- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 August 2017 17:02
- Hits: 1665
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบ ๆ ที่ยืนบวกได้ตลอดทั้งวัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ สื่อสาร และปิโตรเคมี ขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1574.92 จุด เพิ่มขึ้น 5.30 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดของวันที่ 1569.75 จุด เพิ่มขึ้น 0.13 จุด กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 5.17 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ SCC, SCB, KBANK, KTC, BBL, TOP ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1573.19 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด (+0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 36,838 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้เดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อ ถึงแม้จะมีกรอบการแกว่งตัวแคบ ๆ แต่ยืนบวกได้ตลอดทั้งวัน พร้อมกับขยับ High ขึ้นที่ 1574 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาทำปิดที่ใกล้จุดสูงสุดของวันที่ 1573 จุด จากภาพของดัชนีที่ยก High-Low ได้อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จนกลับขึ้นมายืน 1570 จุดหรือยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย (5/10/75 วัน) ได้ค่อนข้างแน่น ทำให้มีลุ้นที่ขยับ High ได้ต่อ ที่แนวต้าน 1575-1576 // 1580 จุด ขณะที่แนวรับ 1568-1570 จุด
แกว่งตัวผันผวน - มีโอกาสขยับ High ต่อ
Support 1550-1554 // 1535 จุด Resistance 1574 // 1580-1583 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
'กองทุนไทย นำตลาดขึ้นต่อ'
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : แรงซื้อของสถาบันในประเทศสวนทางกับแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ และกระจายในหุ้นใหญ่หลายๆตัว นำโดยกลุ่มธนาคาร เรามองเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดสั้นๆ เพราะบ่งชี้ว่านักลงทุนเอง ไม่ได้กังวลต่อ 2 event สำคัญในวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อไปได้
กลยุทธ์การลงทุน : ภาพรวมเป็นชะลอการลงทุนหรือถือหุ้น เนื่องจากแรงขายมีจำกัด และดัชนีฯยังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 1566 จุดได้ ..... การลงทุนควรเป็นแบบ selective buy เน้นปัจจัยเฉพาะตัว ทั้งในหุ้นใหญ่ หรือหุ้นที่ยังมีการเติบโตดี และวันนี้ การรายงานตัวเลขยอดขายรถและตัวเลขส่งออกของไทย หากออกมาดี จะเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องด้วย
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ AAV, STEC , TMB, HFT*, SYNEX*, GFPT
หุ้นแนะนำเชิงเทคนิค : KBANK , AMA, GUNKUL
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(-) CPALL ยังไม่ชัดเจนว่าจะยกเลิกสัญญา 7-11 ผลกระทบจำกัด
(+) RJH ผลการดำเนินงานใน 2Q17 ดีกว่าคาด ปรับประมาณการกำไรที่เหลือของปีขึ้
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 ส.ค.) ปิดที่ระดับ 1,573.19 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด (+0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 36,838.42 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขาย 36,838.42 ล้านบาท ตลาดปรับตัวขึ้นได้จากภาพตลาดต่างประเทศที่เป็นบวกกว่าเดิมเล็กน้อย อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังรอผลการประชุมแจ็กสันโฮลที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 24-26 ส.ค.
