- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 August 2017 16:56
- Hits: 1520
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งขึ้นต่อ แต่อัพไซด์ระยะสั้นยังจำกัด
KGI คาด SET วันพุธขึ้นต่อเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ พลิกเป็นบวกและความมั่นใจต่อเศรษฐกิจไทยสูงขึ้น (วานนี้ ดัชนีฯ ขึ้นกรอบจำกัด ตามคาด) หุ้นสหรัฐฯ แรลลี่โดดเด่นเมื่อคืน หลังนักการเมืองสหรัฐฯ ทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์แสดงความมั่นใจว่าจะปฎิรูปภาษีได้ และจะยกเพดานหนี้สหรัฐฯ ได้ก่อนเส้นตาย ผนวกกับไม่มีข่าวร้ายใหม่ๆ ส่งผลหุ้นโลกกลับมาภาวะ 'risk on mode' ขณะที่ปัจจัยภายใน การประชุม ครม. สัญจรวานนี้ยังเดินหน้าอนุมัติโครงการเพิ่มเติม เช่นมอเตอร์เวย์อีก 2 สาย อนุมัติจีนออกแบบก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง รวมทั้งรับทราบแผนงานของ รฟม. ที่เตรียมเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ใน ธ.ค. 2560 ซึ่งข่าวเหล่านี้ผนวกกับ GDP ของไทยซึ่งอยู่ในช่วงถูกปรับประมาณการขึ้น น่าจะหนุนจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งด้อยกว่าดัชนีฯ ในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี เราคงมุมมองว่าอัพไซด์ระยะสั้นของ SET ยังมีจำกัด หลังนักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอเพื่อติดตามปัจจัยช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ได้แก่การประชุมประจำปีของเฟดในวันพรุ่งนี้ และผลการตัดสินคดีจำนำข้าวช่วงรัฐบาลอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในวันศุกร์นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร KBANK*, SQ, COM7*
KBANK* (เป้าพื้นฐาน 210 บาท) 1) ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เริ่มฟื้นตัว ประเมินหากวันนี้ยืนเหนือแนวต้าน 195 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 200 – 207 บาท ตามลำดับ แนวรับ 193.5 บาท (Stop loss 190 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว ล่าสุดหน่วยงานต่างๆ ทยอยปรับประมาณการ GDP ไทยปีนี้ขึ้น (สภาพัฒน์คาดกรอบ 3.5 – 4.0%, KGI คาด 3.8%) 3) ฝ่ายวิจัยฯประเมินคุณภาพสินทรัพย์ของ KBANK* ดีขึ้น และมีแนวโน้มลดลงใน 2H60 4) ประเมิน Valuation ถูก ด้วย PBV ตอนนี้ที่ต่ำเพียง 1.4 เท่า คิดเป็นเพียง -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในอดีตย้อนหลัง 5 ปี ขณะที่ค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 5 ปี เท่ากับ 1.8 เท่า
SQ (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) 1) สำหรับนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรตามที่เราแนะนำก่อนหน้า แนะนำ “Let profit run” โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ ?6.7 บาท เป็นจุดขายทำกำไร และกำหนด Trailing stop 6.25 บาท 2) กำไร 1H60 คิดเป็น 84% ของประมาณการกำไรทั้งปี (มีโอกาสปรับประมาณการขึ้น) โดยฝ่ายวิจัยฯจะทำการปรับประมาณการพร้อมกับการรอผลประมูลโครงการแม่เมาะ 9 (สัญญามูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) ซึ่งคาดว่าจะทราบผลใน 4Q60 หลังจากที่บริษัทได้ยื่นข้อเสนอทางเทคนิคและเสนอซองราคาไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.
COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) 1) ประเมินประเด็นที่ PTT* จะทยอยยกเลิกสัญญาร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นในปั๊ม PTT* จำนวน 1.1 พันสาขาภายใน 6 ปี จะเป็น Sentiment ลบกดดันราคาหุ้น CPALL* และอาจทำให้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันเปลี่ยนตัวเล่น (Switching) ในกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายได้แก่ COM7* และ ROBINS* 2) โดยเราเลือก COM7* เป็นหุ้นเด่น เพราะ i) การเปิดตัว iPhone ใหม่ ในเดือน ก.ย.นี้ (หนุนทั้งยอดขายรุ่นใหม่ และรุ่นเก่าที่ตกรุ่นเอามาทำโปรโมชั่นได้) ii) Earnings momentum คาดจะโตต่อเนื่องใน 3Q – 4Q (เริ่มธุรกิจใหม่ต่างๆใน 3Q และ 4Q เป็น High season) iii) เป็นหุ้นค้าปลีกตัวเดียวในกลุ่มที่ Same store sales growth ใน 1H60 โต >10% (ส่วนใหญ่ติดลบ) 3) ประเมินแนวรับ 12.2 บาท และ 12 บาท ตามลำดับ แนวต้าน 13.1 บาท และ 13.7 บาท ตามลำดับ (Stop loss 11.8 บาท)
หุ้นมีข่าว
