- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 August 2017 16:06
- Hits: 883
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1575 แนวรับ 1555
SET Index: 1572.78 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1570 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับที่ระดับ 1570 จุดลงไป ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1555 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1540 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่ 1585 จุด
แนวต้าน : 1574 และ 1575
แนวรับ : 1570 และ 1567
SCC = 490 / 498, PTTGC = 74.00 / 75.00, SCB = 143 / 144, IVL = 38.00 / 38.50, INTUCH = 54.00 / 55.00
Ama Marine (AMA TB; THB 16.70) – ซื้อ
แนวต้าน : 18.00 และ 18.50
แนวรับ : 16.70 และ 16.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 30
แนะนำซื้อ AMA โดยมีแนวรับที่ 16.70 และ 16.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18.00 และ 18.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.00 ลงไป
FN Factory Outlet (FN TB; THB 4.22) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.36 และ 4.50 / แนวต้านสำคัญ 4.70
แนวรับ : 4.22 และ 4.18
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง และเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเกิดขึ้น
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI เคลื่อนไหวออกด้านข้างที่ระดับ 30
แนะนำซื้อ FN โดยมีแนวรับที่ 4.22 และ 4.18 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.36 และ 4.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.12 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…แนวโน้มยังอ่อนไหว
ผลตอบแทนของตลาดหุ้นสหรัฐในแต่ละเดือน จะแตกต่างกันไป โดยผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือน ส.ค. และ ก.ย. มักจะติดลบ นับตั้งแต่ปี 1950 ถึง2016 หากดูจากสถานการณ์ในปัจจุบัน นักลงทุนต่างคาดหวังว่าตลาดหุ้นในสหรัฐยังมีแนวโน้มเกิดความผันผวนสูง หลังงบ Q2/17 ออกมาหมดแล้ว เหตุที่มองว่าจะผันผวนในรอบนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้มองเรื่องอัตราการทำกำไรของตลาดว่าจะไม่ดี แต่มองเรื่องตลาดเริ่มแพงและกำลังมีปัจจัยสั่นคลอนทางการเมือง จนอาจทำให้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต้องล่าช้าออกไป จากรูปด้านซ้าย พบว่าผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือน ก.ย. ของS&P 500 จะติดลบประมาณ -0.5% ดาวโจนส์ -0.8% และ NASDAQ -0.6%
หากตลาดหุ้นสหรัฐไปไม่ไหว ไม่ว่าจะมาจากประเด็นไหน ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่จะผันผวนตาม แต่จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละตลาด แต่หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาดดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะสร้าง New high ไปเรื่อยๆ และจะหนุนตลาดหุ้นเอเชียให้ขึ้นต่อ รอบปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นมาแล้ว 9 ปี ผ่านการปรับฐานที่ไม่ค่อยแรง เนื่องจากมีตัวหนุน อย่างการคาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการปฎิรูปภาษีและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน นอกนั้นมาจากการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้า อย่าง จีน ยุโรปและญี่ปุ่น ส่งผลให้ต่างมองว่าเศรษฐกิจและอัตราการทำกำไรของตลาดสหรัฐ จะยังขยายตัวได้ต่อไปอีก 2-3 ปี
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงปลาย ส.ค.ถึงต้นเดือน ก.ย. คาดจะยังผันผวนตามตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หากคลายตัวลง ตลาดจะเดินหน้าต่อ แต่หากทวีความรุนแรงขึ้น คงปรับตัวลงกันทั้งโซน จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปัญหาว่าจะมากหรือน้อย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทย หากเกิดความผันผวนขึ้น น่าจะปรับตัวลงน้อยกว่าภูมิภาค เพราะยังไม่ขึ้น ดังนั้นการลงทุนในช่วงใกล้ๆ นี้ อาจต้องกลับมาพิจารณา หุ้นที่มีความผันผวนต่ำ (Low Beta)หรือหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง (Dividend yield) หรือหุ้นที่ยังไม่ขึ้น (Underperform) หรือหุ้นที่มีปัจจัยหนุน จากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างถ่านหิน
ในจำนวนนี้ เรามอง หุ้นผู้ผลิตอาหาร เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นขยับขึ้นน้อยมาก จากแรงกดผลการดำเนินงานที่ออกมายังไม่ดี จากรูปด้านขวา เราแสดงผลตอบแทนรายเดือนของหุ้นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม 19 บริษัท พบว่า ดัชนีกลุ่มติดลบมา 4 เดือนติดต่อกันแล้ว โดยหุ้นในกลุ่มที่เด่นๆอย่าง CPF TU GFPT และ BR ต่างแกว่งตัวในกรอบแคบๆ มีเพียง BR ที่ขึ้นได้มากที่สุด ส่วนที่แย่สุด คือ TU ขณะที่ CPF ขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยเล็กน้อย โดยหุ้น CPF หากดูการแปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นรายเดือน จะพบว่า ส่วนใหญ่จะแกว่งตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเป็นส่วนใหญ่ เราจึงมองว่าหุ้นตัวนี้ น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยราคาหุ้นที่เทรดกันในตอนนี้ ยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายต่ำสุดของนักวิเคราะห์ จึงมีความเสี่ยงต่ำ เพียงแต่ตอนนี้รอปัจจัยที่จะมาหนุน
แนวโน้มตลาดวันนี้ คาดจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ต่อไป จากผลของราคาน้ำมันและสถานการณ์ในเกาหลี นอกนั้นยังไม่เห็นปัจจัยในเชิงบวกใหม่ๆ มีเพียงตัวเลข GDP Q2/17 ขยายตัวมากกว่าคาด ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางและไร้ทิศทาง วันนี้มองแนวต้านที่ 1572-1575 จุดและแนวรับที่ 1566-1562 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BANPU CPF IVL และ TPIPP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,572.78 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย18,617.64 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นในกรอบแคบ โดยมีแรงหนุนนำจากกลุ่มธนาคาร หลัง GDP ใน Q2/60 โตกว่าคาด ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนรอการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด (24-26 ส.ค.) และสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่สหรัฐฯและเกาหลีใต้ร่วมซ้อมรบเมื่อวานนี้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบๆ ต่อเนื่อง ภาพรวมตลาดยังคงอยู่ในภาวะไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ในแง่การซื้อขายยังเป็นไปในลักษณะเก็งกำไรระยะสั้นตามรอบการแกว่งตัวของSET Index โดยนักลงทุนจะวนสลับเข้าซื้อเก็งกำไรในกลุ่มที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาก่อนหน้า เรายังมองว่าตลาดโดยรวมยังคงไม่แข็งแรง และยังมีปัจจัยที่ยังไม่แน่นอน ดังนั้นหาจังหวะขายลดพอร์ตลงทุนในจังหวะที่ SET ดีดตัวขึ้น เรายังแนะนำกลุ่ม Defensiveแนะนำ TTW, RATCH, EA
Technical Pick (PM) ...
AmaMarine (AMA TB; THB 16.70) – ซื้อ
FN Factory Outlet (FN TB; THB 4.22) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]