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 21,899.89 จุด พุ่งขึ้น 196.14 จุด หรือ +0.90% หลังคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และแกนนำสภาคองเกรส มีความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี .... ด้าน Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น +0.8% ปิดที่ 375.80 จุด
ราคาน้ำมันดิบลบจาก oversupply ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ +0.6% ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์/บาร์เรล .... จากการคาดการณ์ว่า EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลง ซึ่ง EIA จะประกาศตัวเลขภายในวันนี้ .... แม้คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลง แต่ยังมีผลลบจากปริมาณการลดกำลังการผลิตของ OPEC ที่ทำได้เพียง 94% จากที่ประกาศเอาไว้ .... อย่างไรก็ตามราคาปิโตรเคมียังได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ
การเมืองสหรัฐฯเป็นบวกขึ้น แต่นักลงทุนยังรอผลการประชุมแจ็กสันโฮล สำนักข่าวโพลิติโคของสหรัฐรายงานว่า นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกว่า แผนปฏิรูปภาษีน่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสได้ง่ายกว่าร่างกฎหมายประกันสุขภาพ ส่งผลให้ความกังวลด้านการเมืองสหรัฐฯลดลง .... การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของ Fed ที่เมืองแจ็กสัน โฮล 24-26 ส.ค. ที่ถูกคาดหมายว่า Fed และ ECB จะแสดงความเห็นที่ชัดเจนต่อนโยบายการเงินของทั้งสองประเทศ ซึ่งหากผลออกมาว่ามาตรการการลด QE จะเลื่อนไปเป็นปีหน้า จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นโดยรวม
ครม. อนุมัติงานภาครัฐวานนี้ วานนี้ยังไม่มีการอนุมัติโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยวงเงิน 40,000 ล้านบาท ผิดจากที่เราคาดก่อนหน้านี้ .... อย่างไรก็ตาม มติ ครม. วานนี้มีการอนุมัติโครงการมอเตอร์เวย์รวมมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯก่อสร้างขนาดใหญ่ ได้แก่ CK, ITD, STEC, UNIQ โดยกลุ่มรับเหมาฯยังได้ผลบวกจากโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางมูลค่าประมาณ 70,000 ล้านบาท ที่จะออกประมูลในช่วงวันที่ 4-7 ก.ย. อีกด้วย .... หลังการประกาศผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2 บริษัทหลายๆแห่งทยอยการขึ้นเครื่องหมาย XD ในสัปดาห์นี้ … วันนี้ติดตามตัวเลขส่งออกไทย (คาดการณ์ +12%) และยอดขายรถยนต์ซึ่งจะรายงานในเช้าวันนี้
Fund Flow Analysis & Sector Rotation
Fund Flow นักลงทุนต่างประเทศ เลือกขายหุ้นในบางตลาด เช่น อินเดียและไทย แต่ซื้อที่ตลาดหุ้นไต้หวัน ส่วนตลาดพันธบัตร นั้นมีแรงซื้อในตลาดอินเดียและไทย และขายที่ตลาดเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย
ปัจจัยสำคัญ
ตลาดต่างประเทศ รอดูการประชุม Fed Conference โดยนางเยลเลน จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในคืนวันศุกร์ จะทำให้การซื้อขายของตลาดดูเบาบางลงและไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม เราเริ่มมีมุมมองในทางบวกต่อตลาดหุ้นไทย หลังการประชุมครั้งนี้ เพราะทั้ง Fed และ ECB ไม่น่าที่จะรีบร้อนคุมเข้มนโยบายการเงิน เหตุผลสำคัญคือ เงินเฟ้อไม่อยู่ในระดับที่สูงและยังต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวอยู่ต่อไป การเมืองสหรัฐฯก็ยังไม่แน่นอนนัก แม้คืนที่ผ่านมาจะมีข่าวบวกในเรื่องของความคืบหน้าในการปฎิรูปด้านภาษีเข้ามาก็ตาม
