Selective Play” เป็นหลัก
1. Laggard Play : ราคาน้ำมันดีดตัวบวก 1.35% แต่ค่าการกลั่นลดลงจาก 8.16เหรียญฯต่อบาร์เรล มาสู่ 7.87เหรียญฯ น่าจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานที่ Laggard และ มีสัดส่วนรายได้จากค่าการกลั่นน้อย Outperform แนะนำ PTTEP, PTTGC, IRPC, IVL เด่น ผสานกลุ่ม รพ BDMS วานนี้ เรามีมุมมองบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์และ จากราคาหุ้นขึ้นเพียง 5% นับจากเราแนะนำ 17 กค 2017 vs BH +21.8% ขณะที่ PER ระหว่างสองบริษัท BDMS ต่ำกว่า 9.4เท่า จาก Avg. 5ปี จะสูงกว่าราว 2.97เท่า
2. Nomura คาดเศรษฐกิจไทย 2H17 จะโดดเด่นจากการลงทุนภาครัฐฯที่เร่งขึ้น มากกว่าการส่งออกที่เริ่มโตชะลอลง แนะนำ Domestic Play คือ BANK(KBANK, KTB, BBL, SCB) และรับเหมา(CK, STEC) เด่น ผสาน ICT ที่ผลกำไรเข้าสู่จุดการเติบโตรอบใหม่ ADVANC
3. FTSE Play : คาด EA จะถูกประกาศเพิ่มน้ำหนักใน FTSE รอบใหม่วันที่ 30 สค นี้ ประเมินเม็ดเงินราว 50ล้านเหรียญฯ
4. ท่องเที่ยว : จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ก.ค. 2017 สูงสุดรอบ 17เดือน ที่ 3.088ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.48%y-y บวกต่อ AOT, MINT, ERW
5. รพ. นักท่องเที่ยว UAE เดือน ก.ค. 2017 เข้ามาไทยเพิ่มขึ้น 2 เดือนติด ที่ 28775คน +4.6%y-y หรือ 256%m-m สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุน โรงพยาบาล BH, BDMS เด่น ส่วน Mid small เน้น BCH และ CHG
Investment Theme:
· 3Q17 Top Picks: ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK, ERW, MONO
Low Base Effects: ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
Momenturm Play: ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
BDMS (TP 18F 23.2*): Support 19.7/19.5 Resistant 20.2/20.4
Theme : Laggard Play
Earning Outlook : ยังมีความสามารถในการแข่งขันในระดับสูง จากชื่อเสียงจึงสามารถดึงดูดทั้งลูกค้าระดับบนและแพทย์มือดี รวมถึง ได้ประโยชน์เรื่อง Economy of scale เป้าหมายจำนวนโรงพยาบาล 50 แห่งใน 3 ปี เทียบปัจจุบัน 45 แห่ง พร้อมๆกับ การเริ่มขยายเชิงลึก ไปสู่ศุนย์เฉพาะทาง, กลุ่ม Wellness (ป้องกันก่อนเกิดโรค) รับ Aging society หนุนการเติบโตระยะยาว สำหรับ กำไรระยะสั้น คาดเป็นจุด peak ที่ 2.2 พันลบ. (+1% y-y, +38% q-q) จากฝนมาไว และผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น ลดความกังวลของตลาดก่อนหน้านี้
Valuation : หลังเห็น Stock rotation มาที่กลุ่มรพ.ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะ BH ที Outperform มาก (+14% ตั้งแต่ 1 ส.ค.) โดยมอง BDMS เป็น Laggard ที่น่าสนใจ และมี PER 18F ที่ 40 เท่า ยังใกล้เคียงกลุ่มฯ
Catalyst : เข้าสู่ช่วงฤดูกาลงวด 3Q17F + ผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลางที่ยังเดินทางเข้าไทยต่อเนื่อง โดยเดือนล่าสุดก.ค. นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มถึง 5% y-y, 256% m-m และเป็น new all time high !!! ช่วยลดความกังวลของตลาดลง ซึ่ง BDMS มีสัดส่วนผู้ป่วยกลุ่มตะวันออกกลาง 3.8%
PTTGC (NOMURA TP 84.00) : Support 73.75/73 Resistant 76/78
Theme : Laggard Play
Earnings Outlook : คาดกำไรปี 2017F ยังเป็นขาขึ้น +27% y-y จากจากแนวโน้ม Utilization rate ที่ปรับตัวสูงขึ้นของธุรกิจโรงกลั่น รวมถึง ค่าการกลั่นที่ยังยืนในระดับสูง โดยคาด 3Q17F ฟื้นตัวขึ้นจาก Utilization rate ที่สูงของทั้งธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ขณะที่ กำไรปี 2018F คาดยังเพิ่มต่อเนื่อง จากธุรกิจเดิม และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบ.ที่มีอยู่ หลังปรับโครงสร้างโอนย้ายจาก PTT หนุน PTTGC เป็นแกนหลักในปิโตรเคมีครบวงจร
Valuation : หลังราคาเริ่ม Outperform มาตาม TOP ที่เพิ่มขึ้นมาก ยังเป็นจุดน่าสนใจ โดยราคาปัจจุบันเทรดที่ P/BV น้อยกว่ากลุ่มเพียง 1.2x upside 13%
Catalyst : ราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้ 48.41 เหรียญ (+1.2%) + ประกาศเลื่อนการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานโอเลฟินส์สาขา1 บวกเพิ่มเติมต่อกำไร 3Q17F ซึ่งคาดฟื้นตัว q-q
PTTEP (TP98*): Support 85/84.5 Resistant 86.25/87.5
Theme : Oil recovery
Earning outlook : คาดกำไรปี 17F ฟื้นตัว 145% y-y จากราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดในปีก่อน โดยงวด 3Q17F มีแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น +3%q-q แต่ได้แรงชดเชยจากจากปริมาณการผลิตเร่งตัวขึ้นหลัง MT JDA เริ่มขายก๊าซให้ปิโตรนาส
Valuation : ราคาเริ่มยืนได้หลังปรับฐานหนักช่วงที่ผ่านมา และยังไม่สะท้อนภาพของราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา สามารถเก็งกำไรได้ โดย Valuation ยังน่าสนใจ มี P/BV ปี 18F ที่ 0.82x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.9x
Catalyst : สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลงกว่า 3.6ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ 3.4ล้านบาร์เรล กระตุ้นราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น + คาดเปิดประมูลสัมปทานแหล่ง บงกช-เอราวัณ ส.ค.-ก.ย. ประเมิน Upside เพิ่ม 10.29 บาท/หุ้น
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
Fundamental Investment Analyst on Securities and Technical
[email protected] 0-2287-6871
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783