- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 August 2017 16:11
- Hits: 1046
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? ภายใต้ปัจจัยกดดันจากประเด็นต่างประเทศ ทั้ง (1) ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถผลักดันมาตรการต่างๆ ตามที่เคยหาเสียง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคาดส่งผลให้เงินสหรัฐฯ ยังอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่า และคาดส่งผลดีต่อทิศทางเงินลงทุนจากต่างชาติ (2) การส่งสัญญาณของเฟดปรับลดงบดุลจากระดับปัจจุบันที่ 4.5 ล้านล้านUSD ที่คาดจะประกาศในเดือนก.ย. นี้ (ประชุมเฟด 19 – 20/9/60) ขณะที่อยู่ระหว่างติดตามการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ๊กสัน โฮล วันที่ 24-26/8/60 โดยเฉพาะสุนทรพจน์ของประธานเฟด จะมีการส่งสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับนโยบายการเงิน?
ส่วนทางด้านปัจจัยในประเทศ Sentiment เป็นบวก หลังสภาพัฒน์ เปิดเผยตัวเลข GDP – 2Q/60 ดีกว่าคาด และเป็นการขยายตัวที่สูงสุดในรอบกว่า 4 ปี พร้อมปรับเพิ่มประมาณการ GDP และการส่งออกในปี’60 ส่วนทางด้าน Fund Flow ภาพรวมคาดยังมีความผันผวน จากแรงซื้อ/ขายสุทธิสลับกัน โดย YTD ยอดซื้อสุทธิสะสม อยู่ที่ 2,227 ล้านบาท ขณะที่เงินบาท ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องในรอบเกือบ 2 ปี ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับลดลง คาดส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEP เป็นต้น
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR, CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(3) กลุ่มพลังงาน เช่น BCP, TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น และ PTT ที่ผลการดำเนินงานยังมีความแข็งแกร่งต่อเนื่อง
(4) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง 2Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น MONO และ WORK
(5) กลุ่มท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว เช่น CENTEL, MINT
(6) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว เช่น AOT
(7) กลุ่มเดินเรือ จากดัชนีค่าระวางเรือที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง เช่น PSL
SET SET50 SET100
1,569.62 +3.09 999.27 +2.57 2,239.95 +5.64
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +29.24, NASDAQ -3.40, S&P +2.82, FTSE -5.10, CAC -26.56 และ DAX -99.20
จากการเข้าซื้อเก็งกำไร หลังดัชนีปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังได้รับปัจจัยกดดันจาก (1) ความไม่แน่นอนการเมืองของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ปธน.ทรัมป์ และ (2) สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังเกาหลีใต้และสหรัฐ เปิดการซ้อมรบวานนี้ เป็นระยะเวลา 10 วัน ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ "Ulchi-Freedom Guardian" ในขณะที่ยังมีความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือและยังอยู่ระหว่างจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง วันที่ 24 – 26/8/60 ภายใต้หัวข้อการประชุม "Fostering a Dynamic Global Economy"
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. -US$1.14 อยู่ที่US$47.37 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการขายทำกำไร หลังราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นภายใต้ เอ็กซอน โมบิล คอร์ป ปิดการทำงานของหน่วยกลั่นน้ำมันย่อยแห่งหนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันที่เมืองเบย์ทาวน์ รัฐเท็กซัส และรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ที่มีการใช้งานล่าสุด ลดลง 5 แท่น อยู่ที่ 763 แท่น
ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจปรับตัวผันผวนในช่วงต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากวันอังคารจะเป็นวันสุดท้ายของการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI สำหรับส่งมอบเดือนก.ย.
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.67 1.89 3.07
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 36,269.92
สถาบัน 2,268.83
บัญชีหลักทรัพย์ -433.03
ต่างประเทศ -1,042.24
ในประเทศ -793.56
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.18%(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.07 อยู่ที่ 13.19
หุ้นแนะนำ : BR
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร. 02-684-8788