นักลงทุนยังคงรอดูการตัดสินคดีจำนำข้าว ในวันศุกร์นี้ หากผลออกมาไม่ทำให้นักลงทุนกังวลต่อการเมืองในอนาคตหรือการเลือกตั้งที่จะถึง คาดว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด
สถานการณ์เกาหลีเหนือ ยังทำให้ตลาดหุ้น (ต่างประเทศ) ผันผวน
วันนี้ จะมีการรายงานตัวเลขส่งออกของไทย (เดือนก่อน 11.7% Yoy ; คาด 12%) และตัวเลขยอดขายรถในประเทศ เดือน ก.ค. (69,798 คัน)
ธปท.อาจมีมาตรการด้านเงินบาทออกมา เพื่อป้องกันการเก็งกำไรในค่าเงิน โดยสั่งธนาคารเพิ่มความถี่ในการรายงาน หลังพบว่าต่างชาติขนเงินพักบัญชีนอนเรสิเดนต์ ล่าสุดยอดกว่า 4.19 แสนล้านบาท รอลงทุนพันธบัตร-ตลาดหุ้น สมาคมตราสารหนี้แจงยังไม่พบธุรกรรมน่าสงสัย ส่วนใหญ่ลงทุนหุ้นกู้ระยะยาว .... การออกมาตรการหรืออาจมีเพิ่มในอนาคต อาจมีผลต่อเงินลงทุนที่เข้ามาเพื่อเก็งกำไรในลักษณะนี้ แต่จะดีตรงที่จะจำกัดการแข็งค่าเงินบาทได้ในระดับหนึ่ง
ทิศทางตลาดหุ้น แรงซื้อของสถาบันในประเทศสวนทางกับแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ และกระจายในหุ้นใหญ่หลายๆตัว นำโดยกลุ่มธนาคาร เรามองเป็นสัญญาณบวกต่อตลาดสั้นๆ เพราะบ่งชี้ว่านักลงทุนเอง ไม่ได้กังวลต่อ 2 event สำคัญในวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อไปได้
กลยุทธ์ลงทุน ภาพรวมเป็นชะลอการลงทุนหรือถือหุ้น เนื่องจากแรงขายมีจำกัด และดัชนีฯยังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 1566 จุดได้ ..... การลงทุนควรเป็นแบบ selective buy เน้นปัจจัยเฉพาะตัว ทั้งในหุ้นใหญ่ หรือหุ้นที่ยังมีการเติบโตดี และวันนี้ การรายงานตัวเลขยอดขายรถและตัวเลขส่งออกของไทย หากออกมาดี จะเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องด้วย
# คำแนะนำหรือมุมมองของหุ้นแต่ละกลุ่ม #
เราคงคำแนะนำเดิมของ Weekly Strategy คือเป็นสัปดาห์ที่เหมาะกับการ Hold หุ้นไว้เพื่อรอให้ตลาดผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน หรือเลือกหุ้นที่มีข่าวหรือปัจจัยเฉพาะตัว หรือเก็งกำไรช่วงสั้นตามข่าวรายวัน
GDP 2Q ของไทย ที่ออกมาดี 3.7% โดยขยายตัวในส่วนของ สินค้าเกษตร ภาคส่งออก และภาคท่องเที่ยว เราให้น้ำหนักกับกลุ่มท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น AOT, AAV หรือ ERW
วันนี้ รายงานส่งออกและยอดขายรถยนต์ หากตัวเลขออกมาดี จะมีผลต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง หุ้นเด่นๆ ของกลุ่ม จะเป็น GFPT , SAT และ HTECH
หุ้นในกลุ่มธนาคาร มีสัญญาณชะลอตัวทางด้านสินเชื่อ ในเดือน ก.ค. แต่นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจกับหุ้นที่ loan ขยายตัวดี YTD อย่างเช่น TMB มีการเติบโตที่สูงสุด +4% YTD
หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี จากราคาผลิตภัณฑ์รายสัปดาห์ที่รวมๆทรงตัว มีราคา Ethylene ที่ปรับตัวขึ้นมามาก แต่ถึงกระนั้น ภาพรวมของ 3Q กำไรของผู้ผลิตปิโตรเคมีต้นน้ำยังดีกว่า 2Q อยู่พอควร งาน Op day กลุ่ม PTT ให้ภาพในเชิงบวกของหุ้นกลุ่มนี้ตามที่เราคาด ตัวเด่นๆ ของกลุ่มปิโตรเคมี ที่เราให้ความสนใจ จะเป็น PTT, PTTGC และ VNT ขณะที่ TOP นั้น ได้ประโยชน์จากราคาอะโรเมติกส์ ที่อยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน แม้ค่าการกลั่นน้ำมันจะลดลงก็ตาม
หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ด้วยค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้นจากความต้องการขนส่งสินค้าจำพวกวัตถุดิบ เป็นบวกต่อ PSL
หุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากในช่วงที่ผ่านมา หากตลาดยังมีแนวโน้มเดินหน้าต่อ อาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นเหล่านี้ อาทิ SVI , STA , MALEE , CHG และ PDG เป็นต้น