(0) PTT Pcl. (PTT.BK / PTT TB) * พิจารณาต่ออายุสัญญาแฟรนไชส์ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งจะทยอยครบกำหนดภายใน 6 ปีข้างหน้า (ที่มา: Bangkok Bizsnews) จากแผนปตท. 5 ปี ของ ปตท. บริษัท คาดว่าจะขยายสาขาร้านจิฟฟี่ (ร้านสะดวกซื้อของปั้มปตท.) ไปที่ 200 สาขา ภายในปี 2565 จาก 149 สาขา ในปัจจุบัน ทั้งนี้ปัจจุบันมีร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในสถานีปตท. ประมาณ 1,100 ร้าน และสัญญาแฟรนไชส์จะทยอยหมดอายุในอีก 6 ปีข้างหน้า ความเห็น: เรามองว่าผลกระทบ จำกัด ต่อ CPALL Pcl. (CPALL.BK / CPALL TB) * เนื่องจากสาขาในสถานีปตท. มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ของสาขารวมและจะสร้างกำไรประมาณ 4-5% ของกำไรรวมของ CPALL (ประมาณการกำไรปี 2560 ของเราที่ 20 พันล้านบาท) เราคาดว่าโอกาสในการขยายสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในสถานีปตท. ยังคงอยู่ อิงจาก 1) สาขา ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถดึงคนให้เข้ามาในปั้ม ii) มีรายได้ค่าเช่ามีความมั่นคงกว่ารายได้จากการเปิดร้านสะดวกซื้อ และiii) การจัดการโลจิสติกส์และร้านค้าของจิฟฟี่ น่าจะต้องใช้เวลาในการพัฒนา เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายกลางปี 2018 ที่ 77.00 บาท
(+ กลุ่มรับเหมาฯ) เปิดเอกชนร่วมลงทุนมอเตอร์เวย์ 6 หมื่นล. "บางปะอิน-โคราช"-"บางใหญ่-กาญจนบุรี" (กรุงเทพธุรกิจ) ครม.ไฟเขียวสัญญาจ้างจีน ออกแบบ"ไฮสปีดเทรน" ตั้งเงื่อนไขชำระเงินสกุลบาท ครม.สัญจรโคราชไฟเขียวเปิดพีพีพี เอกชนร่วมลงทุนในกิจการรัฐ โครงการมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง "บางปะอิน-โคราช" - "บางใหญ่-กาญจนบุรี" รวมวงเงิน 6 หมื่นล้าน เร่งส่งรายละเอียดเข้าพีพีพีฟาสต์แทร็ก อายุสัญญา 30 ปี คาดก่อสร้างเสร็จปี 63 พร้อมอนุมัติร่างสัญญาจ้างจีนออกแบบรายละเอียดรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-โคราช วงเงินกว่า 1.7 พันล้าน นายกฯ เล็งลงนามจีนต้นก.ย. วางเงื่อนไขชำระเงินเป็นสกุลบาท จีนรับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
(- กลุ่มสื่อฯ) โฆษณาติดลบ 11% ศก.กำลังซื้อซึม ธุรกิจชะลอใช้งบ (กรุงเทพธุรกิจ) สมาคมมีเดียฯ ประเมินงบโฆษณาปีนี้มูลค่า 1.08 แสนล้านบาท ติดลบ 11% ปัจจัยเศรษฐกิจ-กำลังซื้อชะลอตัว ส่งผลสินค้าวืดเป้ายอดขายหันลดงบโฆษณาสื่อดั้งเดิม เทงบสื่อดิจิทัล ดันเม็ดเงินขยับอันดับ 2 รองทีวี
(-) ขยับภาษีน้ำหวาน-ไนต์คลับ ปรับรวด 13 สินค้า/ยาสูบ-สุรารอคิวก.ย.'คลัง'ปัดถูกล็อบบี้ (ไทยโพสต์) ครม.ไฟเขียวอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ 13 สินค้า 4 ภาคบริการ ยืนยันไม่เป็นภาระประชาชน ส่วน "ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไพ่" รอคิว ก.ย. "รมช.คลัง" ปัดบริษัทเหล้าล็อบบี้ตั้งเพดานภาษี
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ASAP (เป้า Consensus 8.6 บาท) พิจารณาแนวรับ 7.95 บาท หากต่ำกว่า แนะนำ “Stop loss” แต่หากยืนแนวราคาดังกล่าวได้ แนะนำ “ถือ” ประเมินแนวต้านสั้น 8.5 บาท
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนะนำ 'Let profit run'ประเมินแนวต้าน 4.0 บาท กำหนด Trailing stop 3.36 บาท
ERW* (เป้าพื้นฐาน 7 บาท) ประเมินแนวรับ 5.8 บาท แนวต้าน 6.2 บาท และถัดไป 6.4 บาท (Stop loss 5.5 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มสื่อสาร น้ำหนักการลงทุน 'น้อยกว่าตลาดฯ' ภาพรวมผลประกอบการ 2Q60 ของกลุ่มฯ ลดลง YoY ทรงตัว QoQ อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวดีขึ้นใน 2H60 โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มผู้ประกอบการโทรศัพท์ แต่ยังคงน้ำหนัก ต่ำกว่าตลาดฯ เพราะ แนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไรที่อ่อนแอกว่าตลาดฯ และ PE ที่สูง ขณะที่มีความเสี่ยงเรื่องต้นทุนการประมูลคลื่นฯ ในปี 2561
RATCH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 64 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นกลาง จากผลการดำเนินงานของ โรงไฟฟ้าหงสาที่ดีกว่าคาด ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการกำไรขึ้น 6.1% และประเมินเป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่ Dividend yield สูง 4.9% (เป็นรองเพียง GLOW* ที่เป็นหุ้นปันผล สูง 6.8%)
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘นัยต้าน 1575 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1575 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1575-1586 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่าต้าน 1575 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1575-1568 จุด
แนวรับวันนี้: 1571/1568 แนวต้านวันนี้: 1575/1583
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]