- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 August 2017 16:22
- Hits: 1638
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'ติดตามการเมือง...ถึงเล่นรอบก็ควรเป็นหุ้นดี'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index ปิดทรงๆ ที่ 1569.62 ซึ่งดีกว่าหลายตลาดหุ้นภูมิภาคที่อ่อนลงต่อ ทั้งนี้มีการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มหลัก เช่น ธนาคาร, พลังงาน, อิเลคทรอนิกส์, สื่อสาร เป็นต้น นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ ส่วนอีก 3 กลุ่มขายสุทธิ
ประเด็นสำคัญวันนี้ : ปัจจัยต่างประเทศ – สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นหลังเมื่อวานนี้สหรัฐกับเกาหลีใต้เริ่มทำการร่วมซ้อมรบ (เป็นเวลา 10 วัน) ด้านเกาหลีเหนือระบุว่าดำเนินการดังกล่าวเป็นการ “ราดน้ำมันเข้ากองไฟ” และตลาดจับตาผลประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.60 ปัจจัยในประเทศ - การเติบโตของ GDP ไทยงวด 2Q60 ดีกว่าคาด (+3.7%YoY, +1.3%QoQ) โดยการอุปโภคเพิ่มขึ้นดี โดยเฉพาะใช้บริการขนส่ง +4.7%YoY, +3.0%QoQ การสื่อสาร +9.1%YoY, +16.3%QoQ โรงแรม&ภัตราคาร +7.9%YoY, +6.1%QoQ แต่การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวน้อย การลงทุนภาคเอกชนเริ่มดีขึ้นแต่การลงทุนภาครัฐต่ำกว่าคาด ส่งออกและท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี ทางสศช.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 60 เป็นโต 3.5-4.0% (เดิม 3.3-3.8%) ส่วนปัจจัยจับตาคือ สถานการณ์การเมืองทั้งก่อนและหลังตัดสินคดีรับจำนำข้าว & ขายข้าวจีทูจีในวันที่ 25 ส.ค.นี้
+ CK : กำไร 2Q60 ออกมาดีที่ 668 ลบ. (+122%QoQ) เนื่องจากรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น 51%QoQ ขณะที่ SG&A ลดลง ส่งผลให้ Operating profit margin เพิ่มเป็น 6.1% จาก 3.4% ใน 1Q60 และ 5.6% ใน 2Q59 นับว่าความสามารถทำกำไรดีขึ้นมาก ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเข้ามา 120 ลบ.ใน 2Q60 คิดเป็น 18% ของกำไรสุทธิ แนวโน้มดี คาดจะได้งานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง แนะซื้อ ให้ TP 37 บาท
+ CPN : เราชอบที่บริษัทมีทั้งรายได้ค่าเช่าค่อนข้างแน่นอน (OR กว่า 90%) และมีการเติบโตจากเปิดสาขาใหม่ (2 แห่งปีนี้ และ 2 แห่งปีหน้า) & รับรู้รายได้คอนโดตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป (มีแผนจะเปิดขายคอนโดปีละ 3 โครงการทั้งบนที่ดินที่มีอยู่แล้วและซื้อใหม่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทำเลใกล้กับศูนย์การค้าที่มีอยู่) การขายสินทรัพย์เข้า CPNRF ทำให้ได้เม็ดเงินลงทุนใหม่อีก 11.9 พันลบ. แนะซื้อ ให้ TP 78 บาท
กลยุทธ์หลัก : ยังคงเป็น Selective Buy โดยเน้นไปยังหุ้นพื้นฐานดี กำไรมีแนวโน้มเติบโตแกร่ง & หุ้นที่ธุรกิจมั่นคง จ่ายปันผลสูง ซึ่งหุ้นกลยุทธ์แนะนำสัปดาห์ (16-22 ส.ค.) เป็น COM7 (Growth), KKP (High Dividend Yield) (ดูรายละเอียดได้ในข่าวเช้าวันที่ 16 ส.ค.60)
วิเคราะห์ทางเทคนิค : ตลาดเป็นลบแต่น้อยลง เน้นซื้อตามค่าบวก แนวต้าน 1575-1585 จุด Stop loss ถ้าต่ำกว่า 1565 โดยมีแนวรับ 1555-1550 สำหรับการ SCAN หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น SQ, RS, BCH, IT หุ้นยังอยู่ใน List คือ BEM หุ้นหลุด List คือ CCET, ESSO, DELTA, BDMS ส่วนหุ้นแนะนำที่ให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น BCPG, SVOA, SGP, ASIAN, SPRC, BLA
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ตลาดรอดูผลประชุมที่แจ็กสัน โฮล 24-26 ส.ค.นี้