หุ้นที่มีการนำเสนอข้อมูล Opportunity Day ช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ จะมีการซื้อขายที่คึกคักขึ้น (ทั้งบวก/ลบ) วันนี้ SPALI, HPT, BPP, BANPU, PT, TTA, PLAT ส่วน 2 วันสุดท้ายของสัปดาห์ IRPC, ITEL, ILINK, ACAP, SE, SVI,AMA, JUBILE, BAFS, PSH, ERW
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
AAV(ราคาปิด 6.10) คาดนักลงทุนจะเริ่มเข้ามาเก็งกำไรก่อนช่วง golden week ของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งอยู่ระหว่างช่วงต้นเดือนตุลาคม .... คาดว่าผลการดำเนินงานในงวด 4Q17 จะกลับมาเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY ตามปัจจัยฤดูกาล และฐานกำไรปีก่อนที่ต่ำจากผลกระทบการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 6.60 บาท)
STEC(ราคาปิด 25.25) ครม. วานนี้มีการอนุมัติโครงการมอเตอร์เวย์มูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯก่อสร้างขนาดใหญ่ …. เรามอง STEC ดำเนินธุรกิจในลักษณะ "pure contractor" ซึ่งจะส่งผลให้ STEC ได้รับประโยชน์สูงสุด .... คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 เติบโตถึง +54% YoY (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 28.50 บาท)
TMB(ราคาปิด 2.34) สินเชื่อเดือน ก.ค. ทรงตัวเมื่อเทียบ MoM (ทำได้ดีกว่ากลุ่มที่ -0.9% MoM) และยังเติบโตได้ดีที่ 4.0% YTD ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อบ้านเป็นหลัก นอกจากนี้ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TMB จากกำไรสุทธิในปีนี้และปีหน้าที่จะเติบโตได้ดี 10% YoY เพราะมีรายได้ค่าธรรมเนียมจาก FWD เข้ามาช่วยปีละ 1.3 พันล้านบาท .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 2.60 บาท)
HFT(ราคาปิด 5.05) ราคายางปรับตัวลดลง ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทต่ำลงตามลำดับ เป็นบวกต่อ HFT .... ล่าสุดมีข่าวที่บริษัทชนะคดี โดยศาลให้บริษัท โยโก อัลลอย วีลส์ จำกัด ชำระหนี้จำนวน 173,962,582.51 บาท ให้กับบริษัท นอกจากนี้ HFT ยังมีอัตราเงินปันผลที่น่าสนใจที่ระดับประมาณ 4% ในช่วงที่ผ่านมา
SYNEX(ราคาปิด 13.00) ช่วงครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นสำหรับธุรกิจจขำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ .... บริษัทเข้าลงทุนในธุรกิจสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง .... Bloomberg คาดกำไรสุทธิสำหรับปี 2017 ที่ 515 ล้านบาท (+26.4% YoY) …. (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 14.50 บาท)
GFPT(ราคาปิด 19.20) ราคาไก่ยังคงอยู่ในระดับสูง และผลประกอบการ 2Q17 ยังออกมาดีที่ 494 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่เราคาด 490 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%YoY และ16%QoQ .... คาดช่วง 2H17 เติบโตกว่าช่วง 1H17 ซึ่งจะเป็นช่วงที่ได้ผลประโยชน์ทางฤดูกาล โดยจะมีคำสั่งซื้อมากขึ้นใน 3Q17 คาดกำไรปี 2017 เติบโต 17% YoY …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 22.00 บาท)
Source: KTBST Research
ประเด็นสำคัญ : ข่าวและหุ้น
สหรัฐฯ-จีน-รัสเซีย - กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อองค์กร 10 แห่ง และบุคคลจำนวน 6 คนของจีนและรัสเซียในวันนี้ เพื่อหวังกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
เศรษฐกิจสหรัฐฯ - สำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านสหรัฐขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน
เศรษฐกิจไทย - การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ ณ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ จำนวน 13 สินค้า และ 4 ภาคบริการ ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่ที่จะเริ่มใช้วันที่ 16 ก.ย.นี้ (โพสต์ทูเดย์, 23/08/2017)
เศรษฐกิจไทย - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรมีมติอนุมัติงบประมาณจำนวน 3,571 ล้านบาท สำหรับการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของกระทรวงคมนาคม โดยสำหรับในปีงบประมาณ 2560 นี้ ได้อนุมัติเงินสำรองจ่ายจากงบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,101 ล้านบาท
กลุ่มรับเหมาฯ - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรมีมติอนุมัติสัญญาว่าจ้างรัฐวิสาหกิจจีนออกแบบรายละเอียดโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา วงเงิน 1,706.8 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ได้แก่ งานโครงสร้างทางยกระดับ อุโมงค์ สะพาน ย่านสถานี เป็นต้น โดยมีระยะเวลา 10 เดือน
กลุ่มรับเหมาฯ - ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรมีมติเห็นชอบให้กรมทางหลวงดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 2 เส้นทาง กรอบวงเงินโครงการ M6 งานบริหารจัดการและบำรุงรักษา (O&M) ไม่เกินจำนวน 33,258 ล้านบาท และโครงการ M81 ไม่เกินจำนวน 27,828 ล้านบาท โดยกำหนดให้แล้วเสร็จในปี 63
กลุ่มมีเดีย - สมาคมมีเดียฯ ประเมินงบโฆษณาปีนี้มูลค่า 1.08 แสนล้านบาท ติดลบ 11% ปัจจัยเศรษฐกิจ-กำลังซื้อชะลอตัว ส่งผลสินค้าวืดเป้ายอดขายหันลดงบโฆษณาสื่อดั้งเดิม เทงบสื่อดิจิทัล ดันเม็ดเงินขยับอันดับ 2 รองทีวี (กรุงเทพธุรกิจ, 23/08/2017)
CPALL-PTT - นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ยืนยันเดินหน้าธุรกิจค้าปลีกในประเทศด้วยการจับมือกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท. ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน โดยปัจจุบันมีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดให้บริการในสถานีบริการ ปตท. แล้วกว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ และยังคงมีแผนงานที่จะร่วมกันขยายให้มีจำนวนรวมกว่า 1,700 แห่ง ในอีก 4-5 ปีนี้
KBANK - KBNAK จัดตั้งบริษัท ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) จำกัด มีทุนจดทะเบียน 3 พันล้านหยวน หรือราว 1.5 หมื่นล้านบาท โดยธนาคารถือหุ้น 100% เพื่อดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการภายในเดือนต.ค.60
PTTEP - บริษัทคงเป้าปริมาณขายปีนี้เฉลี่ย 3 แสนบาร์เรล/วัน พร้อมทั้งรักษาต้นทุนต่อหน่วยที่ 29 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ EBITDA Margin ที่ 70% ขณะที่คาดว่าปริมาณขายและราคาขายในไตรมาส 3/60 จะดีขึ้นกว่าไตรมาส 2/60 โดยประเมินปริมาณขายที่ราว 2.9 แสนบาร์เรล/วัน
TPIPP - บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาขยายการลงทุนด้านพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ซึ่งเน้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง โดยเบื้องต้นมองความเป็นไปได้ใน 5-6 ประเทศ แต่ยังไม่มีข้อสรุป อย่างไรก็ตามหากมีการลงทุนเกิดขึ้น บริษัทก็มีความพร้อมในด้านแหล่งเงินลงทุน จากปัจจุบันมีเงินสดในมืออยู่ 6,800 ล้านบาท เพื่อขยายพอร์ตการผลิตไฟฟ้าของบริษัท
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]