ดัชนี DJIA ปิด +29.24 จุด หรือ +0.13% ดัชนี S&P500 ปิด +2.82 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิด -3.40 จุด หรือ -0.05% การซื้อขายค่อนข้างซบเซาเพราะรอดูผลประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่แจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ หัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy" โดยจะมีผู้ว่าการธนาคาร รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลกเดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งรวมถึงนางเยลเลน ประธานเฟด และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป และกังวลความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐ หลังที่ปรึกษาทรัมป์ทยอยลาออก ซึ่งกระทบต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมทั้งกังวลสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีด้วย
- การเมืองโลก : เกาหลีใต้และสหรัฐเปิดฉากซ้อมรบเมื่อวานนี้
# เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.60) สหรัฐและเกาหลีใต้เริ่มการซ้อมรบร่วมซึ่งมีระยะเวลา 10 วัน ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ "Ulchi-Freedom Guardian" มีขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปจำนวน 2 ลูกในเดือนที่แล้ว
# ด้านเกาหลีเหนือได้ออกมากล่าวโจมตีว่า ปฏิบัติการครั้งนี้คือการฝึกซ้อมรบเพื่อเข้ามารุกรานเกาหลีเหนือ พร้อมระบุว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้คือ "การราดน้ำมันลงกองไฟ" ซึ่งจะส่งผลให้ความตึงเครียดเหนือคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
• สหรัฐ : ตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดตามในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่ติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.
- ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาน้ำมันลดลงราว 2%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 47.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 51.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ราคาน้ำมันอาจผันผวนในช่วงต้นสัปดาห์นี้เพราะวันอังคารจะเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสำหรับส่งมอบเดือนก.ย.60
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาทองปิดบวกหลังเกาหลีใต้ซ้อมรบร่วมกับสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 1,296.70 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มหลังสหรัฐและเกาหลีใต้ได้เปิดฉากร่วมซ้อมรบเมื่อวานนี้
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
+ สภาพัฒน์ปรับคาดการณ์ GDP ปี 60 เป็นโต 3.5-4.0% (เดิม 3.3-3.8%) หลัง GDP 2Q60 +3.7%YoY
# สศช.หรือสภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP Growth ของไทยปี 60 ขึ้นเป็น 3.5-4.0% (จากเดิม 3.3-3.8%) เนื่องจากเศรษฐกิจไทยใน 2Q60 ขยายตัวดีที่ +3.7%YoY (สูงสุดในรอบ 17 ไตรมาส) และ +1.3%QoQ จากการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐและการส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวเร่งขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเริ่มกลับมาขยายตัวอย่างช้าๆ ส่วนการลงทุนภาครัฐยังปรับตัวลดลงสำหรับ 1H60 เศรษฐกิจไทย +3.5%YoY ปัจจัยหนุนการเติบโต 2Q60 คือ ปริมาณผลผลิตการเกษตรที่ขยายตัวสูงกว่าคาด การส่งออกเติบโตได้ดี (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Economics Focus วันนี้)
• การเมืองไทย : จับตาสถานการณ์ช่วงวันตัดสินคดีจำนำข้าว 25 ส.ค.นี้
ในวันที่ 25 ส.ค.นี้จะมีเรื่องสำคัญที่ติดตาม คือ ผลการตัดสินคดีขายข้าวจีทูจีและคดีรับจำนำข้าว ซึ่งทำให้การเมืองไทยกระเพื่อมขึ้นในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าผลการตัดสินออกมากลางๆ ก็ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นซึ่งเราต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]